fbpx
"ฉันจะไปเลือกตั้ง" : Homeless Election

“ฉันจะไปเลือกตั้ง” : Homeless Election

ภาวิณี คงฤทธิ์, พิมพ์ใจ พิมพิลา เรื่อง

เมธิชัย เตียวนะ ภาพ

"ฉันจะไปเลือกตั้ง" : Homeless Election

 

‘หัวลำโพง – เสาชิงช้า – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ’

คือบ้านสามหลังใหญ่ของคน (เคย) มีบ้าน

คือบ้านที่รวมกลุ่มคนที่ไร้คนสนใจเข้ามาไว้ด้วยกัน

คือบ้านที่เป็นหลักฐานของโครงสร้างสังคมที่ผุผัง

 

ในสังคมแห่งความเหลื่อมล้ำของประเทศนี้ เสียงของคนไร้บ้านมักจะโดนทำให้เบาลงอยู่เสมอ บ้างถูกกลบด้วยเสียงแตรรถ บ้างถูกกลบด้วยเสียงจากลำโพงปราศรัย หรืออาจเป็นเสียงในความคิดของผู้คน ที่ดังจนลืมได้ยินเสียงของคนอื่น

แม้เสียงของพวกเขาจะถูกลืม แต่พวกเขาไม่เคยลืมเสียงของตัวเอง และต้องการปกป้องเสียงไม่ต่างจากทุกคน

101 จึงอยากจะขอเป็นลำโพงบลูทูธเล็กๆ ช่วยขยายเสียงของพวกเขาให้ดังขึ้นกว่าเดิม หวังว่าอาจจะเป็นโอกาสให้ไมค์หันไปหาให้พวกเขาได้พูดในสิ่งที่คิด ได้บอกในสิ่งที่หวัง โดยมีผู้รับฟัง ไม่ใช่แค่ได้ยินและปล่อยให้ลอยหายไปเหมือนอย่างที่ผ่านมา

ยะ – อายุ 63 ปี

ที่อยู่อาศัยเดิม : ตลาดน้อย

ยะ - อายุ 63 ปี ที่อยู่อาศัยเดิม : ตลาดน้อย

“ผมผ่านมาหมดแล้ว ติดคุกก็เคยมาแล้ว ตอนปี 2535 ผมออกมาไล่พลเอกสุจินดาพร้อมกับจำลอง (ศรีเมือง) ทั้งๆ ที่ผมก็เป็นคนพิการนะ แขนไม่ดี แต่ผมก็สู้ อาจเพราะตอนนั้นอายุสามสิบกว่า ใจยังถึงอยู่ ตายไม่กลัวหรอก กลางคืนก็กลับบ้านมาอาบน้ำ แล้วออกไปสู้ใหม่ ผมถูกจับที่โรงแรมรอยัล มีภาพที่ถ่ายหน้าโรงแรม คุณคงไม่เคยเห็นกัน ไม่รู้ยังมีคนเก็บอยู่ไหมหรือโดนทำลายไปหมดแล้ว ผมก็เป็นคนนึงที่อยู่ในนั้น”

‘ยะ’ คือชื่อเสียงเรียงนามของอดีตนักสู้ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย เขาเป็นอีกคนที่อยู่ร่วมในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของการเมืองไทยอย่างเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ยามสงบ เขาเคยเป็นคนส่งอะไหล่รถยนต์อยู่แถววรจักร

เขาสารภาพว่าเพราะความคึกคะนองและไม่เห็นคุณค่าของเงินในช่วงวัยหนุ่ม ทำให้บั้นปลายชีวิตไม่ได้เป็นอย่างใจนึก จนต้องมาหาข้าวฟรีกินแถวสถานีหัวลำโพง แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อไหร่ที่บ้านเมืองวุ่นวาย เขาบอกว่าจะเจอ ‘ยะ’ ได้ที่ม็อบ

“พักหลังๆ ผมเบื่อแล้ว ไม่อยากไปยุ่ง สู้มาชนะก็ไม่มีประโยชน์อะไร แพ้ก็ต้องมานั่งเกลียดกัน สุดท้ายก็ต้องถืออาวุธสู้กัน ฆ่ากันเหมือนทุกครั้งเหมือนที่เป็นมา ราชประสงค์เสื้อแดงก็ตาย ราชดำเนินเสื้อเหลืองก็ตาย คำว่าประชาธิปไตยเต็มใบไม่มีหรอก มีแต่เล็กๆ น้อยๆ ของประชาธิปไตยเท่านั้นแหละ”

พอได้ยินแบบนี้ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ยะ’ จะไปที่หน้าคูหาหรือเปล่า

“ผมจะไปเลือกตั้ง บอกตรงๆ เลยว่าผมจะเลือกประยุทธ์ อยากให้ทหารอยู่อย่างเก่า เขาช่วยรักษาความสงบได้ ถึงธุรกิจจะไม่ดี เขาไม่เก่งก็จริง แต่คนเก่งที่เป็นคนดีของแต่ละพรรคน่าจะคิดเป็นนะว่ามีคนรักษาความสงบของบ้านเมืองได้ เรามาร่วมมือกันแล้วทำให้ประเทศเจริญยิ่งขึ้นดีกว่า ถามว่าคุณมาเป็นรัฐบาล คุณทำการค้าได้ แล้วทำให้สงบได้ไหม อีกฝ่ายก็ต้องกันคุณ มีม็อบ บ้านเมืองก็วุ่นวาย”

“คิดไปคิดมาเราไม่น่าไปสร้างความวุ่นวายทะเลาะกันเองเลย เราก็ประชาชน เขาก็ทหาร ทำตามหน้าที่ เราจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว ที่สู้จนทหารไล่ยิง โดนจับเข้าคุก สุดท้ายเป็นยังไง อะไรก็ไม่ได้ ป่านนี้ถ้าตายก็คงหายสาบสูญไปแล้ว” ยะทิ้งท้าย

นางสาวเทียมใจ – อายุ 68 ปี

ที่อยู่อาศัยเดิม : ธนบุรี

นางสาวเทียมใจ - อายุ 68 ปี ที่อยู่อาศัยเดิม : ธนบุรี

 

‘นางสาวเทียมใจ’ เธอกำชับให้เราเรียกเธออย่างนั้น เพราะเธอยังไม่แต่งงานและไม่มีลูก เธอเออรี่ออกจากงานที่เธอเบื่ออย่างพนักงานบัญชี ก่อนถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน บ้านและที่ดิน จนทำให้เธอต้องกลายเป็นหญิงวัยใกล้ 70 ที่อาศัยสถานีหัวลำโพงเป็นบ้านหลังใหม่

“ยายไม่ได้ขายตัวนะ สาบานได้ ถ้าขายป่านนี้โดนจับไปแล้ว มีไอ้คลั่งบางคนเข้ามาจะขอซื้อ ยายก็บอกว่าไม่ได้ขาย ไม่เคยขาย ไม่คิดจะขาย” คือประโยคที่เธอโพล่งขึ้นมาเมื่อเรากำลังจะเดินเข้าไปหา

เรารีบปฏิเสธว่าไม่ได้มาคุกคามคุณยายแต่อย่างใด แค่อยากรู้ว่าคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้เท่านั้น คุณยายเล่าว่าที่ผ่านมาไม่เคยไปเลือกตั้งมาก่อน แต่ครั้งนี้คิดจะไป น่าเศร้าที่บัตรประชาชนไม่ได้อยู่กับตัว เราลองตั้งคำถามสมมติว่า ถ้าเดินเข้าคูหากาคนที่ถูกใจได้ new voter วัย 68 คนนี้คิดจะเลือกใคร

“ก็เล็งไว้สองพรรค ไม่พลังประชารัฐก็อนาคตใหม่ ลุงตู่แกก็ดี ยายก็ได้บัตรสวัสดิการรัฐมา แต่อยากเลือกเด็กๆ  เปลี่ยนๆ ซะมั่ง พวกเก่าๆ เบื่อหน้าแล้ว ไม่เห็นมีดีอะไรเลย

“ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ชอบ ทักษิณก็ไม่ชอบ โดยเฉพาะอภิสิทธิ์ยายเบื่อหน้า ยุคนั้นค้าขายก็ไม่ค่อยดี เลยกะว่าจะเลือกเด็กๆ อนาคตใหม่ เห็นนโยบายดี เด็กใหม่ยังไฟแรง ประเทศไทยจะได้เปลี่ยนบ้าง ไม่ต้องอยู่กับอะไรเก่าๆ แต่มาติดตรงที่บัตรประชาชน ไม่รู้ว่าไปขอเขาแล้วจะให้เลือกหรือเปล่า”

หลังจากคำตอบ เราถามแย้บต่อไปว่า “แล้วถ้าขอเรื่องนึงจากนายกฯ คนใหม่ได้ อยากขออะไร”

คุณยายตอบสั้นกระชับว่า “ยายไม่ขออะไรหรอก ขอแค่มีกินไปวันๆ ก็พอแล้ว”

น้อย – อายุ 66 ปี

ที่อยู่อาศัยเดิม : ดอนเมือง

น้อย - อายุ 66 ปี ที่อยู่อาศัยเดิม : ดอนเมือง

 

ณ เกาะพญาไท เวลา 4 ทุ่ม 23 นาที หญิงสูงวัยหน้าตาบ่งบอกว่าเป็นคนไทยเชื้อสายจีนกำลังก้มๆ เงยๆ ฉีกกล่องกระดาษลังให้เป็นแผ่นๆ ก่อนจะนำมาปูบนม้านั่งไม้ เดาได้ว่าเธอคงใช้มันแทนฟูกที่นอนในค่ำคืนนี้

“เมื่อก่อนป้าเคยขายลอตเตอรี่ ขายแล้วให้เขาเชื่อ ปล่อยเงินกู้ ขายจนมีเงินหลายตังค์เลย แต่พอดีโดนไล่กะทันหัน ป้าก็เลยหยุดทำงาน หยุดไปหยุดมาจนเงินหมด ตอนนั้นเงินมีตั้งสองสามแสน ไม่น่าเชื่อเห็นไหม บทไม่มี ไม่มีเลยนะน้อง ไม่มีติดมือเลย ก็งงเหมือนกัน แต่เราจะทำยังไงได้ ก็ต้องลุกขึ้นสู้

“ป้าก็ตั้งต้นใหม่มาเป็นแม่บ้านอยู่โรงพยาบาลแถวนี้ แต่ค่าเช่าบ้านมันแพง เราทำงานได้เงินเดือนแค่ 5-6 พัน ค่ากิน ค่ารถก็หมดแล้ว ก็เลยทนๆ ไปก่อน ทนมาจะ 2 ปีแล้ว”

“เวลาเลือกตั้งป้าก็ไปทุกทีนะ ไม่เคยคิดว่าจะไม่เลือก เรามีสิทธิไง จะปล่อยให้ว่างเปล่าก็ไม่ดีใช่ไหม ป้าก็อยากได้รัฐบาลที่ดี ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเนอะ ให้ประยุทธ์เป็นก็ได้ แต่เขาทำการค้าไม่เป็น ก็อยากให้สุดารัตน์ได้เป็นนายกฯ ไม่รู้ว่าแกจะได้หรือเปล่า แต่ก็กลัวเหมือนกันว่าได้แล้วจะมีปัญหาอีก แต่ปีนี้รู้สึกว่าคนไปเลือกตั้งกันเยอะ ก็อย่างว่า เขาคงอยากได้นายกฯ ใหม่”

“เราก็คาดหวังอยากให้พรรคเราได้ ป้ารู้สึกว่าปีนี้มีคนหน้าเหมือนภราดรคนนึง (หัวเราะ) ตอนเขามาแถวนี้คนก็ไปขอถ่ายรูปกันเยอะ ป้าว่าเขาก็เป็นม้ามืดตีคู่มากับสุดารัตน์เหมือนกันนะ ก็น่าลุ้นอยู่ แต่เดี๋ยววันที่ 24 นี้ก็รู้ว่าใครได้หรือไม่ได้”

เป็ด – อายุ 59 ปี

ที่อยู่อาศัยเดิม : ประจวบคีรีขันธ์

เป็ด - อายุ 59 ปี ที่อยู่อาศัยเดิม : ประจวบคีรีขันธ์

‘เป็ด’ ชายไร้บ้านวัย 59 ปี ผู้ใช้ชีวิตอยู่ที่สถานีรถไฟหัวลำโพงมานานกว่า 3 ปีเนื่องจากปัญหาทางบ้าน ซ้ำร้ายยังต้องทนทุกข์กับความผิดปกติทางร่างกายเพราะผลพวงจากเส้นเลือดสมองแตกจนต้องอยู่โรงพยาบาลนานถึง 9 เดือน

เขาเดินกะเผลกช้าๆ กวาดสายตาไปรอบๆ มือหนึ่งถือถุงสีฟ้าใบใหญ่เดินรอบสถานีรถไฟเพื่อเก็บขยะ

เมื่อเสร็จสิ้นการทำงาน เส้นทางสุดท้ายที่เขาเดินไปคือที่พักพิงเป็นฟุตปาธข้างรั้วกั้นระหว่างลานจอดรถและถนนที่มีการสัญจรไปมาเช่นทุกวัน เมื่อเราถามว่าจะไปเลือกตั้งไหม เขาตอบชัดเจนว่า

“ไปๆ ไม่สละสิทธิแล้ว สิทธิของเรา บัตรของเราไม่ใช่บัตรของใคร การเลือกตั้งสำคัญ สู้ไปด้วยใจ”

ลุงเป็ดมีมุมมองต่อทิศทางของประเทศหลังการเลือกตั้งว่า “ก็แล้วแต่คนที่เข้าไปบริหารงานจะช่วยคนไหม ถ้าเขาไม่ช่วยคน ก็ล้มเหลวเหมือนเดิม วนเข้าลูปเดิม ประเทศไทยไปไหนไม่ได้หรอก ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ถ้าขวานทองไม่บิ่นนะ”

เขาบอกว่านักการเมืองที่ชอบที่สุดคืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

“เขาขยันทำงาน ยอมรับว่ามีฝีมือ เมื่อก่อนทำงานตงฉินเลย ไม่โกงกินชาติบ้านเมือง คอร์รัปชันปราบหมด ไม่ได้มีแค่ความหล่อ” ว่าแล้วก็หัวเราะลั่น

ตรงกันข้าม เมื่อเราถามถึงพลเอกประยุทธ์ ลุงเป็ดมีท่าทีแตกต่างออกไป

“เบื้องหลังกับต่อหน้าเราไม่รู้ ก็รู้ว่าทหารทหารเป็นยังไง มีอำนาจอยู่ในมือ จะฆ่าเขาเมื่อไหร่ก็ได้ จำไม่ได้เหรอ 14 ตุลาฯ จอมพลถนอม จอมพลประภาส ยิงนักศึกษาตายห่าหมด

“ตั้งแต่เขายึดอำนาจมา 5 ปี เป็นยังไงบ้าง ไม่ดีขึ้นมาเลย บ้านเมืองล่มจมฉิบหายเลย พังหมด ไม่ช่วยให้ดีขึ้นมา ไม่ช่วยคนจนเลย คนจนก็นอนอย่างนี้ ขอบ้านหลังคาจากสักหลัง ไม่ขออะไรมากหรอก ถ้าบิ๊กตู่ทำได้ แจ๋ว”

บุญมี แสงอรุณ / อายุ 61 ปี

บุญมี แสงอรุณ / อายุ 61 ปี

“แถวนี้นอนไม่ได้ สนามหลวงก็นอนไม่ได้ หายเกลี้ยงหมดแล้ว จับไปแทบไม่เหลือ ต้องไปนอนแถววัดมหรรณพารามวรวิหาร นี่ผมมาเพราะเขาว่าจะมีข้าวมาแจก ไม่งั้นผมก็ไม่ได้มา ผมอยู่แถวโน้น”

บุญมี แสงอรุณ อายุ 61 ปี ชายไร้บ้านอีกคนนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยใกล้ๆ ลานศาลากลางจังหวัดกรุงเทพมหานคร ในอดีตเคยขับสิบล้อบริษัทอิตาเลี่ยน เงินเดือนเกือบ 20,000 บาท แต่เกิดอุบัติเหตุก็ทำให้ขาไม่สามารถใช้งานได้อย่างปกติ

“พอออกจากโรงพยาบาลมาได้ประมาณ 2 ปี ก็ไม่รู้จะทำยังไง ไปสมัคร รปภ. เขาก็บอกว่าอายุมากไป ผมพยายามหาแล้วก็ไม่มีงานทำ จำเป็นต้องมาขอเขากิน”

เราถามว่ารู้ข่าวการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นหรือเปล่า ลุงบุญมีพยักหน้า เขาวางช้อนลงก่อนจะหยิบถุงพลาสติกสีขุ่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอก เขาค่อยๆ แกะถุงออกแล้วยื่นบัตรประชาชนให้เราดู

“รู้ๆ เรามีสิทธิก็ต้องไป ไปใช้สิทธิของเรา ของผมเขตจอมทอง ผมมีทั้งบัตรประชาชน ใบขับขี่”

“ถ้าถามว่าชอบใครเป็นพิเศษ พูดยากเหมือนกันนะ สูสีกัน อภิสิทธิ์เขาก็ดี พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยผมยังเรียนหนังสืออยู่ เราก็คิดว่าพื้นฐานเขาดี แน่นกว่า แต่พรรคใหม่ๆ ก็ไม่ธรรมดานะ เขาก็เอาคนที่พอจะสู้กันได้มา แต่อาจจะไม่ชำนาญเท่า ความคิดเห็นลุงคือเขาแก้สถานการณ์ได้”

“ท่านเสรี ท่านก็ดีมีเมตตา แต่ถ้าถามว่าการเมืองจริงๆ สู้ประชาธิปัตย์ไม่ได้ เขาเก๋าเกมกว่า นี่พูดมาจากใจนะตามที่รู้มา เมื่อก่อนเวลาเขามีอะไรก็ไปช่วยเขาอยู่ ผมออกจากโรงพยาบาลก็มาขับรถเมล์ แต่ขับไม่ไหว ขาไม่ไหว ช่วงกปปส. ไปม็อบ มีข้าวกิน ก็ไปกับเขาเลย”

“แต่อย่างสุเทพก็มีสิทธิเพราะลูกบ้าดี พูดตรงๆ แกใจถึง”

“เพื่อไทยก็มาแจกข้าวสาร เขาก็เล่นการเมืองมานาน ไม่ธรรมดา อย่างที่บอกมันสูสีกัน ต้องวัดกันจนถึงวันเลือกตั้ง”

“ลุงตู่เขาก็ดี คนก็รักแกเยอะนะ มีบัตรช่วยคนจน ถ้าเพื่อไทยไม่มา ผมว่าลุงตู่อาจจะมาเอง เพราะว่าเพื่อไทยก็รู้ๆ กันอยู่ เล่นยาก สูสีกันกับประชาธิปัตย์ ก็ต้องวัดใจว่าคนจะรักประชาธิปัตย์เหมือนเดิมไหม”

ก่อนจากกัน ลุงบุญมีทิ้งท้ายไว้ว่า

“เรามองว่าคนนี้ทำอย่างนี้ คนนั้นก็ชำนาญ เขาเข้าไปทำงานเพื่อช่วยเรา ไม่ใช่ว่าอยากจะเข้าไปเอาเงิน คนที่คิดอย่างนี้ คิดผิด เขาก็อยากทำงานเพื่อประเทศชาติทุกคน ถ้าผมมีสิทธิ ผมก็อยากทำ”

MOST READ

Spotlights

14 Aug 2018

เปิดตา ‘ตีหม้อ’ – สำรวจตลาดโสเภณีคลองหลอด

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย พาไปสำรวจ ‘คลองหลอด’ แหล่งค้าประเวณีใจกลางย่านเมืองเก่า เปิดปูมหลังชีวิตหญิงค้าบริการ พร้อมตีแผ่แง่มุมเทาๆ ของอาชีพนี้ที่ถูกซุกไว้ใต้พรมมาเนิ่นนาน

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Aug 2018

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save