ควรดื่มแอลกอฮอล์ประเภทไหน ในโอกาสใดบ้าง – ดา
คุณเล่นเอาลุงแทบจะไปไม่เป็น เพราะเกรงการบังคับใช้ พ.ร.บ. เพราะถ้าลุงระบุโอกาสของการดื่มเมื่อไหร่ ก็จะกลายเป็นการชักชวนให้มาดื่มแอลกอฮอล์ใช่ไหม (ไม่จะโดยทางตรงหรือทางอ้อมมันก็ผิดทั้งนั้น) เกรงใจ สสส. เกรงใจแอดมิน
แต่ถ้าไม่ตอบคำถาม มันก็เหมือนเราเมินคนอ่าน และสำหรับ agony uncle แล้ว ทำอย่างนั้นมันบาปกว่าการทำผิดศีลข้อห้าเสียอีก
ดังนั้น ถ้าจะคิดตาม สสส. คำตอบคือคุณไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะในโอกาสไหน เพราะสุราเป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้ สุราเป็นเหตุให้พิการและเสียชีวิตได้ สุราเป็นเหตุให้เซ็กซ์เสื่อมได้ สุราทำร้ายครอบครัว ทำลายสังคมได้ สุราทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และสุราเป็นเหตุให้สมองเสื่อมได้ ฯลฯ
ร้ายกาจจริงๆ เชียว
แต่ถ้าคิดอย่างเราๆ ที่รู้ว่าคำโฆษณาชวนเชื่อ (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม) มักบรรจุความจริงอยู่แค่ครึ่งเดียว ที่เหลือเป็นเรื่องของการโน้มน้าว ไม่ต้องคำนึงถึงเงื่อนไขหรือรายละเอียดอื่นในชีวิต (อย่างคำนึงถึงสติของคนดื่ม ธรรมเนียม บทบาทของสุราในวัฒนธรรม) ดังนั้นลุงว่าอย่ามัวแต่มุ่งก่นด่าสุรา เหมือนกับที่ทั้งโลกกำลังมุ่งชี้นิ้วก่นด่าออง ซาน ซู จี เรื่องโรฮิงญา คือถามว่าคนนอกพม่าจะรู้จักนายพลซึ่งมีอำนาจแท้จริงในพม่า และมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายเรื่องนี้ได้ไหม คำตอบคือไม่ ดังนั้นชี้นิ้วด่าซู จี (ซึ่งใครๆ ก็รู้จัก) ไปพลางดีกว่า
กลับมาเรื่องดื่มดีกว่าครับ
สมัยเป็นเด็ก ลุงตามพ่อของลุงไปงานแต่งงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานเลี้ยงโต๊ะจีน โมเมนต์หนึ่งซึ่งลุงชอบมากคือจังหวะของการดื่มอวยพร เพราะเราได้ฟังผู้ใหญ่ขึ้นมาพูดอะไรแปลกๆ เราได้ยืนหลังจากกินไก่กินหมูจนพุงจะแตก ตามหลังด้วยการดื่มอวยพร ผู้ใหญ่เขาชูแก้วเหล้ากัน ไชโย! ไชโย! ไชโย! เราเด็กก็ยกน้ำส้มแฟนต้าจิบตามเขาไป สนุกดี
โตขึ้นมาจึงรู้ว่าธรรมเนียมฝรั่งบอกว่าถ้าใช้แชมเปญหรือเหล้าองุ่นขาวซึ่งมีพรายฟอง น่าจะเหมาะกับการดื่มอวยพร แต่พอโตขึ้นมาอีกก็ได้รับความรู้ว่า นอกจากแชมเปญ (เลือก Demi Sec หรือ Brut) และสปาร์คลิ้งไวน์แล้ว เจ้าภาพสามารถเลือกไวน์ที่ดื่มง่าย องุ่นพันธุ์นิยมอย่าง Merlot, Carbernet Sauvignon, Pinot Noir ก็ได้ เราไม่ว่ากัน (การชง cocktail สำหรับแขกครั้งละร้อยๆ คน ให้ทันการและเย็นเจี๊ยบ เป็นเรื่องยาก ดังนั้น cocktail จึงไม่นิยมใช้ดื่มอวยพร)
โตขึ้นมาอีกก็รู้ว่ามีชนบางกลุ่มใช้เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ดื่มอวยพรกันด้วยเหมือนกัน พรอะไรที่อวยกันเหนือขอบแก้วคงไม่คลายความศักดิ์สิทธิ์ลงสักเท่าไหร่
ถามถึงการดื่มสุรานะ มันก็แล้วแต่โอกาส ซึ่งหมายความว่าน่าจะเป็นไปตามความสะดวก มีเบียร์ดื่มเบียร์ มีไวน์ดื่มไวน์ มีวิสกี้ดื่มวิสกี้ ในตู้เย็นบ้านเพื่อนมีอะไร เราก็ดื่มสิ่งนั้น
ดื่มแล้วอย่าเปลี่ยนเหล้า มันจะเมาค้าง อันนี้พูดไปเผื่อคุณดาจะลืม
อีกโอกาสเฉพาะกิจของการดื่มสุราคือการดวลวอดก้า คือวาระที่เราเสียอกเสียใจ อกหัก ผิดหวัง น้อยใจนายไม่รัก ทำไมไม่ได้โบนัสอยู่คนเดียว ฯลฯ วอดก้าเลยครับ ซึ่งก็แปลกเพราะวอดก้ามันมีดีกรีเท่ากับเหล้าอื่นๆ แต่ความใสดูเอาจริง กลิ่นฉุนและรสบาดคอ (ชนิดที่รสไม่บาดก็มีแต่ขวดละสามพันบาทขึ้น ไม่ควรเอามาดื่มล้างความเศร้า มันเสียของ) มันช่างเข้ากับบรรยากาศของความสะใจ
แล้วตื่นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่กลางขวดเปล่าและเศษถุงถั่วว่างเปล่า
หมู่นี้รู้สึกเหมือนยืนเปลือยอยู่แล้วมีคนมาจิ้มๆ ตรงที่มันจั๊กจี้ ทำไงดีครับ – เจนจัด
ถ้ามีข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณมากกว่านี้ ลุงคงตอบคุณเจนจัดได้ตรงคำถาม เลยต้องขออนุญาตเดา คำตอบของลุงนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นใคร
ถ้าคุณเป็นชายชาวจีน อาศัยอยู่ในเมืองไทยในย่านห้วยขวางสุทธิสาร ลุงแนะให้คลายสายรัดกระเป๋าคาดเอวบ้าง สายรัดแน่น เลือดอาจเดินไม่สะดวก จนเกิดอาการอย่างที่คุณบอก
ถ้าคุณเป็นมนุษย์ซึ่งมีชิ้นโลหะฝังในตัวด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ทำธุรกิจ และมีเหตุต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ลุงแนะให้คุณเพลาๆ business trip ลง หรือไม่ก็ปล่อยให้ผู้ช่วยไปแทนบ้าง คิดว่าอาการที่ว่าเหมือนมีคนมาจิ้ม คงเกิดจากการต้องยืนชูแขนหลังเครื่องตรวจจับโลหะ ให้เจ้าหน้าที่ (สตรี) ของทางสนามบินค้นตัวอย่างละเอียดบ่อยครั้ง จนฝังใจ เรื่องนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะถ้าเป็นสนามบินทางยุโรป แต่ถ้าเป็นสนามบินทางเมืองจีนนี่ลุงฟันธงเลย เพราะเจ๊แกดุทุกคน
ว่าแต่ตรงไหนกันแน่ครับ ที่มันจั๊กจี้
ที่ทำงานดิฉันไม่เคร่งครัดเรื่องเสื้อผ้าที่สวมใส่ไปทำงาน ที่จริงปกติใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงผ้านุ่มๆ (ไม่ถึงกับเรียบร้อยอย่างสแล็ค) กับรองเท้าผ้าใบสำหรับเดิน แต่หลังๆ ไม่อยากใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวแล้ว อยากถามคุณลุงว่า เสื้อเรียบร้อยที่ไม่ใช่เสื้อเชิ้ตแขนยาว สำหรับคนทำงานวัยกลางคนเรียบๆ ควรใส่แบบไหนให้ดูกึ่งเรียบร้อยกึ่งลำลองดีคะ (แถมรายละเอียดเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากไปผ่าตัดพุงมา กางเกงที่ใส่สบายมากคือกางเกงที่ไม่มีซิป ผ้าไม่แข็ง ที่ใช้อยู่เป็นกางเกงผ้าเอวยางยืดแต่ดูเรียบร้อยค่ะ) – ส้ม
คุณถามข้อเดียว แต่ลุงขออนุญาตตอบเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
หนึ่ง ฟังดูเหมือนคุณเป็นคนสบายๆ ลุงไม่ค่อยเชื่อหรอกนะว่าคุณเป็นคนเรียบๆ ดูจากความพิถีพิถันในการแต่งตัว ไม่ตามแฟชั่น ต้องการเป็นตัวเอง รักความรู้สึกสบายที่ได้จากจากเสื้อผ้า แถมยังขี้เบื่อด้วย
สอง ในกรณีของคุณซึ่งเพิ่งไปผ่าตัดมา เราลืมเรื่องสไตล์ แล้วมาเน้นเรื่องความสบาย เดินเหินสะดวกกันดีกว่า อยากจะแนะนำชุดเดรสชิ้นเดียว ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าใยธรรมชาติใดๆ ก็ตามที่ระบายความร้อนได้ดี แบบและความยาวแล้วแต่คุณส้มเลย เดรสนี่มันใส่สบายมาก ลุงเองอยากอยากใส่เลย (ว่าแล้วก็หยิบเอาชุดโต๊ปแบบชาวมุสลิมมาใส่ไปเดิน Yelo House)
สาม อย่าเพิ่งรีบทำตัวแก่นะครับ เราเพิ่งจะวัยกลางคน หากเดรสมันดูเกลี้ยงๆ โล้นๆ ไป หา accessory มาใส่เล่น พ้นเดือนหน้าไปเราใส่สีสดได้ อยากให้พิจารณาสีที่ไม่ใช่เทาดำน้ำเงิน (ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงคิดว่าคุณใส่สีพวกนี้ ถ้าเดาถูกช่วยซื้อขนมเบื้องเจ้าอร่อยที่บางลำภูมาฝากด้วย) ม่วงเปลือกมังคุด เขียวขี้ม้า น้ำตาลอมแดง (สีเฉดเดียวกับที่บ้านคนรวยในอังกฤษสมัยจอร์เจียน นิยมเลือกใช้ทาภายใน ลองไปหาดูนะครับ) มันจะช่วยเติมความสดใสให้ชีวิต
สี่ ถ้าขี้เกียจ แค่เปลี่ยนกรอบแว่นเป็นสีสดใสก็พอมั้ง (คุณต้องใส่แว่นแน่ๆ ลุงว่า)
*Agony Uncle หมายถึงชายเจ้าของคอลัมน์ให้คำแนะนำปรึกษาปัญหาชีวิตทั่วไป คู่กับ Agony Aunt ซึ่งเป็นฝ่ายหญิง ลุงเฮม่ามาตอบปัญหาในโลกยุคใหม่ที่เราทึกทักเอาเองว่าไร้กฎเกณฑ์ แต่ว่าถ้ามันไร้กฎเกณฑ์ขนาดนั้น เราคงอยู่ร่วมกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ไม่ได้มั้ง
