fbpx
จากงบทหารถึงยุทธศาสตร์ชาติ: การแปลง ‘อำนาจ’ ให้เป็น ‘สถาบัน’

จากงบทหารถึงยุทธศาสตร์ชาติ: การแปลง ‘อำนาจ’ ให้เป็น ‘สถาบัน’

อิสร์กุล อุณหเกตุ เรื่อง

 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีงบประมาณ 2560 เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แม้ว่างบประมาณรายจ่ายรวมจะลดลง แต่หน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานกลับได้รับงบประมาณเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงกระทรวงกลาโหมที่ได้งบเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 แสนล้านบาท

ก่อนหน้านั้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เพิ่งมีการประกาศใช้ พ.ร.บ. การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 กฎหมายฉบับดังกล่าวกำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และกำกับดูแลการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ในบทความนี้ ผู้เขียนพยายามจะอธิบายว่า เหตุการณ์ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และอะไรที่อาจเป็นเหตุผลเบื้องหลังของรัฐบาลทหารในการผลักดันให้เกิดยุทธศาสตร์ชาติ

 

งบประมาณกระทรวงกลาโหม: ก้อนเค้กของทหาร

 

งบประมาณกระทรวงกลาโหมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีหลังสุดภายหลังการรัฐประหารปี 2549 ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2541 กระทรวงกลาโหมได้งบประมาณราว 8 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.15 แสนล้านบาทในปีงบประมาณ 2550 ก่อนจะเพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งเท่าตัวเป็น 2.2. แสนล้านบาทในปีงบประมาณ 2561 ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบกองทัพจากข้อมูล ‘ก้อนเค้ก’ ที่เพิ่มขึ้นอาจให้ภาพที่ไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายรวมของประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น บทความนี้จะเสนอข้อมูลอีกชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาประกอบกันด้วย นั่นคือ ‘ส่วนแบ่งเค้ก’ ที่กองทัพได้รับ

 

 

เมื่อพิจารณางบประมาณที่กองทัพได้รับในช่วงกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมาจะพบว่า สัดส่วนงบประมาณของกระทรวงกลาโหมต่องบประมาณรวมในช่วงสองทศวรรษแรกมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม (2523-2531) นั้น ‘ส่วนแบ่งเค้ก’ ของกองทัพลดลงอย่างช้าๆ ก่อนที่สัดส่วนดังกล่าวจะลดลงอย่างรวดเร็วตลอดช่วงเวลาสิบปีต่อมาหลังสิ้นยุคเปรมาธิปไตย จนเหลือเพียงประมาณ 11% ของงบประมาณรวมในปี 2540

ภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 อาจเรียกได้ว่าเป็นทศวรรษที่สูญหายของกองทัพ เพราะหลังจากถูกตัดลดงบลงไปตั้งแต่ปีงบประมาณ 2541 งบทหารก็แทบไม่เพิ่มขึ้นเลย จนกระทั่งปีงบประมาณ 2550 ในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังการรัฐประหารปี 2549 งบที่กองทัพได้รับจึงเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ คิดเป็นประมาณ 9% ของงบประมาณรวม ก่อนจะมีแนวโน้มลดลงอีกครั้งในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และค่อนข้างคงที่จนถึงในปัจจุบัน

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ส่วนแบ่งเค้กของกองทัพลดลง? มีคำอธิบายหลายแบบที่ใช้ตอบคำถามดังกล่าว คำอธิบายหนึ่งคือ ‘อำนาจทางการเมือง’ ตามแนวคิดแบบเศรษฐศาสตร์สถาบัน

 

อำนาจทางการเมือง: มุมมองเชิงเศรษฐศาสตร์สถาบัน

 

ตามแนวคิดแบบเศรษฐศาสตร์สถาบันนั้น ‘สถาบัน’ หมายถึง กฎกติกาในการเล่นเกม กฎกติกานี้เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อก่อรูปปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคมเศรษฐกิจ ขณะที่ ‘องค์กร’ หมายถึง กลุ่มคนที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการบรรลุเป้าหมายหนึ่งๆ โดยที่กลุ่มคนแต่ละกลุ่มล้วนเป็นผู้เล่นภายใต้สถาบัน

สถาบันสัมพันธ์กับอำนาจทางการเมืองอย่างไร?

นักเศรษฐศาสตร์สถาบันเช่น Daron Acemoğlu และ James A. Robinson เสนอว่า สถาบันคือต้นตอของอำนาจทางการเมือง โดยแบ่งสถาบันที่เกี่ยวข้องกับอำนาจทางการเมืองออกเป็นสองประเภท ได้แก่

ประเภทแรก คือ สถาบันทางการเมือง ซึ่งเป็นต้นตอของอำนาจทางการเมืองโดยนิตินัย (de jure political power) ตัวอย่างที่เด่นชัดคือรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจบริหารแก่คณะรัฐมนตรี ให้อำนาจนิติบัญญัติแก่รัฐสภา และให้อำนาจตุลาการแก่ศาล

ประเภทที่สอง คือ สถาบันทางเศรษฐกิจ ซึ่งกำหนดทั้งศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ ‘ขนาดของเค้ก’ และการจัดสรรทรัพยากร หรือ ‘วิธีการแบ่งเค้ก’ องค์กรที่ ‘มั่งคั่ง’ จากการได้รับส่วนแบ่งเค้กที่มากกว่า ย่อมมีความสามารถในการเพิ่มพูนอำนาจทางการเมืองโดยพฤตินัย (de facto political power) สูงกว่าองค์กรอื่นๆ อย่างไรก็ตาม อำนาจทางการเมืองโดยพฤตินัยนั้นไม่จีรัง เพราะสถาบันทางเศรษฐกิจ ตลอดจนนโยบายทางเศรษฐกิจนั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อใดก็ได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองโดยพฤตินัยจึงต้องพยายามหาวิธีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถาบันทางการเมือง เพราะไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะรับประกันอำนาจทางการเมืองของตนในอนาคต

 

ยุทธศาสตร์ชาติ: การแปลงอำนาจให้เป็นสถาบัน

 

ทหารมีบทบาทในระบบการเมืองการปกครองของไทยมาเป็นเวลานาน ความสำเร็จในการก่อรัฐประหารจำนวน 13 ครั้งตลอดระยะเวลา 85 ปีนับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 เป็นเครื่องยืนยันความสามารถในการแทรกแซงการเมืองของกองทัพ อย่างไรก็ตาม อำนาจจากปลายกระบอกปืนนั้นมิใช่อำนาจโดยนิตินัย หากแต่เป็นอำนาจโดยพฤตินัย ซึ่งงอกงามจากการสั่งสมทรัพยากรของกองทัพ ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า นอกจากงบทหารแล้ว กองทัพยังมีทรัพยากรอื่นๆ ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอีกจำนวนมาก ทั้งที่ดิน คลื่นความถี่ ตลอดจนแรงงานที่ได้จากการเกณฑ์ทหาร ดังนั้น กองทัพจึงมีแรงจูงใจที่จะสร้างหรือเปลี่ยนแปลงสถาบันทางการเมืองผ่านการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการออกกฎหมายต่างๆ เพื่อรักษา ‘ส่วนแบ่งเค้ก’ และอำนาจทางการเมืองเอาไว้ โดยเฉพาะเมื่ออำนาจทางการเมืองโดยนิตินัยเคลื่อนไปสู่รัฐบาลพลเรือน

ยุทธศาสตร์ชาติเป็นสถาบันทางการเมืองที่สร้างขึ้นใหม่ตามมาตรา 65 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งกำหนดให้มีการออกกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมายดังกล่าวเพิ่งประกาศใช้เมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ขณะที่กระบวนการจัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาตินั้นเริ่มต้นมาก่อนหน้าตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 ตามมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ และมีร่างยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) เผยแพร่ต่อสาธารณะแล้วทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

“การมีเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งเขตอำนาจรัฐ การดำรงอยู่อย่างมั่นคง ยั่งยืนของสถาบันหลักของชาติ การดำรงอยู่อย่างมั่นคงของชาติและประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ…” เป็นวลีแรกๆ ที่ใช้ขยายความวิสัยทัศน์ ‘มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน’ ตามร่างยุทธศาสตร์ชาติฉบับดังกล่าว

ข้อความเหล่านี้อาจเป็นคำตอบว่าทำไมรัฐบาลทหารจึงผลักดันให้มีการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ กองทัพต้องการใช้ยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการรักษาอำนาจทางการเมืองของตน การกำหนดให้มียุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงเป็นหนทางที่จะทำให้กองทัพแน่ใจได้ว่าจะได้รับ ‘ส่วนแบ่งเค้ก’ อย่างเพียงพอ เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามารับหน้าที่ต่อจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

นอกจากนี้ การบังคับให้รัฐบาลใหม่ต้องปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติก็มีความสำคัญสูง ด้วยเหตุนี้ พ.ร.บ. การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2560 จึงให้อำนาจทางการเมืองโดยนิตินัยแก่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติของหน่วยงานที่เป็นของรัฐ ทั้งในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ รวมถึงองค์กรอิสระ หากไม่นับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นกรรมการจากตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติก็ยังมีสัดส่วนของผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นทหารถึง 7 คนจากกรรมการทั้งหมด 28 คน ขณะที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนอื่นๆ แม้จะไม่ใช่ทหาร แต่แทบทุกคนเคยได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอย่างใดอย่างหนึ่งโดย คสช. เช่น รัฐมนตรี หรือสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีบุคคลในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในฐานะตัวบุคคล มิใช่เป็นกรรมการโดยตำแหน่งถึง 6 คน จาก 12 คน ได้แก่ นายวิษณุ เครืองาม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ และนายอุตตม สาวนายน บุคคลเหล่านี้จะดำรงตำแหน่งไปจนถึงปี 2565 (โปรดดู รายงานของ iLaw ประกอบ)

ยุทธศาสตร์ชาติอาจถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ในการออกแบบสถาบันทางการเมืองหลังการรัฐประหาร ต่างจากบทบัญญัติเดิมๆ ที่เราคุ้นชิน เช่น นายกรัฐมนตรีคนนอก และสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง แต่จุดหมายปลายทางของการเขียนกฏกติกาเหล่านี้คือช่องทางการแปลงอำนาจให้เป็นสถาบันไม่แตกต่างกัน ไม่ว่า คสช. จะอยากให้เรียกว่าการสืบทอดอำนาจหรือไม่ก็ตาม.

 

อ่านเพิ่มเติม

Acemoglu, Daron, and James A. Robinson. Economic Origins of Dictatorship and Democracy. Cambridge University Press, 2006.

MOST READ

Politics

31 Jul 2018

30 ปี การสิ้นสุดของระบอบเปรมาธิปไตย (1) : ความเป็นมา อภิมหาเรื่องเล่า และนักการเมืองชื่อเปรม

ธนาพล อิ๋วสกุล ย้อนสำรวจระบอบเปรมาธิปไตยและปัจจัยสำคัญเบื้องหลัง รวมทั้งถอดรื้ออภิมหาเรื่องเล่าของนายกฯ เปรม เพื่อรู้จัก “นักการเมืองชื่อเปรม” ให้มากขึ้น

ธนาพล อิ๋วสกุล

31 Jul 2018

Politics

12 Sep 2018

ความจริง ความเชื่อ และความเจ็บป่วยของ ‘สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล’

อายุษ ประทีป ณ ถลาง เขียนถึงชะตากรรมของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ในฐานะนักวิชาการผู้ยืนหยัดในอุดมการณ์มาร่วม 40 ปี แต่กลับต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัย (และล้มป่วย) อยู่ในต่างแดน

อายุษ ประทีป ณ ถลาง

12 Sep 2018

Politics

14 Jul 2020

การเกิดอีกครั้งของจอมพล ป. พิบูลสงคราม

ธนาพล อิ๋วสกุล เขียนถึงการเปลี่ยนความหมายของจอมพล ป. พิบูลสงครามจาก ‘ผู้ร้ายในประวัติศาตร์การเมืองไทย’ มาเป็นนายทหารฝ่ายคณะราษฎรที่สามารถกำราบฝ่ายปฏิปักษ์ปฏิวัติอย่างราบคาบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแหลมคมการเมืองร่วมสมัยของไทย

ธนาพล อิ๋วสกุล

14 Jul 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save