fbpx

เปิดความเห็นของนักอ่าน ใน ‘ความน่าจะอ่าน ขวัญใจมหาชน 2022’

หลังเชิญชวนเหล่าสุดยอดนักอ่านมาร่วมสนุกกับกิจกรรม ‘ความน่าจะอ่าน ขวัญใจมหาชน’ ในที่สุด เราก็ได้รายชื่อสุดยอดหนังสือที่ครองใจคนประจำปีนี้ ได้แก่ ‘กว่าจะครองอำนาจนำ’ ผลงานของ อาสา คำภา จากสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน

แต่ไม่หมดเพียงแค่นี้ เรายังมีหนังสืออีกหลายเล่มและเหตุผลเฉียบๆ จากสุดยอดนักอ่านอีกหลายคน ไปอ่านกันเต็มๆ ได้เลย!


หนังสือขวัญใจมหาชน 2022



กว่าจะครองอำนาจนำ

ผู้เขียน : อาสา คำภา

สำนักพิมพ์ : ฟ้าเดียวกัน


รายชื่อหนังสือแนะนำ



แนะนำโดยคุณเปี่ยมพร

ที่ผ่านมา มนุษย์ไม่เคยไร้หัวใจ

Humankind: A Hopeful History

ผู้เขียน :Rutger Bregman

ผู้แปล : ไอริสา ชั้นศิริ

สำนักพิมพ์: Be(ing)

“ในยุคที่หันไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวร้าย หนังสือเล่มนี้ช่วยให้มองเห็นด้านดีๆ ที่ยังมีอยู่ของมนุษย์โลกนี้”




แนะนำโดยคุณณัฐกมล

เผด็จการความคู่ควร 

The Tyranny of Merit

ผู้เขียน : Michael J. Sandel

ผู้แปล : สฤณี อาชวานันทกุล

สำนักพิมพ์ : Salt Publishing

“เราอยู่ในช่วงอายุ 30-40 ปี ตอนเด็กจะถูกปลูกฝังเรื่องการศึกษาให้เป็นเลิศ เพื่อจะได้มีชีวิตเติบโตไปให้ดีขึ้น 

เรามองเป็นเรื่องปกติ ถ้าหัวดี ก็ต้องสอบติด มันเป็นความอหังการที่ถูกปลูกฝังมา จวบจนเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ และได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ย้อนมองว่า การบีบบังคับให้เก่ง ทำให้คนคู่ควรกับสิ่งที่ดีกว่า มันใช่หรือ ยิ่งได้เห็นเด็กยุคนี้เปิดความในใจกับโลกออนไลน์มากขึ้น หลายคนไม่มีความฝัน ไม่ต้องการอะไรในชีวิต หลายคนป่วยซึมเศร้า มีปัญหาสุขภาพจิต ทุกอย่างมันเกิดจากการบีบคั้นของสังคมหรือไม่ มันฉุกให้คิดมาก 

ยิ่งได้มีชีวิตภายใต้ระบอบเผด็จการจริงๆ ทำให้รู้ว่าเราถูกปลูกฝังค่านิยมผิดๆ อย่างมาก

ความสุขของการใช้ชีวิตไม่จำเป็นต้องแข่งกับใคร หลายคนอาจอยากแข่ง อยากเป็นเลิศ ก็ปล่อยเขาไป แต่บางคนก็อยากมีชีวิตเรียบง่าย เพื่อนของเราคนหนึ่ง เรียนด้วยกันมา เขาก็อยากทำอาหารมีชีวิตปกติ ไม่อยากถูกเร่งเร้าให้มีตัวตน มีชื่อเสียง เขาก็อยากอยู่อย่างเขา เราก็เช่นกัน ความแตกต่างมันงดงามจริงๆ

ตอนที่ชอบของหนังสือคือตอนที่พวกกรรมกรนั่งดื่มเบียร์แล้วคุยกันถึงชีวิต พวกเขาพอใจกับสิ่งที่ตนไปแล้ว ต้องทะเยอทะยานเป็นหัวหน้าทำไม มันนึกถึงตอนทำข่าวแล้วเจอพวกตำรวจประทวนที่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่จำเป็นต้องก้าวไปติดยศนายร้อยเลย บางทีชีวิตมนุษย์ไม่จำเป็นต้องทะเยอทะยาน แค่สังคมจัดทุกอย่างให้พร้อมกับความหลากหลายคงจะดีกว่านี้

บางทีชีวิตก็ควรจะนิ่งๆ และยอมรับในคนอื่น หนังสือเล่มนี้จะแทะเปลือยทุกอย่าง ที่เราคิดว่าเก่งกว่าแล้วจะคู่ควรกว่านั้นอันตราย เพราะมันทำให้โลกบิดเบี้ยว โลกมีคนไม่เก่งและคนถูกทิ้งอีกมาก พวกเขาคอยถูกตอกย้ำว่าไม่คู่ควร ซึ่งนั่นไม่ใช่โลกที่เราอยากให้มันเป็น”




แนะนำโดยคุณยรรยง

แปดขุนเขา 

Le otto montagne

ผู้เขียน : Paolo Cognetti

ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

“เหมือนจะไม่หวิวหวาน เหมือนจะไม่ร้าวราน เหมือนจะไม่ลึกซึ้ง เหมือนจะไม่…..แต่ทั้งหมดนั้นช่างงดงามเหลือเกิน”




แนะนำโดยคุณภรณี

นั่งกลางไฟ

Sitting in the Fire : Large group transformation using conflict and diversity

ผู้เขียน : Arnold Mindell

ผู้แปล : ณฐ ด่านนนทธรรม

สำนักพิมพ์ : เสมสิกขาลัย

“เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่ผู้คนมีความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย แต่ประเด็นที่สำคัญทางสังคมหลายประเด็นกลับถูกกดทับไว้ แทนที่จะได้นำมาถกเถียง พูดคุยกันเปิดเผย เพื่อพัฒนาหาทางออกร่วมกัน หนังสือเล่มนี้ ช่วยเปิดมุมมองให้เรา กล้าเข้าไปเผชิญกับความขัดแย้ง ทั้งๆ ที่เคยเป็นคนที่ใจสั่นทุกครั้ง หากต้องอยู่ในสนามคารมที่มีการปะทุอารมณ์

หนังสือเล่มนี้ ช่วยให้เราเห็นว่าทั้งแสงสว่างและความมืดมีคุณค่าพอๆ กัน หากเราพยายามรับฟังฝ่ายตรงข้ามจริงๆ โดยพยายามทำความเข้าใจกับด้านที่ซ่อนเร้นในตัวเรา เราจะเข้าใจและเห็นใจอีกฝ่ายหนึ่งมากขึ้น เพราะสิ่งที่เรามักปฏิเสธหรือไม่เห็นด้วยอย่างแรงกล้า มักจะเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเราเองด้วย หนังสือมีตัวอย่างกรณีศึกษาที่น่าสนใจของความขัดแย้งในระดับโลก แต่เราสามารถนำบทเรียนมาฝึกใช้ได้ ทั้งกับระดับของความขัดแย้งภายในตัวเอง ระหว่างเพื่อน คู่ครอง ครอบครัว จะถึงระดับกลุ่ม องค์กร ชุมชน ฯลฯ เพราะหากเราสร้างพื้นที่ให้ปลอดภัยพอ ที่ผู้คนที่กำลังขัดแย้งสามารถจะร้องไห้ได้ โกรธได้ เรียกร้องได้ แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้ และมีกระบวนการที่นำพาให้คนทะเลาะกันแบบสร้างสรรค์ได้ ความขัดแย้งนั่นแหละจะเป็นเมล็ดพันธุ์ของการเปลี่ยนแปลง”




แนะนำโดยคุณสหัสวรรษ (Just Read)

2030 : อนาคตอันใกล้ไม่มีอะไรเหมือนเดิม 

ผู้เขียน : Mauro F. Guillén

ผู้แปล : ไอริสา ชั้นศิริ

สำนักพิมพ์ : Biblio

“คุณไม่มีทางเดาอนาคตออกแน่ๆ แม้จะแค่เวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ต้องเปลี่ยนก่อน คือความอคติที่มีต่อโลกใบนี้ เมื่ออ่านเล่มนี้จบคุณจะมองอนาคตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”




แนะนำโดยคุณอติศักดิ์

เดินไปดวงดาว

Walk to the stars

ผู้เขียน : รับขวัญ ธรรมบุษดี

“‘เด็กเติบโตในเมืองสีฝุ่น ถูกบอกให้แบกเป้ใบใหญ่ไว้ใส่ความฝัน ใส่รองเท้าเหล็กพื้นหนาปกป้องตนเองเอาไว้ เพื่อจะเดินได้ไกล เป้าหมายของชีวิตคือเดินไปให้พ้นจากเมืองนี้ ให้หมั่นเดิน สักวันจะถึงดวงดาว

เป้และรองเท้าขยายขนาดตามความฝันที่เพิ่มขึ้นและตัวเราที่เติบโต ครูบอกเด็กว่า ความหนักของเป้และรองเท้าเป็นเครื่องบอกว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ไหม เด็กมีความฝันว่าจะเปลี่ยนรองเท้าให้เบาและเลิกแบกเป้  แต่แม่บอกว่าห้ามถอดรองเท้า

พอดีกว่า ไม่สปอยล์ 555

หนังสือภาพเล่มนี้เขียนขึ้นจากงานวิจัย ‘เดินไปดวงดาว: ทุนนิยมไทยในกระแสเสรีนิยมใหม่กับความฝันที่ไม่มีวันไปถึง’ ของษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี เป็นหนังสือภาพขนาดค่อนข้างยาว มีประเด็นซุกซ่อนอยู่ภายในที่ชวนคิดเยอะมาก ใช้อุปมาที่เข้าใจได้ทันทีและส่งผลต่อความรู้สึกรุนแรง

เด็ก ที่อาจจะหมายถึงคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นในสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ถูกหลอกซ้ำซากให้มีฝัน… ฝันที่ไม่อาจเอื้อมถึง

เด็กค้นพบว่า

“ความฝันของหนูคือ ทุกคนจะได้ถอดรองเท้าหนาๆ และเอาเป้ออกจากหลังให้หมด” 

และ 

“เราเดินไปดวงดาวไม่ได้”

จะบรรลุความฝันได้ยังไงหนังสือไม่บอกไว้ แต่การค้นพบว่าเราถูกพันธนาการไว้ตลอดมาอาจจะเป็นกุญแจสำคัญดอกแรกๆ ที่จะปลดปล่อย”




แนะนำโดยคุณชนาธิป

ลุกไหม้สิ! ซิการ์

ผู้เขียน : ชัชชล อัจฯ

สำนักพิมพ์ : P.S.

“รวมบทกวีที่บรรจุความรู้สึกปะทุภายใน ที่เดินทางมาพร้อมกับกวี ชัชชล อัจฯ คดเป็นเสบียงไว้กินยามหิวหรือ ยามอยากเมามาย ก็อร่อย เดือดดาล และอิ่มเอม กวีสะท้อนความรู้สึกของตัวเองและขณะเดียวกันก็สะท้อนความรู้สึกของผู้อ่านไปด้วย กล่าวได้ว่าจงลุกไหม้ฯ นั้นมีความเป็นกวีนิพนธ์ร่วมสมัย ซึ่งหากเว้นว่างจากงานวิชาการแล้ว หรือวรรณกรรมสั้นยาว อยากลองชวนอ่านกวีสักชิ้น บิกินทีละน้อยก็ไม่ว่ากัน”




แนะนำโดยคุณเมธาวี

ปลูกดอกไม้ในดวงใจ 

ผู้เขียน : moonscape

สำนักพิมพ์ : – (พิมพ์อิสระ)

“’เราเป็นเหมือนภาพถ่ายของจักวาลในวินาทีที่เราเกิด’

คือโปรยหนึ่งบรรทัดบนปกหลังหนังสือไซส์เอห้าทาลวดลายเสื่อปิกนิกสีเขียวเย็นตาเย็นใจที่ชวนให้หยิบขึ้นมาเชยชม และจะยิ่งทรงพลังเมื่อกลับมาดูอีกครั้งหลังอ่านจบ

ส่วน ‘จะงานเขียนหรืองานอดิเรก จะทำเล่นๆ เดี๋ยวเดียวหรือทำไปตลอด เธอมีความสุขที่ได้ทำในเวลานั้นก็พอแล้ว’

คือประโยคบนที่คั่นหนังสือ

นี่คือเรื่องราวของ ‘ย่านาง’ นักเขียนสาววัยต้นสามสิบผู้ดำรงชีพด้วยผงชูรสในมาม่ากับคาเฟอีนในกาแฟ เขียนนิยายวายแมสๆ รับใช้ทุนนิยม กับหลายชีวิตร่วม ‘แชร์เฮาส์ของเหล่านักเขียน’ (บ.ก. นักวาด และอื่นๆ ด้วย) ที่มีความเป็นมนุษย์อย่างยิ่ง ล้วนหักพังในแบบของตัวเองและงดงามเพราะเป็นเช่นนั้น อ่านๆ ไปก็พบว่ามันเป็นเรื่องราวของเราด้วยเหมือนกัน

เป็น slice of life อุ่นๆ เชิดชูทุกความพยายามและความหลากหลาย ไม่ได้ประโลมโลกแต่ ‘ปลูกดอกไม้ในดวงใจ’ คนอ่าน จุดไฟฝันให้อยากหยิบจับปากกาขึ้นมาสร้างสรรค์บ้าง และคิดว่าคนรักหนังสือ รวมถึงคนในวงการหนังสือจะต้องตกหลุมรัก”




แนะนำโดยคุณจักรกฤษณ์

ให้รักเป็นบทกวีชั่วชีวิต 

ผู้เขียน : สะอาด

สำนักพิมพ์ : Kai3

“อ่านเล่มนี้ มีรู้สึก อยู่ตรงหน้า

กระจกเงา มหึมา ส่องหน้าหลัง

ผังชีวิต ขีดเขียนไว้ ในผ่านมา

ได้นำพา ความสุขเศร้า เคล้าอารมณ์”




แนะนำโดยคุณชุติเดช

ในแดนวิปลาส บันทึกบาดแผลสามัญชนบนโลกคู่ขนาน

ผู้เขียน : รัช

สำนักพิมพ์ : Paragraph

“”ทันใดนั้น หนึ่งในพวกเขาก็ตรงมาที่ป้าสลอธ เป็นหญิงวัยกลางคน ผิวค่อนข้างคล้ำดูแห้งกร่อน ใส่ชุดสีขาว เธอถือวิสาวะจู่โจมจับมือป้าสลอธ แล้วรีบกล่าวถ้อยคำสั้นๆ ด้วยสีหน้าที่ดูจริงใจมากกว่า “รักษาสุขภาพด้วย” ก่อนจะจากไป 

“เหมือนไฟฟ้าในหัวลัดวงจร ฉันควรเข้าใจภาพนี้ว่าอย่างไร…” (น. 60-61)

เป็นฉากจบที่ผมชอบมากที่สุดในหนังสือ “ในแดนวิปลาส: บันทึกบาดแผลสามัญชนบนโลกคู่ขนาน” (2564) โดย รัช พิมพ์โดย สำนักพิมพ์ Paragraph เพราะน่าจะเป็นฉากที่สื่อถึง ‘ความเป็นพวกอนุรักษนิยม’ ในสังคมไทยได้ดี 

ตัวเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่ไม่แยแสต่อการกระทำที่เหี้ยมโหดที่เกิดขึ้นในสังคมแม้แต่น้อย ปากบอกต้องทำดี ปฏิบัติดี ต้องทำนั้นทำนี้มีเมตตากรุณา 

แต่พอถึงเวลากลับ ‘เงียบ’ และสิ่งที่น่ารังเกียจมากๆ คือไม่ยอมรับผิดอะไรใดๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เป็นคนที่มีเหตุผลมากๆ การปฏิบัติธรรมสอนว่าคนเราต้องหาเหตุหาผล มีเหตุมีปัจจัยต่างๆ แต่พอมาเจอเรื่องบางอย่างที่ขัดสันดานของตัวเองกลับปฏิเสธอย่างไร้เหตุผล แบบหน้าตาเฉย 

บางทีก็ทำอย่างที่ฉากในข้างต้นแสดงให้เห็น คือทำชั่วไม่สุด ชั่วครึ่งๆ กลางๆ เชื่อครึ่งกลางๆ ตราบเท่าที่ตัวเองยังได้รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นสถานะพิเศษบางอย่าง และอื่นๆ อีกมากมาย 

ในท้ายที่สุดผมว่างานชิ้นนี้ควรอ่านอย่างยิ่งเพื่อรับฟังเสียงของ ‘สามัญชน’ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ‘สังคมคนดี’ ที่บอกนักบอกหนาว่า ‘ประเทศไทยนี้ เป็นดินแดนที่น่าอยู่เสียเหลือเกิน’

หนังสือเล่มนี้ได้ตอกย้ำความเป็น ‘ดินแดนวิปลาส’ ‘ดินแดนแห่งความย้อนแย้ง’ ‘ดินแดนที่มือถือสากปากถือศีล’ และ ‘ดินแดนที่น่ารังเกียจ’ ยิ่ง”




แนะนำโดย – (ไม่ประสงค์ออกนาม)

พจนานุกรมสร้างชาติ: อุดมการณ์รัฐไทยในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน

ผู้เขียน : มานิตา ศรีสิตานนท์ เหลืองกระจ่าง

สำนักพิมพ์ : ศิลปวัฒนธรรม

“เวลาค้นความหมายของแต่ละคำ พจนานุกรมคงเป็นหนึ่งในทางเลือกแรกของใครหลายคน ไม่ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน สาขาวิชาต่างๆ เองก็หลีกหนีการใช้ภาษาและค้นหาคำจากมันได้ยาก และมันยังเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของทุกคนผ่านคำศัพท์และหลักเกณฑ์ทางภาษา

หนังสือเล่มนี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่พื้นที่ที่ควรเป็นกลางอย่างพจนานุกรมก็ถูกกำหนดโดยผู้มีอำนาจได้ และมันเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดเส้นทางพัฒนาการของมัน อีกทั้งมันยังถูกผลิตซ้ำในทุกชั่วขณะเพราะเราทุกคนใช้ภาษาเป็นเครื่องมือสื่อสาร เหมาะสำหรับผู้ศึกษาการใช้ภาษาและการกำหนดมาตรฐานของมันในสังคม

แต่พออ่านไปเรื่อยๆ คำถามก็เริ่มตามมา 

ถ้าแม้แต่พจนานุกรมก็ไม่เป็นกลางอย่างที่คิด แล้วคำต่างๆ ในนั้นกำหนดสังคมของเราได้ อะไรคือความจริง? ถ้าเปลี่ยนรูปแบบของภาษาที่เราใช้ จะลดอคติในตัวเราและในสังคมได้หรือไม่? สังคมรูปแบบใหม่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่? แค่เปลี่ยนพจนานุกรมก็พอแล้วหรือ?”




แนะนำโดยคุณศุภศิลป์

กว่าจะครองอำนาจนำ

ผู้เขียน : อาสา คำภา

สำนักพิมพ์ : ฟ้าเดียวกัน

“เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่สะท้อนถึงระเบียบสังคมในปัจจุบันว่า มีความเป็นมาอย่างไร และสะท้อนถึงความสามารถของผู้เขียนที่จัดระเบียบข้อมูลจำนวนมากออกมาให้เป็นระบบและเข้าใจง่าย”



แนะนำโดยคุณธีรภัทร์

หงส์ขาวกับค้างคาว

ผู้เขียน : Keigo Higashino

ผู้แปล : ดนูรัตน์ ทุ่งบูรพา

สำนักพิมพ์ : ไดฟุกุ

“เป็นการไขคดีฆาตกรรมที่ทั้งสนุกซับซ้อน หักมุมสุดดราม่า เเล้วยังสะท้อนภาพจิตใจของสังคมญี่ปุ่น ทำให้เห็นในหลายมุมมองเมื่อคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น”




แนะนำโดยคุณ Sons

น้ำตาเหือด แล้วเลือดตก: สาธกการเมืองไทยในวรรณกรรมโลก

ผู้เขียน : ไชยันต์ รัชชกูล

สำนักพิมพ์ : สมมติ

“การใช้ภาษาลึกล้ำ เป็นการอ่านงานวิเคราะห์วรรณกรมแล้วเห็นสภาพอันเสื่อมทรามของการเมืองไทย”




แนะนำโดยคุณธีรนุช

ปรัชญากฎหมาย ฉบับกระชับ

ผู้เขียน : บุญส่ง ชัยสิงห์กานานนท์

สำนักพิมพ์ : Illuminations Editions

“เป็นหนังสือที่ไม่ใช่คนเรียน ไม่รู้กฏหมายก็อ่านได้ เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ เหมือนฟังคนพูด แค่อ่านเอาเอง”




แนะนำโดย – (ไม่ประสงค์ออกนาม)

ปฏิวัติที่ปลายลิ้น ปรับรสแต่งชาติอาหารการกินในสังคมไทยหลัง ๒๔๗๕

ผู้เขียน: ชาติชาย มุกสง

สำนักพิมพ์: ศิลปวัฒนธรรม

“เป็นหนังสือเปิดตาสู่โลกที่ไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่ ได้รับรู้ถึงคำถามที่ไม่คิดว่าจะมีคนถาม เหมือนเส้นประวัติศาสตร์เส้นใหม่สำหรับเรื่องที่คิดว่าธรรมดาสามัญ แต่อ่านๆ ไปก็แอบหิวข้าวไปเหมือนกัน”




แนะนำโดยคุณก้องสินธุ์

เผด็จการความคู่ควร 

The Tyranny of Merit

ผู้เขียน : Michael J. Sandel

ผู้แปล : สฤณี อาชวานันทกุล

สำนักพิมพ์ : Salt Publishing

“หนังสือเล่มนี้ให้ข้อคิดว่า ความสำเร็จของคนๆ หนึ่งนั้นไม่ได้เกิดจากความพยายามเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ พื้นเพของตัวบุคคลนั้นๆ ค่านิยมหรือคุณค่าที่สังคมเชิดชู สภาพสังคมที่คนผู้นั้นอาศัยอยู่ รวมถึงโชคชะตา ประกอบกันเป็นแรงเกื้อหนุนให้คนผู้นั้นประสบความสำเร็จ หนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่น่าอ่านเพราะมันสอนให้เรารู้จักประมาณตนเมื่อเราประสบความสำเร็จและไม่เสียกำลังใจเมื่อเรายังไม่บรรลุเป้าหมายที่เราฝันไว้ นอกจากนี้ หนังสือนี้ยังเหมาะที่จะใช้ในการทำความเข้าใจกับสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เพราะทุกวันนี้มีผู้นำที่มีลักษณะเป็นเผด็จการอยู่แทบทุกองคาพยพของสังคมไทย และพวกเขามักคิดว่าตนเองนั้นคู่ควรกับสถานะและตำแหน่งแห่งที่ที่พวกเขาเป็นอยู่เสมอ”




แนะนำโดยคุณศุภกฤต

กว่าจะครองอำนาจนำ

ผู้เขียน : อาสา คำภา

สำนักพิมพ์ : ฟ้าเดียวกัน

“ให้ภาพกว้างของเหล่าชนชั้นนำไทยที่เป็นผู้กำหนดสภาพของการเมืองไทยจนถึงปัจจุบันนี้”




แนะนำโดยคุณดุจเดือน

เมื่อบันไดหัก: มองสังคมเหลื่อมล้ำผ่านแว่นจิตวิทยา

The Broken Ladder: How Inequality Affects the Way We Think, Live, and Die

ผู้เขียน : Keith Payne

ผู้แปล : วิทย์ วิชัยดิษฐ

สำนักพิมพ์ : Bookscape

“เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมาก และที่สำคัญมันทำให้เข้าใจมุมมองของตัวเราเองต่อการเปรียบเทียบกับอื่นในสังคม ขยายความคิดต่อการปฏิบัติตนของคนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความเหลื่อมล้ำ นอกจากนี้มันยังทำให้เข้าใจภาพใหญ่ของสังคมในบ้านเรามากขึ้น โดยเฉพาะการทำความเข้าใจปัญหาความเหลื่อมล้ำ และปัญหาความยากจน มันก่อให้เกิดปัญหาสังคมที่ตามมาอย่างไร”




แนะนำโดยคุณวุฒิเชษฐ

ภาวะสมองบอด (พร้อมวิธีรักษา)

Creative Blindness

ผู้เขียน : Dave Trott

สำนักพิมพ์ : WE LEARN

“ชอบการนำเสนอตัวอย่างที่ชัดเจนของมุมคิดที่คาดไม่ถึงจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งช่วยให้เห็นการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคม เช่น การนำเรื่องตั๋วฟรี มาช่วยล่อโจรให้ตำรวจจับโดยง่ายดาย อ่านแล้วลุ้นตามทุกเรื่อง แม้เรื่องเล่าจะไม่ยาวมาก แต่เห็นภาพเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ”




แนะนำโดยคุณอภิชาติ

หยัดยืน

Resto qui

ผู้เขียน : Marco Balzano

ผู้แปล : สรรควัฒน์ ประดิษฐพงษ์

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

“เล่นกับความรู้สึก”




แนะนำโดยคุณภาณุพันธ์

เล่นแร่แปลภาพ ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย

ผู้เขียน : นักรบ มูลมานัส

สำนักพิมพ์ : มติชน

“งานของนักรบเป็นเหมือนการรีเสิร์ชทางประวัติศาสตร์ที่เล่าได้อย่างดีและมีคุณภาพมากๆ”



ย้อนดูรายชื่อหนังสือ The Finalist ตอนที่ 1 , ตอนที่ 2 , ตอนที่ 3

ย้อนดูรายชื่อหนังสือ Top Highlights ที่นี่

MOST READ

Spotlights

14 Aug 2018

เปิดตา ‘ตีหม้อ’ – สำรวจตลาดโสเภณีคลองหลอด

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย พาไปสำรวจ ‘คลองหลอด’ แหล่งค้าประเวณีใจกลางย่านเมืองเก่า เปิดปูมหลังชีวิตหญิงค้าบริการ พร้อมตีแผ่แง่มุมเทาๆ ของอาชีพนี้ที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาเนิ่นนาน

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Aug 2018

Spotlights

4 Nov 2020

101 Policy Forum : ประเทศไทยในฝันของคนรุ่นใหม่

101 เปิดวงสนทนาพูดคุยกับตัวแทนวัยรุ่น 4 คน ณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน , สิรินทร์ มุ่งเจริญ, ภาณุพงศ์ สุวรรณหงษ์, อัครสร โอปิลันธน์ ว่าด้วยสังคม การเมือง เศรษฐกิจไทยในฝัน ต้นตอที่รั้งประเทศไทยจากการพัฒนา ข้อเสนอเพื่อพาประเทศสู่อนาคต และแนวทางการพัฒนาและสนับสนุนคนรุ่นใหม่

กองบรรณาธิการ

4 Nov 2020

Spotlights

30 Jun 2020

“ไม่มี Theory of Everything ในโลกของ IR” จิตติภัทร พูนขำ

101 สนทนากับ จิตติภัทร พูนขำ เกี่ยวกับองค์ความรู้และโลกของ IR ไปจนถึงการเรียนการสอน และการปรับตัวของ IR ในยุคที่โลกผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

กานต์ธีรา ภูริวิกรัย

30 Jun 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save