มองอนาคตอย่างไรให้เป็นวิทยาศาสตร์และปราศจากหมอดู

มองอนาคตอย่างไรให้เป็นวิทยาศาสตร์และปราศจากหมอดู

สิยดา วิฑูรย์ [1] เรื่อง

กฤตพร โทจันทร์ ภาพประกอบ

 

อนาคตมักถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับการกระทำจากอดีตและปัจจุบันของตน หรือเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้จากผู้ที่มีพลังเหนือมนุษย์ มุมมองดังกล่าวนี้ทำให้เรามองว่าปัจเจกบุคคลมีอำนาจในการจัดการอนาคตน้อยมากโดยสามารถทำได้แค่เพียงจัดการตนเองในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้เรามองการทำความเข้าใจอนาคต โดยเฉพาะในระดับมหภาคว่าเป็นสิ่งที่ไกลตัวหรือแทบไม่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตของเรา และหันไปให้ความสนใจกับการพยากรณ์ทำนายที่ไม่ได้อิงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ทว่าภัยโควิดที่สร้างความเสียหายต่อสังคมมนุษย์ในแทบทุกมิติ ช่วยให้เรารับรู้ว่าการศึกษาอนาคตอย่างมีแบบแผนและเป็นหลักการเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกันและมีการบันทึกข้อมูลข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพ การตัดสินใจตั้งแต่ในระดับส่วนตัวไปจนถึงระดับประเทศมักส่งผลกระทบต่อสิ่งต่างๆ ในระบบสังคมและธรรมชาติ การขาดความตระหนักรู้ในความสัมพันธ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความไม่มั่นคง แต่ยังทำให้เราสูญเสียความสามารถในการควบคุมความผันผวนของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและเสียเปรียบในการวางแผนกลยุทธ์สำหรับการปรับตัวที่ดีอีกด้วย

ยิ่งโลกเราซับซ้อนมากขึ้นเท่าไหร่การตีความอนาคตอย่างลึกซึ้งและเชื่อมโยงจากหลากหลายมิติยิ่งจำเป็น ซึ่งในปัจจุบันศาสตร์องค์ความรู้ที่ชื่อว่า ‘อนาคตศึกษา (Futures Studies)’ สามารถช่วยตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้

อนาคตศึกษากำลังเป็นหนึ่งในองค์ความรู้ทางด้านวิชาการที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ผู้อ่านหลายท่านอาจเริ่มคุ้นชินกับอนาคตศึกษาผ่านบทความต่างๆ ทั้งในวารสารทางวิชาการและนิตยสารเสริมสร้างองค์ความรู้แขนงต่างๆ ฉบับออนไลน์หรือตีพิมพ์ ทว่าองค์ความรู้ทางด้านอนาคตศึกษาค่อนข้างซับซ้อนและยังเป็นสิ่งใหม่ในประเทศไทย การทำความเข้าใจจากพื้นฐานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ในการต่อยอดองค์ความรู้ให้สอดรับกับบริบทของประเทศไทย บทความนี้จึงมุ่งนำเสนอเรื่องราวความรู้เบื้องต้นที่เกี่ยวกับอนาคตศึกษาในภาษาที่เข้าใจง่ายจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่กำลังศึกษาด้านอนาคตศึกษาในประเทศฟินแลนด์ซึ่งหวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่นักคิดนักวางแผน

อนาคตศึกษามองว่าอนาคตมีความซับซ้อนและสิ่งที่มากำหนดอนาคตไม่ได้มีแค่ผลจากการกระทำในอดีต โจเซฟ โวโรส นักอนาคตศึกษาชาวออสเตรเลียระบุว่า เราสามารถทำความเข้าใจอนาคตได้ง่ายๆ ตามรูปทรงกรวย ซึ่งมีเวลาเป็นตัวตัดสินในการพิจารณาความเป็นไปได้ของการเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งในอนาคต

 

 

จากภาพแสดงข้างต้น เราจะเริ่มสังเกตเห็นจาก Preposterous Futures ที่หมายถึงอนาคตที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การดับของดวงอาทิตย์ก่อนปี พ.ศ. 2600 หรือ การยกเลิกการใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการของประเทศไทยในอีก 1 ปีข้างหน้า เป็นต้น, Possible Futures คือ อนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้แต่มักถูกมองว่ามีโอกาสต่ำ เพราะไม่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์สภาพความเป็นไปหรือองค์ความรู้ที่มีในปัจจุบัน เช่น การสูญพันธ์ของมนุษย์จากโรคระบาด หรือ การยกเลิกเงินยูโรเป็นหนึ่งในสกุลเงินกลางของโลก, Plausible Futures คือ อนาคตที่มองว่าเกิดขึ้นได้เมื่อทำการวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผลจากข้อมูลและองค์ความรู้ที่มีในปัจจุบัน เช่น การเกิดการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส (COVID-19) ระลอกที่สองในประเทศไทย

Projected Futures คือ อนาคตที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพราะเป็นผลกระทบโดยตรงจากการกระทำในปัจจุบัน เช่น การฟื้นตัวของตลาดหุ้นในกลุ่มบริษัทการบินหลังจากการยกเลิกมาตราการปิดประเทศทั่วโลก หรือ การตื่นตัวมากขึ้นด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมหลังเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ, Probable Futures คือ อนาคตที่ประเมินว่าจะเกิดขึ้นโดยอิงจากการใช้สถิติคำนวณตามโอกาสของการเกิดขึ้นและการคาดคะเนของแนวโน้มที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น โอกาสที่จะได้แต้มเป็นเลขคู่ในการทอยลูกเต๋า 1 ลูก 1 ครั้ง หรือ การประเมินความเสี่ยงเพื่อการลงทุน และ Preferable Futures คือ อนาคตที่พึงประสงค์หรืออนาคตที่ต้องการให้เกิดขึ้น เช่น การกำหนดผลกำไรจากการประกอบการ หรือการตั้งเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองปลอดมลพิษ

กรวยแห่งอนาคตของโวโรสช่วยให้เราเห็นได้ว่าอนาคตที่สมควรได้รับการพิจารณาต่อยอดเพื่อการวางแผนนั้นคืออนาคตรูปแบบไหนบ้าง ทว่าหากเราต้องการตีความให้กระจ่างมากขึ้นเพื่อการตัดสินใจอย่างเป็นรูปธรรม อนาคตที่ควรให้ความสำคัญคืออนาคตในหลัก 3P (Possible Futures, Probable Futures, และ Preferable Futures) โดยควรจัดลำดับการเลือกพิจารณาชนิดของอนาคตที่จะศึกษาในหลักการนี้ ตามการวิเคราะห์ถึงความซับซ้อนของบริบทที่รายล้อมองค์กร และความรวดเร็วในการเคลื่อนไหว (พลวัต) ขององค์กรที่มาจากการทำความเข้าใจในพละกำลังและทรัพยากรที่หน่วยงานหรือบุคคลหนึ่งมีและสามารถนำมาใช้เพื่อควบคุมจัดการทิศทางอนาคตตามกรอบระยะเวลาที่ตั้งไว้ได้

ทั้งนี้เราควรประเมินความซับซ้อนของบริบทที่รายล้อมองค์กรผ่านการพิจารณาตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับองค์กรว่า มีหลายชนิดหรือไม่, มีความสามารถในการสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากหรือน้อย, ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรเป็นอย่างไร, โอกาสที่จะเกิดตัวแปรใหม่มีสูงหรือต่ำแค่ไหน, ระดับความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร, การเปลี่ยนแปลงผันผวนเร็วหรือไม่,แต่ละตัวแปรสามารถส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนได้บ้าง

องค์กรที่ขับเคลื่อนอยู่ในบริบทที่มีความซับซ้อนน้อย กล่าวคือ ตัวแปรอยู่ในมิติที่จำกัด ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่ำ แต่ตัวแปรมีอิทธิพลในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงลึกในการเปลี่ยนแปลงที่มักเกิดขึ้นบ่อย และมักมีตัวแปรใหม่เกิดขึ้นสม่ำเสมอในทุกการเปลี่ยนแปลง (highly disrupted with limited areas of drivers in highly changed environment) อาจเริ่มจากการทำความเข้าใจ Possible Futures หรือ/และ Probable Futures แล้วจึงค่อยมองหา Preferable Futures เนื่องจากองค์กรเหล่านี้ตั้งอยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและต้องเจอกับความท้าทายสูงในกำหนดทิศทางขององค์กร

นักอนาคตศึกษาเรียกวิธีการมองแบบนี้ว่า ‘การสำรวจอนาคต’ โดยให้ผลลัพธ์คือ อนาคตเชิงสำรวจ (Explorative Futures) เครื่องมือที่ตอบโจทย์กับการวิเคราะห์อนาคตดังกล่าวคือ เครื่องมือในการคาดการณ์ล่วงหน้า (Forecasting Tools) เช่น Trend-Impact Analysis, Explorative Scenarios, General Morphological Analysis, Wild Cards, Systems Thinking กล่าวแบบสรุปอย่างกระชับคือ ลักษณะการมองภาพอนาคตดังกล่าวเป็นวิธีการมองจากข้างนอกเข้ามายังข้างใน (outside-in approach) หรือเข้าใจเขาเพื่อที่จะสร้างเรา ตัวอย่างองค์กรที่ใช้วิธีการนี้คือ บริษัทโนเกีย และ ฟิลิปป์  ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเพิ่มขีดความสามารถเฉพาะทางของตนเองในการแข่งขันกับตลาดทางเทคโนโลยีที่มีมักมีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา

ในทางกลับกัน หากเป็นองค์กรที่อยู่ท่ามกลางบริบทที่มีความซับซ้อนสูง กล่าวคือ มีชนิดตัวแปรมากและหลายมิติ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสูง ตัวแปรมีอิทธิพลในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงกว้างในการเปลี่ยนแปลงที่มักเกิดขึ้นยาก และมีตัวแปรใหม่เกิดขึ้นน้อย (scarcely disrupted with diverse drivers in slowly changing environment) อีกทั้งมีความสามารถในการกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวขององค์กรได้อย่างหลากหลาย ควรมองอนาคตจากการศึกษา Preferable Futures อนาคตที่พึงประสงค์ขององค์กรแล้วจึงมองกลับออกไปข้างนอกเพื่อหา Possible Futures และ Probable Futures เนื่องจากองค์กรเหล่านี้มีความสามารถในการปรับตัวสูง มีศักยภาพในการต่อรองกับตัวแปรต่างๆ เพื่อการกำหนดทิศทางขององค์กรให้ตอบรับกับจุดแข็ง จุดอ่อน และจุดยืนภายในองค์กรได้

นักอนาคตศึกษาเรียกอนาคตจากการมองดังกล่าวว่า ‘อนาคตเชิงบรรทัดฐาน’ (Normative Futures) ที่หมายถึงอนาคตที่มาจากการทำความเข้าใจความต้องการ ความเชื่อ มุมมอง และค่านิยมที่กำหนดความต้องการภายในองค์กร เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาอนาคตในรูปแบบนี้คือ เครื่องมือในการคาดการณ์ถอยหลัง (Backcasting Tools) เช่น Vision building, Normative Scenarios, Futures Workshop กล่าวคือการมองอนาคตเชิงบรรทัดฐานนี้เป็นการมองจากข้างในไปสู่ข้างนอก (inside-out approach) เข้าใจเราเพื่อที่จะสร้างเขา โดย Royal Dutch Shell เป็นหนึ่งในบริษัทที่ใช้วิธีการนี้ในการศึกษาฉากทัศน์ขององค์กรในช่วงก่อนเกิดวิกฤตน้ำมันโลกในปี 1973 เพื่อวางแผนการสร้างแหล่งพลังงานทดแทนใหม่จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน

อนึ่ง สิ่งที่ผู้สนใจด้านอนาคตศึกษาควรระลึกเสมอคือ อนาคตไม่ควรและจะไม่ผูกติดกับรูปแบบอนาคตที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ เพราะอนาคตเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันที่เคลื่อนที่ในทิศทางที่หลากหลายภายใต้สังคมเชิงซ้อนและซับซ้อน (complex and complicated) ยิ่งเราเข้าใจมุมมองอนาคตและที่มาที่ไปของมุมมองนั้นจากผู้คนหรือองค์กรได้อย่างหลากหลายมากเท่าไหร่ เราจะยิ่งมีองค์ความรู้ที่สามารถมาเชื่อมโยงและมองภาพอนาคตได้อย่างหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น

เวนเดลล์ เบลล์ (Wendell Bell) นักวิจัยผู้วางรากฐานที่สำคัญของอนาคตศึกษาชี้ว่า “There are no past possibilities and there are no future facts” อนาคตศึกษาจึงไม่ใช่องค์ความรู้เพื่อการทำนาย เพราะไม่ใช่องค์ความรู้แบบคงที่ แต่เป็นสิ่งที่มีพลวัตรและถูกทำให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาจากตัวแปรต่างๆ ในสังคม นักอนาคตศึกษาจึงต้องมีความยืดหยุ่น คล่องตัว และเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงที่มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เครื่องมือและองค์ความรู้ด้านอนาคตศึกษาสามารถเป็นตัวช่วยให้เราทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ความน่าจะเป็นและเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ในอนาคต ทั้งนี้หากจะอธิบายถึงเครื่องมือของอนาคตศึกษาในบทความนี้ อาจจะทำให้ผู้อ่านใช้ระยะเวลาในการอ่านนานจนเกินไป จึงจะขออธิบายเครื่องมือและองค์ความรู้ที่นักอนาคตศึกษาใช้วิจัยและศึกษาเรื่องอนาคตในบทความต่อๆ ไป

 

 


[1] นักศึกษาด้านอนาคตศึกษา ที่ FFRC (Finland Futures Research Center)

 

เอกสารอ้างอิง

Bell, Wendell (1997) Foundations of futures studies: human science for a new era. Vol. 2, Transaction Publishers, New Brunswick, NJ, USA.

Minkkinen, Matti (2019) Overview of the futures field [PowerPoint presentation]. FUTU1 Foundation of Futures Studies. <https://moodle.utu.fi/course/view.php?id=16787> retrieved 9.9.2019

Minkkinen, Matti (2019) Explorative futures studies [PowerPoint presentation]. FUTU1 Foundation of Futures Studies <https://moodle.utu.fi/course/view.php?id=16787> retrieved 16.9.2019

Minkkinen, Matti (2019) Normative futures studies [PowerPoint presentation]. FUTU1 Foundation of Futures Studies  <https://moodle.utu.fi/course/view.php?id=16787> retrieved 23.9.2019

Vecchiato, Riccardo (2012) Environmental uncertainty, foresight and strategic decision making: An integrated study. Technological Forecasting & Social Change. Vol. 79, 436-447  

Voros, Joseph (2003) A generic foresight process framework. Foresight. Vol. 5 (3), 10-21.

MOST READ

Social Issues

9 Oct 2023

เด็กจุฬาฯ รวยกว่าคนทั้งประเทศจริงไหม?

ร่วมหาคำตอบจากคำพูดที่ว่า “เด็กจุฬาฯ เป็นเด็กบ้านรวย” ผ่านแบบสำรวจฐานะทางเศรษฐกิจ สังคม และความเหลื่อมล้ำ ในนิสิตจุฬาฯ ปี 1 ปีการศึกษา 2566

เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล

9 Oct 2023

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Education

20 Jul 2023

คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ในวิกฤต (?)

ข่าวการปรับหลักสูตรของอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ชวนให้คิดถึงอนาคตของการเรียนการสอนสายมนุษยศาสตร์ เมื่อตลาดแรงงานเรียกร้องทักษะสำหรับการทำงานจริง จนมีการลดความสำคัญวิชาพื้นฐานอันเป็นการฝึกฝนการวิเคราะห์วิพากษ์เพื่อทำความเข้าใจโลกอันซับซ้อน

เสียงเล็กๆ จากประชาคมอักษร

20 Jul 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save