fbpx

Investigative: ฉีกหน้ากาก IO เลือกตั้งผู้ว่าฯ แหวกลึกถึง IO การเมืองระดับชาติ

“เบอร์ 8 ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ว่า คุณควรไปเป็นดารา”, “เบอร์ 8 เค้ามาหาเสียงหรือมาแจกลายเซ็นกันแน่”, “มีใครเคยเห็นเบอร์ 8 ทำอะไรบ้างอะ”, เบอร์ 8 ไม่ผ่านเลย” ฯลฯ

วันที่ 26-27 เมษายนที่ผ่านมา ข้อความเหล่านี้ปรากฏขึ้นบนทวิตเตอร์ (Twitter) โดยเป็นข้อความรีพลาย (reply – ตอบกลับ) ของทวีต (tweet) ลิงก์ข่าวหนึ่งที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ แต่ข้อความพวกนี้กลับสร้างเสียงหัวเราะให้ชาวโซเชียลไม่น้อย เมื่อเลื่อนขึ้นไปเห็นว่าลิงก์ข่าวนั้นไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับผู้สมัครหมายเลข 8 คือชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แต่เป็นข่าวการหาเสียงของผู้สมัครหมายเลข 3 คือสกลธี ภัททิยกุล

ภาพ 1: ทวีตลิงก์ข่าวเกี่ยวกับผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพฯ เบอร์ 3 (สกลธี ภัททิยกุล) แต่กลับปรากฏรีพลายโจมตีผู้สมัครเบอร์ 8 (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์) ตามตัวอย่าง
ที่มาทวีต: https://twitter.com/news1005fm/status/1515911824100655109

ในทวีตข่าวดังกล่าว มีบัญชีผู้ใช้ที่เข้าไปส่งความตอบกลับโจมตีผู้สมัครเบอร์ 8 อยู่อย่างน้อย 81 บัญชี เมื่อ 101 ลองตรวจสอบเจาะลึกถึงรูปแบบการทวีตข้อความในทวีตดังกล่าว รวมถึงการเข้าไปสืบค้นข้อมูลโปรไฟล์ของแต่ละบัญชี ก็พบได้ว่าบัญชีเหล่านี้มีแนวโน้มสูงมากว่ากำลังมีพฤติกรรมร่วมกันในการสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตน (Coordinated Inauthentic Behavior – CIB)

CIB คือการสร้างเครือข่ายบัญชีปลอมซึ่งมีพฤติกรรม ‘ร่วมกัน’ ทำปฏิบัติการชักจูงความคิดผู้คน เพื่อหวังผลในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งพบได้มากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ในประเทศไทยอาจเป็นที่รู้จักกันว่านี่คือ ‘ไอโอ’ (IO – Information Operation)

สิ่งหนึ่งที่บ่งชี้ได้ในเบื้องต้นว่าพฤติกรรมของบัญชีที่เข้าไปโจมตีชัชชาติในทวีตข่าวดังกล่าวเข้าข่าย CIB นั่นคือการรีพลายล้วนเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน แม้ทวีตข่าวจะถูกเผยแพร่มานานก่อนหน้าตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน โดยมีการใช้วาทกรรมในการโจมตีซ้ำๆ ไม่กี่แบบ แถมบางบัญชียังทวีตข้อความที่เหมือนกันทุกตัวอักษร

101 ยังสืบค้นลึกเข้าไปยังประวัติการทวีตและรีพลายของแต่ละบัญชี ก็พบว่านอกจากลิงก์ข่าวดังกล่าวแล้ว ในช่วงเดียวกันระหว่าง 26-27 เมษายน บัญชีเหล่านี้ยังเข้าไปรีพลายโจมตีชัชชาติในอีกหลายทวีตที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ แม้ทวีตเหล่านั้นจะถูกเผยแพร่มาก่อนหน้านั้นหลายวันแล้ว และยังพบว่าแต่ละบัญชีมักรีพลายด้วยข้อความเดียวกันในทุกทวีต

101 เข้าไปรวบรวมข้อมูลการรีพลายของทวีตเหล่านี้ ทำให้พบว่านอกจาก 81 บัญชีที่เราพบในขั้นแรกแล้ว ยังมีบัญชีที่ต้องสงสัยว่าทำงานอยู่ภายใต้ปฏิบัติเดียวกันอีกจำนวนมาก และยิ่งสืบเสาะขยายผลกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก็พบบัญชีทวิตเตอร์ต้องสงสัยรวมกันทั้งสิ้น 447 บัญชี ซึ่งเชื่อได้ว่ากำลังเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่หวังผลชักจูงความคิดคนในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งนี้ และที่สำคัญ 101 ยังพบด้วยว่าปฏิบัติการมีแนวโน้มเชื่อมโยงกับเครือข่ายปฏิบัติการไอโอ ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยว่ากำลังพยายามโปรโมตภาพลักษณ์ให้กับพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง รวมถึงบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติท่านหนึ่ง  

ชัชชาติ-อัศวิน เป้าโจมตีหลัก

ในระหว่างการสืบเสาะประวัติการทวีตและรีพลายของบัญชีทวิตเตอร์ต้องสงสัยเหล่านั้น ก็เจอเรื่องน่าแปลกใจว่า บัญชีเหล่านั้นไม่ได้โจมตีเพียงชัชชาติ แต่ยังพุ่งโจมตีตรงไปที่ผู้สมัครเบอร์ 6 อย่าง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่ากรุงเทพฯ ไปควบคู่กัน ด้วยรูปแบบปฏิบัติการที่คล้ายกัน นั่นคือการเข้าไปถล่มรีพลายในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน พร้อมๆ กับการโจมตีชัชชาติ

ลักษณะวาทกรรมที่บัญชีเหล่านี้ใช้โจมตีอัศวิน คือการค่อนขอดผลงานการเป็นผู้ว่าฯ ของเขาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และการขอไม่ให้กลับมารับตำแหน่งต่อ ขณะที่ฝั่งชัชชาติมักโดนวาทกรรมเช่นว่า ไม่เคยเห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำตัวเป็นเหมือนดารามากกว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ และไม่เหมาะสมที่จะรับตำแหน่งนี้ 

หลังจากที่ความเคลื่อนไหวคึกคักมากในช่วง 26-27 เมษายน บัญชีเหล่านี้แทบไม่มีการเคลื่อนไหวในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ อีก จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 10-11 พฤษภาคม เราถึงได้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวใหม่ นั่นคือการทวีตลิงก์วิดีโอหาเสียงของผู้สมัครเบอร์ 3 สกลธี ภัททิยกุล ในหัวข้อ ‘1 คืนกับสกลธี’ ตามด้วยวันที่ 13 พฤษภาคม ที่มีการทวีตคลิป ‘ให้โอกาสสกลธี เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ดีกว่านี้ได้’ โดยในการทวีตทั้งสองคลิปของแต่ละบัญชีเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน

ภาพ 4: ตัวอย่างบัญชีที่มีการทวีตคลิปวิดีโอหาเสียงของสกลธีในเวลาไล่เลี่ยกัน

จากการรวบรวมและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของบัญชีเหล่านี้ 101 พบว่ามีบัญชีที่ส่อว่ากำลังทำปฏิบัติการใต้ร่มเครือข่ายเดียวกันนี้อยู่อย่างน้อย 382 บัญชี โดยแต่ละบัญชีอาจมีรายละเอียดความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน เช่น บางบัญชีโจมตีเพียงชัชชาติ บางบัญชีโจมตีเพียงอัศวิน บ้างโจมตีทั้งสองผู้สมัครพร้อมกัน บ้างมีเพียงการแชร์ลิงก์วิดีโอของสกลธี และบ้างก็ไม่ได้แสดงความเห็นที่เข้าข้างหรือโจมตีผู้สมัครคนใด โดยมีเพียงการเข้าไปรีพลายหรือโควตทวีต (quote tweet) แล้วติดเพียงแฮชแท็ก เช่น  #เลือกตั้งผู้ว่ากทม หรือ #ผู้ว่ากทม เท่านั้นโดยไม่ได้พิมพ์ข้อความใดๆ เพิ่มเติม แต่เมื่อดูจากหลายปัจจัยแล้ว ทำให้ปฏิเสธได้ยากว่าบัญชีทั้งหมดเหล่านี้ยังคงอยู่ภายใต้ร่มปฏิบัติการเดียวกัน เนื่องจากเมื่อสืบค้นลึกเข้าไปยังโปรโฟล์ของแต่ละบัญชี ทำให้พบว่ามีลักษณะร่วมกันที่น่าสนใจคือ

1. จากการค้นหาวันที่บัญชีเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นด้วยเครื่องมือของเว็บไซต์ accountanalysis.app พบว่าบัญชีเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในหลายวัน ตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2010 ถึง 10 พฤษภาคม 2022 แต่หลายบัญชีถูกสร้างในวันเดียวกัน และส่วนมากมักกระจุกอยู่ในช่วงเมษายน-พฤษภาคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่การรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ สิ้นสุดลง

2. รูปโปรไฟล์ไม่ได้บ่งบอกถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของบัญชี โดยส่วนมากมักใช้รูปการ์ตูน เน็ตไอดอล (net idol) หรือดารานักแสดง  

3. หลายบัญชีฟอลโลว์ (follow) กันเอง

4. บนหน้ากิจกรรมมักมีการรีทวีต (retweet) หรือรีพลายข้อความที่เหมือนกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งมักเป็นข้อความประเภทรีวิวสินค้า โฆษณา เว็บพนันออนไลน์ สลากออนไลน์ กิจกรรมร่วมสนุกชิงรางวัล ทวีตเกี่ยวกับดารานักร้อง รวมถึงคลิปลามกอนาจาร

5. ในเชิงการเมือง ส่วนมากมีเพียงการรีทวีตและโต้ตอบในทวีตที่เนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เท่านั้น โดยแทบไม่ได้มีเนื้อหาทางการเมืองอื่นๆ มาก่อน

ทั้งหมดนี้อาจทำให้ตั้งข้อสันนิษฐานได้ว่า เครือข่ายปฏิบัติการนี้อาจไม่ได้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรืออาจไม่ได้มีขึ้นเพื่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ โดยเฉพาะมาแต่เริ่มแรก เพราะหลายบัญชีก็ถูกสร้างขึ้นมาแล้วหลายปี แต่เป็นไปได้ว่าอาจมีเพียงจุดประสงค์ในเชิงพาณิชย์ อย่างการช่วยปั่นยอดการมีส่วนร่วม (engagement) ให้กับบางทวีต หรือไม่ก็อาจเพียงเพื่อพยายามรีทวีตเนื้อหาให้หน้าบัญชีดูไม่ว่างเปล่า ไม่ให้ดูออกว่าบัญชีอวตาร

อย่างไรก็ตามในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เครือข่ายนี้อาจได้รับการว่าจ้างให้ทำปฏิบัติการ และยังมีการสร้างบัญชีใหม่ขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่งเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการเพิ่มเติม เห็นได้จากหลายบัญชีที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2022 โดยที่บนหน้ากิจกรรมก็ยังมีเพียงเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เท่านั้น

ภาพ 5: ตัวอย่างที่แสดงว่าบนหน้ากิจกรรมของบัญชีเหล่านี้มักมีการเคลื่อนไหวแบบเดียวกันในเวลาพร้อมๆ กัน (ภาพจากเครื่องมือ tweetdeck.twitter.com)

#เลือกอัศวินได้ธรรมนัส
สู่ #สกลธีเบอร์3 #จักรทิพย์คนทำงาน และ #บิ๊กป้อม

ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของทั้ง 382 บัญชีทวิตเตอร์ หนึ่งความเคลื่อนไหวที่สะดุดตาที่สุดคือหลายบัญชีในกลุ่มนี้โควตทวีต รวมถึงรีพลายจากทวีตหนึ่ง ซึ่งระบุข้อความว่า “กระจ่าง #เลือกอัศวินได้ธรรมนัส” พร้อมแนบภาพประกอบซึ่งแคป (capture) มาจากกล่องความคิดเห็นหนึ่งบนเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ Pantip.com โดยเป็นภาพการโยงใยสายสัมพันธ์ระหว่างอัศวินและ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย และอดีตรัฐมนตรีช่วยในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งตกเป็นประเด็นฉาวหลายเรื่อง ภาพดังกล่าวมีเนื้อหาที่ชัดเจนว่าเป็นผลลบต่อภาพลักษณ์ของอัศวิน และยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัดว่าข้อมูลในภาพนั้นจริงหรือเท็จประการใดบ้าง

ทวีตดังกล่าวถูกทวีตโดยบัญชีผู้ใช้ @e90FCP6WHdX0ypJ ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ไล่เลี่ยกับการดำเนินปฏิบัติการถล่มโจมตีอัศวินและชัชชาติตามทวีตต่างๆ ของ 382 บัญชีนี้ โดยเจ้าของทวีตอย่าง @e90FCP6WHdX0ypJ ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในบัญชีต้องสงสัยใต้เครือข่ายนี้เช่นกัน ด้วยประวัติกิจกรรมบนหน้าโปรไฟล์ที่ส่อว่ามีพฤติกรรม CIB ร่วมกับอีกหลายบัญชีที่เหลือ

ทวีตดังกล่าวถูกรีทวีตไปสูงถึง 454 ครั้ง และมียอดรีพลายทั้งสิ้น 103 รีพลาย (ข้อมูลวันที่ 12 พ.ค. 2022 เวลา 15.50 น.) โดยเมื่อเข้าไปเก็บรวบรวมข้อมูล ก็พบว่าบัญชีผู้ใช้ที่รีทวิตและรีพลายส่วนมากก็ล้วนเป็นหนึ่งใน 382 บัญชีที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย

101 ติดตามความเคลื่อนไหวในการสนทนาบนแฮชแท็ก #เลือกอัศวินได้ธรรมนัส ผ่าน Zocial Eye ซึ่งเป็นเครื่องมือฟังเสียงและวิเคราะห์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย จนพบว่ามีทวีตอื่นที่ใช้แฮชแท็กนี้ นอกเหนือจากทวีตของ @e90FCP6WHdX0ypJ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นพร้อมกันในวันที่ 1 พฤษภาคม และเมื่อค้นเข้าไปดูยังโปรไฟล์ของแต่ละบัญชีเจ้าของทวีต ก็ทำให้ 101 ได้ค้นพบเครือข่ายที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรม CIB อีกเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งมีอย่างน้อย 51 บัญชีที่กำลังเคลื่อนไหวร่วมกันเพื่อหวังผลในช่วงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมื่อตรวจสอบโปรไฟล์ของทั้ง 51 บัญชีนี้ก็พบว่าเกือบทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาในวันเดียวกัน คือวันที่ 9 เมษายน 2022 นั่นแปลว่าเพิ่งเริ่มปฏิบัติการได้เดือนเศษ และแต่ละบัญชีก็ยังฟอลโลว์กันเองอีกด้วย

กิจกรรมของบัญชีกลุ่มนี้แตกต่างกลับกลุ่ม 382 บัญชีก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง โดยเนื้อหาที่เครือข่ายนี้ทวีตโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางการเมือง แต่ก็ยังหนีไม่พ้นธรรมชาติของความเป็นไอโอ คือบัญชีเหล่านี้มักจะทวีต/รีทวีตเนื้อหาเหมือนกันหรือคล้ายกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อย่างเรื่อง #เลือกอัศวินได้ธรรมนัส ก็พบว่าบัญชีกลุ่มนี้เคลื่อนไหวพร้อมกันในวันที่ 1 พฤษภาคม ด้วยแคปชันและภาพประกอบที่แตกต่างกันไป บางบัญชีก็ทวีตภาพประกอบเดียวกันเป๊ะ เพียงแต่เขียนแคปชันแตกต่างกัน ขณะที่บางภาพแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ก็พบว่าตัวหนังสือข้อความที่อยู่บนภาพมีการใช้คีย์เวิร์ดซ้ำๆ กัน เช่น “วัวลืมตีน” และ “ธรรมนัส = เทวทัต”

ก่อนหน้าการเคลื่อนไหวในแฮชแท็ก #เลือกอัศวินได้ธรรมนัส ได้ 2 วัน คือวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา 101 ก็สังเกตพบอีกความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ของ 51 บัญชีกลุ่มนี้ โดยเป็นทวีตเชียร์ผู้สมัครหมายเลข 3 อย่างสกลธี ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดียวกัน โดยมีข้อความแตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือล้วนติดแฮชแท็ก #สกลธีเบอร์3 #ผู้ว่ากรุงเทพ และ #ทำทันธี

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือบนหน้ากิจกรรมของของกลุ่มนี้ไม่ได้ปรากฏเพียงเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เท่านั้น แต่ยังมีเนื้อหาในเชิงสนับสนุนบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับชาติอยู่ 2 คน

1. วันที่ 9 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่บัญชีส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ถูกสร้างขึ้น ปรากฏทวีตและรีทวีตภาพถ่ายป้ายอวยพรวันสงกรานต์ตามถนนทางหลวง ของรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยมีรูปภาพหลากหลาย พร้อมด้วยแคปชันที่เป็นการอวยพรหรือชื่นชมประวิตร ตามด้วยแฮชแท็ก #บิ๊กป้อม #ประวิตร #ประวิตรวงษ์สุวรรณ #รองนายก

2. ในช่วงเดือนเมษายนจนถึงต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา บัญชีเหล่านี้ล้วนรีทวีตและรีพลายจากบัญชีผู้ใช้ @CC_Kontumngan ซึ่งใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า ‘จักรทิพย์คนทำงาน’ โดยเป็นบัญชีทวิตเตอร์ทางการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีกระแสข่าวว่าจะลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ แต่ได้ถอนตัวในเวลาต่อมา โดยเนื้อหาที่ถูกรีทวีตส่วนมากเกี่ยวกับภารกิจทั่วไปและชีวิตประจำวันของจักรทิพย์ และทั้ง 51 บัญชีก็ยังล้วนเป็นผู้ติดตาม (followers) ของบัญชี ‘จักรทิพย์คนทำงาน’ ด้วย

ภาพ 9: หน้ากิจกรรมของบัญชีตัวอย่าง 3 บัญชีในเครือข่าย 51 บัญชี ที่ปรากฏว่าล้วนมีการรีทวีตและรีพลายจากบัญชี ‘จักรทิพย์คนทำงาน’ ( (ภาพจากเครื่องมือ tweetdeck.twitter.com)

#บิ๊กป้อม #พลังประชารัฐเพื่อประชาชน สู่ อัศวิน ขวัญเมือง

101 ลองสืบค้นสำรวจบทสนทนาบนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับประวิตรและจักรทิพย์ต่อไป จนพบความน่าสนใจในฝั่งประวิตร หลังจากที่ 101 ลองติดตามความเคลื่อนไหวบนแฮชแท็กต่างๆ เกี่ยวกับประวิตรที่ปรากฏบนหน้ากิจกรรมของ 51 บัญชี โดยใช้ Zocial Eye เป็นตัวช่วย จึงได้เห็นว่ายังมีบัญชีอื่นอีกมากที่คอยทวีตในเชิงให้การสนับสนุนประวิตร นอกเหนือจาก 51 บัญชีนั้น ด้วยความเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในงานสืบสวนชิ้นนี้ 101 ให้ความสนใจไปที่บัญชีที่ปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เท่านั้น

จากการสำรวจความเคลื่อนไหวของการทวีตเนื้อหาเกี่ยวกับประวิตรทั้งหมด 101 ยังสามารถค้นพบจนเจอเพิ่มอีกอย่างน้อย 14 บัญชีที่คล้ายว่ากำลังเคลื่อนไหวร่วมกันในการส่งเสริมภาพลักษณ์ประวิตร พร้อมๆ ไปกับที่พบความเคลื่อนไหวเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ สอดแทรกเข้ามา แต่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ต่างไปจากกลุ่ม 51 บัญชีก่อนหน้า

ทวีตที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวิตรที่ปรากฏบนหน้ากิจกรรมของ 14 บัญชีกลุ่มนี้ มักเป็นทวีตเกี่ยวกับภารกิจต่างๆ โดยมักจะตามด้วยแฮชแท็ก เช่น #บิ๊กป้อม #ลุงป้อมใจดี #รักลุงป้อม และ #สิ่งที่ลุงป้อมทำ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าบัญชีเหล่านี้ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนประวิตรโดยเฉพาะเจาะจงเพียงคนเดียว เพราะบนหน้ากิจกรรมของบัญชีเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับภารกิจและผลงานของบรรดารัฐมนตรีและนักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ โดยบางทวีตมีการติดแฮชแท็กอย่าง #พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร และ #พลังประชารัฐเพื่อประชาชน

ภาพ 10: หน้ากิจกรรมของบัญชีตัวอย่าง 4 บัญชีในเครือข่าย 14 บัญชี ที่มักทวีตเนื้อหาเกี่ยวกับประวิตรและพรรคพลังประชารัฐ (ภาพจากเครื่องมือ tweetdeck.twitter.com)

101 ยังพบว่า ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา บัญชีเหล่านี้ทยอยทวีตเนื้อหาโปรโมตหนึ่งในผู้สมัครอย่างอัศวิน ซึ่งมีทั้งเรื่องการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนระหว่างหาเสียง ผลงานในสมัยเป็นผู้ว่าฯ รวมถึงโควตคำพูดเด็ดจากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว โดยมีข้อสังเกตคือหลายทวีตใช้ภาพประกอบและข้อความซ้ำกัน แม้จะทวีตคนละวันและเวลากันก็ตาม

ภาพ 11: หน้ากิจกรรมของบัญชีตัวอย่าง 4 บัญชีในเครือข่าย 14 บัญชี ที่พบเนื้อหาสนับสนุนอัศวินในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ (ภาพจากเครื่องมือ tweetdeck.twitter.com)

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เชื่อได้ว่าทั้ง 14 บัญชีนี้ทำงานใต้เครือข่ายเดียวกัน อย่างแรกคือบัญชีทวีตส่วนมากถูกสร้างขึ้นในวันเดียวกัน โดยเฉพาะวันที่ 21 กันยายน 2021 และ 101 ยังสามารถจับสังเกตได้อีกด้วยว่าบัญชีในกลุ่มนี้พยายามทำตัวให้ดูเป็นมนุษย์ทั่วไปจริง โดยมักจะทวีตภาพอาหารแทรกอยู่เรื่อยๆ และเขียนแคปชันให้เข้าใจว่าเป็นอาหารที่ทำเอง หรือได้กินเอง แต่เมื่อลองนำภาพเหล่านี้ไปค้นหาด้วย Google Reverse Image Search ก็พบว่าล้วนเป็นภาพที่ดึงมาจากแหล่งอื่นทั้งสิ้น

เรายังไม่พบสิ่งบ่งชี้ชัดเจนว่าเครือข่ายไอโอ 14 บัญชีนี้มีความสัมพันธ์โยงใยใดๆ กับเครือข่ายก่อนหน้าที่มี 51 บัญชีหรือไม่ นอกจากจุดร่วมเพียงจุดเดียวคือการแสดงการสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ในประเด็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ สองเครือข่ายนี้เชียร์ผู้สมัครคนละคนกัน ขณะที่เครือข่าย 51 บัญชีก่อนหน้า มีท่าทีสนับสนุนสกลธี ภัททิยกุล เครือข่าย 14 บัญชีหลังกลับแสดงท่าทีสนับสนุนอัศวิน ขวัญเมือง

ภาพ 12: หน้ากิจกรรมของบัญชีตัวอย่าง 4 บัญชีในเครือข่าย 14 บัญชี ที่พบว่ามักจะโพสต์ภาพอาหารแทรก (ภาพจากเครื่องมือ tweetdeck.twitter.com)

ไอโอกรุงเทพฯ กำลังพลสำคัญใน ‘สงครามตัวแทน’ การเมืองใหญ่

การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ นับเป็นหมุดหมายสำคัญหนึ่งทางการเมือง ไม่เพียงแค่การเมืองในสนามกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังสำคัญยิ่งต่อทิศทางการเมืองระดับชาติ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่ต่างจาก ‘สงครามตัวแทน’ ระหว่างแต่ละฝักฝ่ายการเมือง ท่ามกลางสังคมที่กำลังแบ่งขั้วอย่างดุเดือด ด้วยเดิมพันอันสูงยิ่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้เห็นการใช้ไอโอพยายามโน้มน้าวใจประชาชนกันอย่างแพร่สะพัด และก็ไม่น่าแปลกใจเช่นกันที่ได้เห็นเครือข่ายไอโอที่ต้องสงสัยว่ากำลังเคลื่อนไหวในเชิงสนับสนุนนักการเมืองและพรรคการเมืองระดับชาติ ลงมาเป็นผู้เล่นด้วย

กว่า 400 บัญชีไอโอที่งานสืบสวนของ 101 ชิ้นนี้สามารถค้นพบ แม้จะดูเป็นจำนวนที่ไม่น้อย แต่ก็เชื่อได้ว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของมวลมหาบัญชีไอโออีกหลายเครือข่ายที่กำลังเดินหน้าทำปฏิบัติการเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ใครที่ได้ติดตามเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ บนแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ อย่างใกล้ชิด ก็คงเคยเห็นผ่านตากันไม่น้อยว่ายังมีบัญชีไอโอที่คอยสนับสนุนและโจมตีผู้สมัครคนอื่นๆ อยู่อีกเยอะเช่นกัน เพียงแต่การจะสืบสวนจนครบทุกเครือข่าย ทุกแพลตฟอร์มนั้น ต้องใช้เวลาและทรัพยากรสูงกว่านี้มาก งานสืบสวนชิ้นนี้จึงถือว่าเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยพิสูจน์ให้สังคมได้รู้เท่าทันว่าการใช้ไอโอเป็นอาวุธหนึ่งในการสู้ศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่ากรุงเทพฯ ครั้งนี้มีอยู่จริง

เรายังไม่อาจรู้ได้แน่ชัดว่าใครหรือองค์กรไหนที่อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการไอโอในเครือข่ายที่เราค้นพบเหล่านี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไหนหรือองค์กรไหนก็ตาม ก็เป็นที่น่าฉุกคิดว่าการลงทุนของพวกเขาครั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่ เพราะสังเกตได้ว่าความเคลื่อนไหวของพวกเขาแทบจะไม่สามารถถูกส่งออกไปถึงผู้คนนอกเครือข่าย เนื้อหาส่วนมากแทบจะไม่ได้รับการโต้ตอบใดๆ หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นการโต้ตอบระหว่างกันของบัญชีเครือข่ายเดียวกันเองเท่านั้น และที่สำคัญ รูปแบบการทำงานที่ดู ‘สุกเอาเผากิน’ ยังทำให้บัญชีเหล่านั้นถูกคนทั่วไปจับสังเกตว่าเป็นบัญชีไอโอได้อย่างง่ายดาย จึงยากที่เชื่อได้ว่าความเห็นพวกนั้นจะโน้มน้าวเปลี่ยนแปลงใจคนได้จริง

แต่ถึงอย่างไร เราก็ไม่สามารถสบประมาทปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ได้ อย่างแรกคือ ไม่ใช่ว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียทุกคนจะมีทักษะการรู้เท่าทันการจับผิดไอโอ อย่างที่สองคือ อาจมีปฏิบัติการเครือข่ายอื่นหรือรูปแบบอื่นที่เรายังมองไม่เห็น แต่อาจประสบความสำเร็จมากกว่าที่คิด แบบที่ว่ากว่าเราจะรู้ตัว ก็อาจสายเกินไป และสุดท้ายคือ ต้องอย่าลืมว่าโลกเคยได้เห็นปรากฏการณ์ที่ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ส่งผลต่อการตัดสินใจของคนในการเลือกตั้งมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลงประชามติเบร็กซิต (BREXIT) เมื่อปี 2016 หรือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016

และเช่นกัน เราไม่สามารถมองข้ามอิทธิพลของไอโอในสนามเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพฯ เพราะนี่คือสนามเดิมพันอันใหญ่ยิ่งของหลายขั้วการเมืองในประเทศไทย


หมายเหตุ: วิธีการสืบสวนปฏิบัติการไอโอในบทความชิ้นนี้ เป็นวิธีการที่ 101 ได้เรียนรู้และดัดแปลงบางส่วนมาจาก Rappler สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังของฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในผลงานข่าวสืบสวนการเผยแพร่ข่าวปลอมและปฏิบัติการไอโอบนโลกออนไลน์ ซึ่ง 101 เคยมีโอกาสได้ร่วมมือผลิตผลงานสืบสวนปฏิบัติการไอโอด้วย โดยวิธีการที่ว่านั้นมีหลักการพื้นฐานคือ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์และฟังเสียงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือการใช้เครื่องมือค้นหา (search tab) ของแพลตฟอร์มนั้นๆ เอง ในการติดตามรวบรวมข้อมูลการสนทนาในประเด็นที่เราสนใจสืบสวน จากนั้นเมื่อพบความเคลื่อนไหวในการสนทนาที่ผิดปกติ เช่น มีการเผยแพร่ข้อความซ้ำหรือคล้ายกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ก็จะต้องรวบรวมรายชื่อบัญชีที่โพสต์ข้อความกลุ่มดังกล่าว ก่อนเข้าไปยังหน้าโปรไฟล์ของแต่ละบัญชีเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของโปรไฟล์ รวมถึงความเคลื่อนไหวบนหน้ากิจกรรม โดยในการวิเคราะห์ข้อมูลความผิดปกติของบัญชีเหล่านั้น อาจใช้เครื่องมือทางออนไลน์ต่างๆ เข้าช่วย เช่น Tweetdeck, Account Analysis, Botometer หรือ Google Reverse Image Search ผสมผสานกับการสังเกตด้วยตาเปล่า จนสามารถจับสังเกตเห็นได้ว่าแต่ละบัญชีมีพฤติกรรมที่ส่อว่า ‘ร่วมกัน’ ทำปฏิบัติข้อมูลข่าวสาร เช่น มีความเคลื่อนไหวบนหน้ากิจกรรมที่เหมือนๆ กัน หรือมีการสร้างบัญชีในวันเวลาเดียวกันหรือไล่เลี่ยกัน เป็นต้น


MOST READ

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save