การระบาดของโควิด-19 และการจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนำไปสู่ความสูญเสียของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่แค่การสูญเสียจากโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเกิดความสูญเสียทางจิตใจด้วย เมื่อผู้คนในสังคมตกอยู่ในภาวะเครียดสะสม และมีหลายคนที่ตัดสินใจลาโลกไปในช่วงวิกฤตนี้
ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อัตราการฆ่าตัวตายของคนไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับช่วงวิกฤตปี 2540 และอัตราการฆ่าตัวตายของคนไทยทั้งปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 7.3 คนต่อประชากรแสนคน.การฆ่าตัวตายในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เหมือนการเปิดแผลความไม่มั่นคงและความเดียวดายของสังคมไทย มาตรการปิดเมืองส่งผลให้กลุ่มเปราะบางทางสังคมสูญเสียการจ้างงาน จนทำให้ขาดรายได้จากสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างกะทันหัน
ทั้งหมดล้วนเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำในสังคมก่อนหน้านี้ และใช่ว่าคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าจะไม่เกิดความเครียดในภาวะนี้ เมื่อทุกคนต่างต้องเผชิญกับข้อจำกัดของชีวิตเช่นกัน
ความหวังที่มืดมิดในสถานการณ์โควิดที่ไร้ทางออกกำลังพรากฟางเส้นสุดท้ายของชีวิตหลายคนไป
101 คุยกับศรีอรุณ ธนะรัชติการนนท์ ผู้อำนวยการสมาคมสะมาริตันส์แห่งประเทศไทย สายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตาย, ดร.ธนิสา ทวิชศรี นักวิจัยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ผู้ทำวิจัยเรื่องปัญหาสุขภาพจิตในช่วงโควิด และธันยะมัย ชูอิฐจีน เพื่อนของผู้เลือกจบชีวิตในช่วงโควิด เพื่อฉายภาพสุขภาพจิตคนไทยในยุคโควิด