คำพิพากษาศาลฎีกา META แห่งเนติบัณฑิตไทย

ฎีกาเป็นสรณะ” เป็นวลีหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่าท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านก็อาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง โดยเฉพาะนักศึกษากฎหมายระดับเนติบัณฑิตซึ่งเป็นการศึกษากฎหมายภายหลังจบปริญญาตรี โดยมีจุดมุ่งหมายปลายทางเพื่อรับประกาศนียบัตรเนติบัณฑิตไทย ซึ่งโดยหลักแล้วจะถูกนำไปใช้เป็นคุณสมบัติหนึ่งในการสอบผู้พิพากษาหรืออัยการ โดยวลีนี้ให้ความหมายในทำนองว่า เมื่อใดที่นักศึกษากฎหมายจะต้องวินิจฉัยปัญหาทางกฎหมาย การวินิจฉัยโดยให้คำตอบและเหตุผลทางกฎหมายตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกานั้นจะเป็นแนวทางที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในการเขียนตอบข้อสอบ การวินิจฉัยด้วยการให้คำตอบและเหตุผลรูปแบบอื่นที่ต่างไปจากคำพิพากษาศาลฎีกานั้นจะทำให้มีโอกาสได้รับคะแนนที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

ด้วยเหตุนี้ นักศึกษากฎหมายระดับเนติบัณฑิตจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเลือกวินิจฉัยปัญหากฎหมายในข้อสอบด้วยการให้คำตอบและวิธีการให้เหตุผลทางกฎหมายตามคำพิพากษาศาลฎีกาเพื่อให้ตนได้รับคะแนนสอบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมองดูเบื้องต้นก็คงเป็นปัญหาเกี่ยวกับการเรียนการสอนนิติศาสตร์ไทยที่มีหลายท่านวิเคราะห์ให้ความเห็นไปแล้ว[1]

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ที่ผู้เขียนยกมานี้สะท้อนถึงปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นในวงการการศึกษากฎหมายไทยโดยเฉพาะการศึกษาในระดับเนติบัณฑิตที่มีความคล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ META ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการเกมอย่างมีนัยสำคัญ ผู้เขียนจึงเกิดไอเดียในการเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเล่าให้ท่านผู้อ่านมาร่วมวิเคราะห์ปัญหานี้ไปด้วยกันผ่านเลนส์ของวงการเกมที่สามารถสะท้อนถึงปัญหาในการศึกษากฎหมายในระดับเนติบัณฑิตได้อย่างน่าสนใจ

ความหมายของ ‘META’

หากผู้อ่านท่านใดที่คร่ำหวอดกับวงการเกม เป็นเกมเมอร์ หรือเล่นเกมเป็นประจำ (เช่นผู้เขียน) คงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับคำว่า META ซึ่งเป็นคำย่อจาก ‘Most Effective Tactics Available’ ที่หมายถึงเทคนิคการเล่นหรือกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการเอาชนะตัวเกมหรือผู้เล่นรายอื่น ณ ช่วงเวลานั้น[2] ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การใช้เทคนิคที่เป็น META อยู่ในขณะนั้นเองจึงทำให้ผู้เล่นมีโอกาสได้รับชัยชนะมากกว่าเทคนิคหรือกลยุทธ์อื่นๆ ที่มีอยู่ในเกม ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้อ่านที่ไม่ได้เป็นคนเล่นเกมสามารถเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น ผู้เขียนขอยกตัวอย่างเกมฟุตบอล Winning Eleven (อันที่จริงเกมฟุตบอลนั้นมีหลายชื่อตามบริษัทผู้ให้บริการหรือจำหน่าย แต่ชื่อนี้ติดปากผู้เขียน)

เกม Winning Eleven เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องจัดตัวนักฟุตบอลและแผนการเล่นในการเอาชนะอีกฝ่ายนึง ซึ่งตัวนักฟุตบอลและแผนการเล่นทั้งสองสิ่งที่กล่าวมานี้เองเป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะบอกได้เลยว่าในเกมนั้นผู้เล่นจะชนะหรือแพ้ โดยแม้ว่าผู้เล่นจะมีฝีมือในการใช้จอยสติ๊กควบคุมตัวนักเตะที่อยู่ในเกมดีขนาดไหน แต่ถ้าการจัดทีมของผู้เล่นไม่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นแล้ว ความพ่ายแพ้ก็คงมาเยือนอยู่เนืองๆ และเพื่อให้ตนเองมีโอกาสได้รับชัยชนะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โจทย์ของผู้เล่นเกม Winning Eleven ที่สำคัญก็คือ จะจัดตัวนักฟุตบอลคนไหน ด้วยแผนอะไร ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ภาพจาก Tumblr

ด้วยเหตุนี้ ผู้เล่นทั้งหลายจึงมีการลองผิดลองถูกกันมากมายปรับแผนปรับนักเตะจนไปถึงจุดหนึ่งที่บันทึกสถิติรูปแบบการจัดทีมที่ดีที่สุด เช่น หากจัดทีมโดยนำ Roberto Carlos ไปยืนตำแหน่งกองหน้าโดยใช้แผน 3-4-3 จะทำให้มีโอกาสชนะ 9 เกม จากทั้งหมด 10 เกม ซึ่งเป็นโอกาสชนะถึง 90% เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อการจัดทีมแบบนี้สามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ผู้เล่นคนอื่นที่พบเห็นก็จะจัดตัวนักเตะและแผนการเล่นนี้ copy ตามๆ กันมา เพราะเป็นแผนที่จะทำให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะมากที่สุด

สำหรับ META ในบริบทของวงการเนติบัณฑิตไทยนั้นก็คือการที่นักศึกษาจะต้องใช้รูปแบบการให้คำตอบและอธิบายเหตุผลทางกฎหมายในการเขียนตอบข้อสอบที่ทำให้ตนเองได้รับคะแนนสอบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าในสนามสอบเนติบัณฑิตนั้น การเขียนตอบข้อสอบโดยใช้คำตอบและให้เหตุผลตามคำพิพากษาศาลฎีกานั้นจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ คำพิพากษาศาลฎีกาจึงเปรียบเสมือน META ของวงการเนติบัณฑิตไทย ซึ่งแม้ดูเผินๆ จะเหมือนกับไม่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องอะไรกับ META ที่เกิดขึ้นในวงการเกม แต่ผู้เขียนกลับเห็นว่า ปัญหาจากปรากฏการณ์ META ที่เกิดขึ้นทั้งสองวงการนี้มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก และผลกระทบจากปัญหานี้จะร้ายแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อเกิดขึ้นในวงการศึกษากฎหมายไทย ดังที่จะได้วิเคราะห์กันต่อไป

ปัญหาของ META จากวงการเกม สู่วงการเนติบัณฑิตไทย

1. ปรากฏการณ์แนวคิดแบบ ‘play to win’ และ การหยุดนิ่งของความคิดสร้างสรรค์

จากตัวอย่างที่ยกไว้ข้างต้น เมื่อผู้เล่นเกม Winning Eleven ทราบแล้วว่าแผน 3-4-3 ที่มี Roberto Carlos ยืนกองหน้านั้นเป็น META ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเพราะจะทำให้มีโอกาสชนะถึง 90% การจัดทีมของผู้เล่นใน community กลุ่มผู้เล่นเกม Winning Eleven ก็จะจัดทีมรูปแบบเดียวกัน ซ้ำๆ มาแข่งกันเอง เล่นผ่านไป 10 เกม ก็เจอแต่ทีม Roberto Carlos แผน 3-4-3 ทุกเกม เพราะหากจัดทีมรูปแบบอื่นๆ จะทำให้มีโอกาสชนะน้อยกว่า ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ต่อเนื่องที่เรียกว่า ‘play to win’ ซึ่งความหมายก็ตรงตัวคือเล่นเพื่อชัยชนะอย่างเดียว

การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์นี้จึงทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นในการคิดค้นสร้างทีมด้วยความคิดของตนเองนั้นต้องหยุดนิ่งลง ไม่มีใครอยากจะคิดค้นสูตรการเล่นรูปแบบใหม่ๆ เพราะจะต้องใช้ความอุตสาหะ เวลา และความคิด หรือแม้แต่การเรียนรู้ และรับมือกับความผิดหวังเมื่อแผนที่คิดค้นใหม่ไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้ ครั้นไปแข่งกับทีม META ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับความพ่ายแพ้อีก เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว การ copy แผนการสร้างทีมที่เป็น META อยู่ดังเช่นผู้เล่นคนอื่นๆ โดยไม่ต้องใช้ความคิดเยอะให้ปวดศีรษะจึงเป็นแนวทางที่สะดวกและได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

สำหรับวงการเนติบัณฑิตไทยนั้น ผู้ที่เข้ามาศึกษาต่างก็คาดหวังกับการสอบผ่านเพื่อให้ตนได้ประกาศนียบัตร การศึกษากฎหมายของนักศึกษาเนติบัณฑิตจึงเป็นไปในลักษณะ ‘เรียนเพื่อให้สอบผ่าน’ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์แนวคิดแบบ ‘play to win’ ที่เกิดขึ้นในการศึกษากฎหมาย และเมื่อคำพิพากษาศาลฎีกากลายเป็น META ในสนามสอบเนติบัณฑิตแล้ว นักศึกษาก็จะต้องหยุดการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการให้เหตุผลทางกฎหมายในแบบฉบับของตนเองและการตั้งคำถามต่อการให้เหตุผลที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาไปโดยปริยาย เพราะการมีความคิดสร้างสรรค์อาจเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณในการสอบครั้งนี้ เพื่อให้ตนเองทำคะแนนในการสอบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การ copy คำตอบและการให้เหตุผลตามคำพิพากษาศาลฎีกาจึงดูเป็นหนทางที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำให้ตนไปสู่การสำเร็จการศึกษาและได้ประกาศนียบัตรไป

ทั้งนี้ หากนักศึกษาจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนเองในการตอบข้อสอบที่ต่างไปจากคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว แม้อาจจะสามารถให้ผลทางกฎหมายที่เป็นธรรมมากกว่าคำตอบและการให้เหตุผลตามคำพิพากษาศาลฎีกาก็ตาม แต่ก็คงต้องได้รับความพ่ายแพ้ ได้รับคะแนนน้อย หรือสอบตกไป ด้วยเหตุนี้ การฝึกฝนทักษะการคิดการให้เหตุผลอันเป็นทักษะที่สำคัญของนักกฎหมายจึงถูกแช่แข็งในช่วงการศึกษาระดับเนติบัณฑิตไปโดยปริยายและนอกจากนี้ยังทำให้พัฒนาการทางความคิดของนิติศาสตร์ไทยที่ควรจะถูกขับเคลื่อนจากเนติบัณฑิตยสภาที่เป็นสถาบันการศึกษากฎหมายที่สำคัญของประเทศต้องหยุดอยู่กับที่


2. เสน่ห์ของเกมและการศึกษากฎหมายถูกทำลายลง

แม้โดยทั่วไปแล้ว ‘ชัยชนะ’ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นมีความสุขหรือได้รับประโยชน์อะไรบางอย่าง แต่ ‘ความสนุก’ ที่ได้รับจากเกมนั้นเป็นสิ่งทำเกมมีความหมาย แม้เกม Winning Eleven จะเป็นเกมฟุตบอลที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกันเพื่อชัยชนะ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้มีความหมายและความสนุกก็คือการที่ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นผู้จัดการทีมในการใช้ความคิดวางแผนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การจัดทีมเพื่อแข่งขันกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นส่วนที่ดึงความสนุกเพลิดเพลินของเกมออกมาได้อย่างมากที่สุด นับว่าเป็นเอกลักษณ์หรือ ‘เสน่ห์’ ที่เกมประเภทอื่นไม่มี แต่เมื่อปรากฏการณ์ play to win จาก META เกิดขึ้นมาแล้ว เสน่ห์ของเกมก็จะถูกลบหายไปไม่ต่างจากการเล่นเกมประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมต่อสู้ แข่งรถ หรืออะไรก็แล้วแต่ เมื่อผู้คนคิดถึงแต่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้นึกถึงความหมายของการเล่นเกมเกมนั้น ประสบการณ์ความสนุกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเกมนั้นๆ ก็ย่อมถูกทำลายลงและไร้ความหมาย

เช่นเดียวกับเสน่ห์ของการศึกษากฎหมายที่มีเอกลักษณ์อยู่ตรงที่การขัดเกลาทักษะการคิดวิเคราะห์ปัญหา ค้นหาคำตอบด้วยการให้เหตุผลจากหลักกฎหมายและถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นระบบมีตรรกะ การแสวงหาหนทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมและข้อพิพาทระหว่างคู่ความอย่างเป็นธรรมที่อาจไม่มีคำตอบสุดท้ายที่ตายตัว ตลอดจนทักษะการตั้งคำถามต่อทิศทางการปรับใช้หลักกฎหมายที่ควรจะเป็น แต่ความหมายของการศึกษากฎหมายดังกล่าวนั้นได้ถูกทำลายลงจากปรากฏการณ์ META ในการศึกษาระดับเนติบัณฑิต และหลงเหลือแต่เพียง การพยายามตอบตามคำพิพากษาฎีกาเพื่อให้สอบผ่าน นักศึกษาไม่สนใจความหมายของการศึกษากฎหมายที่แท้จริงอีกต่อไป เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขาได้เป็นเนติบัณฑิตไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่เป็นการใช้เทคนิคในการจดจำและการปรับใช้กฎหมายตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาเพียงเท่านั้น


3. บ่อน้ำมันแห่งวงการเกมและวงการการศึกษากฎหมาย

เมื่อการเล่นเกมโดยใช้เทคนิคแบบ META เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นมีโอกาสได้รับชัยชนะมากที่สุดแล้ว ก็มีแนวโน้มที่ผู้เล่นทั้งหลายต่างแสวงหาหนทางในการทำให้ตนเองสามารถใช้เทคนิคแบบ META ให้ได้ เพื่อให้ตนเองสามารถต่อกรกับผู้เล่นคนอื่นและยังคงอยู่ใน community เกมนั้นๆ ได้อย่างมีความสุข บริษัทที่เป็นเจ้าของเกมก็ย่อมที่จะต้องใช้โอกาสนี้ในการทำกำไรให้แก่ตนเอง โดยการนำองค์ประกอบหรือปัจจัยต่างๆ สู่การเป็น META มาวางจำหน่าย

ตัวอย่างจากเกม Winning Eleven ทางบริษัทเกมอาจตั้งเงื่อนไขไม่ให้ตัวนักเตะ Roberto Carlos ไปใช้ฟรีๆ หากผู้เล่นอยากได้ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อตัวนักเตะผู้นี้ หรือบางทีก็ใช้ระบบกาชาในการเปิดสุ่มหลายครั้งเพื่อให้ได้ Roberto Carlos ไปยืนตำแหน่งศูนย์กองหน้าของทีม ผู้เล่นที่ยังคงอยากอยู่ใน community เกม Winning Eleven และไม่อยากเป็นผู้พ่ายแพ้ในเกมตลอดไปจึงอาจยอมเสียเงินซื้อนักเตะรายนี้เข้าไปในแผนการเล่น

ปรากฏการณ์ META จึงทำให้ผู้เล่นเป็นเหมืองทองหรือบ่อน้ำมันให้บริษัทเกมเข้ามาขุดเจาะกอบโกยผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริษัทเกมเป็นองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ในการหากำไรอยู่แล้ว การกระทำเช่นนี้จึงไม่มีข้อสังเกตอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่ากังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้อยู่ที่การเกิดขึ้นของบ่อน้ำมันในวงการการศึกษากฎหมายในระดับเนติบัณฑิตไทย เพราะเมื่อคำพิพากษาศาลฎีกาได้กลายเป็นสรณะ หรือเป็น META ของการสอบเนติบัณฑิตไปเสียแล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการแสวงหากำไรอย่างแนบเนียนจากบุคคลในแวดวงกฎหมายจากเนติบัณฑิตยสภาอย่างน่าเป็นกังวล กล่าวคือมีการนำคำพิพากษาศาลฎีกาที่ปกปิดไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้มาวางจำหน่าย หรือการนำคำพิพากษาศาลฎีกามารวบรวมจำนวนหนึ่งโดยที่ไม่ได้มีการคิดวิเคราะห์ต่อยอดหรืออธิบายเพิ่มเติมมาขายแก่นักศึกษาเนติบัณฑิต นักศึกษาเนติบัณฑิตผู้อยู่ในกำมือของเนติบัณฑิตยสภานั้น แม้จะมีสิทธิเลือกได้ที่จะซื้อหรือไม่ซื้อคำพิพากษาดังกล่าว แต่ด้วยแรงกดดันความเครียดในการสอบเนติบัณฑิตและเพื่อเพิ่มโอกาสในการสอบผ่านของตนเอง นักศึกษาก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะซื้อคำพิพากษาดังกล่าวเอาไว้อ่านสอบ เพราะเป็นคำพิพากษาที่วางจำหน่ายโดยผู้บรรยายจากสถาบันเนติบัณฑิตยสภาซึ่งก็อาจมีแนวโน้มนำมาออกข้อสอบได้ ทั้งๆ ที่คำพิพากษาศาลฎีกานั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีลิขสิทธิ์[3] และควรจะเป็นสิ่งที่เปิดเผยให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้โดยง่ายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ความเป็น META ของคำพิพากษาศาลฎีกานี้จึงทำให้เกิดช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์จากบุคคลบางกลุ่มที่อยู่ในองค์กรที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไรอย่างเนติบัณฑิตยสภา แต่อาศัยโอกาสดังกล่าวในการแสวงหาประโยชน์เข้าสู่ตนเองอย่างน่าเป็นกังวล

บทส่งท้าย

ความเป็น META ของคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกิดขึ้นในวงการเนติบัณฑิตไทยนั้น เป็นสิ่งที่เนติบัณฑิตยสภาควรจะต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง การยึดถือแนวคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นธงคำตอบดังที่เป็นอยู่นั้นอาจไม่ใช่แนวทางในการวัดผลการศึกษากฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงและก่อให้เกิดปัญหาอย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้ข้างต้น

ผู้เข้ามาศึกษาเนติบัณฑิตอาจไม่ได้รับการขัดเกลาความรู้ความสามารถอย่างที่ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายจะพึงมีตามปณิธานของสถาบันการศึกษาของกฎหมายและรับไปเพียงกระดาษใบหนึ่งที่เป็นบัตรผ่านสำหรับไปสอบผู้พิพากษาและอัยการเพียงเท่านั้น ไม่ได้เป็นหลักฐานที่ยืนยันความรู้ความสามารถของเนติบัณฑิตไทยแต่อย่างใด

ผู้เขียนเองที่สอบผ่านมาก็จะยังยืนยันคำพูดเดิมที่เคยกล่าวกับกรรมการสอบปากเปล่าเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนที่ท่านถามว่าทำไมถึงมาสอบเนติบัณฑิตว่า “ผมสอบเนติ มาเพื่อวิจารณ์เนติครับ”

References
1 The101.world, ปฏิรูปการเรียนการสอนนิติศาสตร์ สร้างนักกฎหมายไทยในโลกสมัยใหม่
2 Liam Ho, EXPLAINER: WHAT IS A META?
3 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 7 บัญญัติว่า สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้

(4) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ.

MOST READ

Social Issues

9 Oct 2023

เด็กจุฬาฯ รวยกว่าคนทั้งประเทศจริงไหม?

ร่วมหาคำตอบจากคำพูดที่ว่า “เด็กจุฬาฯ เป็นเด็กบ้านรวย” ผ่านแบบสำรวจฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำ ในนิสิตจุฬาฯ ปี 1 ปีการศึกษา 2566

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

9 Oct 2023

Law

20 Aug 2023

“ยิ่งจริง ยิ่งไม่หมิ่นประมาท”: ความผิดฐานหมิ่นประมาทกฎหมายเยอรมัน

ดิศรณ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ ชี้ให้เห็นถึงปัญหาของกฎหมายหมิ่นประมาทไทย และยกตัวอย่างกฎหมายหมิ่นประมาทเยอรมันเป็นแนวทางหนึ่งในการปรับปรุงกฎหมายต่อไป

ดิศรณ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ

20 Aug 2023

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save