fbpx

[ความน่าจะอ่าน] หัวใจสำคัญของ Makoto Marketing: การตลาดแบบจริงใจสไตล์ญี่ปุ่น

หัวใจเป็นอวัยวะชิ้นสำคัญของมนุษย์

หากหยุดเต้น ชีวิตย่อมสูญสลาย

เมื่อเราบาดเจ็บหรืออวัยวะส่วนไหนเสียหาย ถ้าไม่หนักหนาถึงชีวิต คนก็จะมักจะพูดว่า ไกลหัวใจ เป็นการบอกว่าอาการไม่ได้โดนจุดสำคัญจนน่ากังวลมากนัก

ด้วยเหตุนี้เอง คนจึงมักใช้คำว่า ‘หัวใจ’ เพื่อเปรียบเปรยหรือพูดถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การบริหาร การทำงาน 

หากรู้ว่าหัวใจของสิ่งสิ่งนั้นคืออะไร และใส่ใจมันมากๆ เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดี 

กับเรื่องธุรกิจก็เช่นกัน

แต่แปลก เวลาเราพูดถึงหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ กลับเป็นคำถามที่ตอบไม่ง่าย 

เพราะการทำธุรกิจให้อยู่ได้ อยู่ดี และยั่งยืน ลึกซึ้งกว่านั้น 

บางคนแทบจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบ

แรกเริ่ม เราอาจคิดเรื่องยอดขายเป็นหลัก ทำยังไงก็ได้ให้เห็นตัวเลขกำไรมากกว่าขาดทุน 

ทำสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพ และมีมูลค่ามากพอที่คนจะยินดีจ่าย 

ปัญหาน่าจะเริ่มตรงจุดนี้ เรามองคำว่า ‘คุณภาพ’ และ ‘มูลค่า’ ไม่เหมือนกัน 

เจ้าของกิจการบางคนคิดว่าทำของมาขายราคาถูกที่สุด คุณภาพพอใช้ น่าจะได้ใจคนมากกว่า  

บางคนก็คิดตรงกันข้าม ใส่ใจและเวลากับการผลิตสินค้า ประณีตกับมันโดยคิดถึงผู้ซื้อก่อนเสมอ วางขายด้วยราคาที่ไม่ถูก แต่สมเหตุสมผล  

หลักการข้อหลังดูเหมือนดีกว่า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ ด้วยบริบทที่แตกต่าง ปัจจัยรอบด้านทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้สารพัด

ยิ่งยุคนี้ เรามีเครื่องมือทางการตลาดและการสื่อสารมากมายเต็มไปหมด

ทำธุรกิจจึงไม่จบแค่ผลิตสินค้า ต้องมานั่งคิดว่าจะซื้อ Facebook Ad อย่างไร เท่าไหร่ ต้องใช้ influencer คนไหนถึงจะมีคนเห็นมากที่สุด 

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ไม่ดี ใช้เป็นก็มีประโยชน์ แต่ปัญหาคือเรามีเครื่องมือมากมายล้นเกิน ถ้อยคำโฆษณาชวนเชื่อของเครื่องมือเหล่านั้นมักพาเราหลงทาง เห็น tools ก่อน solution แทนที่จะทำธุรกิจตามความเชื่อ บางครั้งเราทำเพื่อตามหาตัวเลข engagement ที่สวยหรู แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นแค่แขนขา ไม่ใช่หัวใจ

Makoto Marketing คือหนังสือที่เล่าว่า เราจะหาหัวใจในการทำธุรกิจเจอได้อย่างไร

เป็นหนังสือที่มีคำว่า ‘ใจ’ หรือ ‘หัวใจ’ เยอะมาก 

แต่แทนที่ผู้เขียน–เกตุวดี Marumura หรือ ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ จะให้คำตอบผู้อ่าน

เธอกลับให้คำถามก่อน

หนังสือเล่มนี้มี 20 บท ช่วงต้นของทุกบท เกตุวดีจะเล่าเรื่องลูกศิษย์ของเธอที่มักมาพร้อมปัญหา หรือโจทย์ทางธุรกิจที่แก้ไม่ออก

จากนั้น บทความของผู้เขียนจะพูดถึงธุรกิจที่มีปัญหาคล้ายกับของลูกศิษย์ที่เอ่ยมาตอนต้น และคลี่ให้เห็นทีละจุดว่าเขาแก้มันอย่างไร

ดูเหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่าย 

จบทุกบท มีแบบฝึกหัดให้ทำ ท้ายเล่มมีข้อสอบไฟนอล ซึ่งผมคิดว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากของหนังสือเล่มนี้

ผู้เขียนที่เชื่อเรื่องการตลาดที่ใช้หัวใจนำ ไม่ได้ให้คำตอบตรงๆ แต่อยากให้ผู้อ่านค้นพบคำตอบนั้นด้วยตัวเอง

เพราะการตามหาหัวใจของธุรกิจ ถ้าเราค้นพบด้วยตัวเอง จะเข้าใจมันมากกว่าการได้รับตรงๆ เหมือนแม่นกที่ป้อนอาหารลูกนกแบบเข้าปาก

การจะทำอย่างนั้นได้ ต้องผ่านการขบคิด ทบทวน ตั้งคำถาม 

เส้นทางกว่าจะได้คำตอบที่ถูกต้องนั้นล้ำค่า เพราะมันทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไป หลักการ ขั้นตอน และเหตุผล ชุดคำที่เป็นพื้นฐานเหล่านี้แท้จริงแล้วสำคัญมาก

น่าเสียดายที่ยุคสมัยนี้การทุ่มเวลาให้กับการค้นหาตัวตนและความเชื่อ ดูเป็นเรื่องเสียเวลา เปลืองแรง ทั้งที่เส้นทางนี้จะพาเราไปสู่หัวใจที่แท้จริง 

ตัวอย่างทางธุรกิจที่เกตุวดีหยิบยกมาเล่า มักไม่ได้พูดถึงแค่ทฤษฎี หรือหลักปฏิบัติแบบทื่อๆ 

ทุกบท จะเล่าเรื่องชีวิตของเจ้าของกิจการควบคู่กันไปด้วย (ส่วนมากเป็นเจ้าของกิจการชาวญี่ปุ่นตามความเชี่ยวชาญของผู้เขียน) ทำให้เห็นว่าพื้นฐานชีวิตเขาผ่านอะไรมา เจอปัญหาอะไรบ้าง กว่าจะได้พบคำตอบที่แท้จริง 

Makoto Marketing จึงไม่ใช่แค่หนังสือแนะนำการตลาดอย่างเดียว 

มันยังเล่าเรื่องชีวิตของมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยความเชื่อ ศรัทธา และเทสิ่งเหล่านั้นลงไปในงานของตัวเอง 

อ่านไปเพลินๆ บางทีก็ลืมว่านี่คือหนังสือการตลาด ดูเหมือนจะเป็นหนังสือที่เล่าชีวิตผู้คนมากกว่า 

นั่นเป็นเพราะคนที่ทำธุรกิจอย่างใส่ใจมากๆ จะนำความเชื่อและตัวตนใส่เข้าไปในงานอย่างเต็มที่

หลักการตลาดของพวกเขาไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่เป็นหลักการใช้ชีวิตที่ตนยึดถือ

เห็นงาน เห็นชีวิต

เห็นงานที่เปี่ยมด้วยความเชื่อ ก็เหมือนเห็นชีวิตของผู้คนที่เปี่ยมด้วยความหวัง 

ยุคสมัยนี้เต็มไปด้วยปัญหา บ้างก็ว่ามันคือยุคแห่งความสิ้นหวัง 

Makoto Marketing ชี้ให้เห็นความหวังนั้น ผ่านเรื่องราวของเจ้าของธุรกิจชาวญี่ปุ่น

ท้ายเล่มของหนังสือบอกว่า การตลาดที่มาจากใจ ทั้งใส่ใจและจริงใจ จะทำให้ผู้คนรวมถึงตนเองมีความสุข 

อันที่จริง ถ้าเปลี่ยนคำว่า ‘การตลาด’ เป็นอย่างอื่น หลักการนี้ก็ดูเหมือนยังใช้การได้ดี

ทำทุกอย่างด้วยหัวใจ

นี่อาจเป็นหัวใจสำคัญที่ผู้คนทุกยุคทุกสมัยตามหา

MOST READ

Spotlights

14 Aug 2018

เปิดตา ‘ตีหม้อ’ – สำรวจตลาดโสเภณีคลองหลอด

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย พาไปสำรวจ ‘คลองหลอด’ แหล่งค้าประเวณีใจกลางย่านเมืองเก่า เปิดปูมหลังชีวิตหญิงค้าบริการ พร้อมตีแผ่แง่มุมเทาๆ ของอาชีพนี้ที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาเนิ่นนาน

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Aug 2018

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save