fbpx

อนาคตบนเส้นด้ายของสาวนวด-สาวบาร์ในสิงคโปร์ เมื่อย่านโคมแดงบนสองตึกสูงถึงคราวจากลา

ปิดตำนานลิตเติลไทยแลนด์แห่งแดนสิงคโปร์

“มันกระทบเยอะนะ กระทบหลายคนอยู่ หลายคนเปิดร้านนวดอยู่ตรงนั้นหลายปีแล้ว บางคนก็แก่แล้ว จะให้ย้ายไปอยู่ในเมือง ค่าเช่าก็แพง อะไรก็แพง เหมือนเขาต้องไปเริ่มต้นใหม่กันหมดเลย” 

เดือน (นามสมมติ) พนักงานร้านนวดไทยวัย 45 ปี เล่าให้ฟังถึงชะตากรรมของกิจการร้านนวดไทย ที่ต้องพากันแห่ย้ายออกจากโกลเด้นไมล์คอมเพล็กซ์ (Golden Mile Complex) กลุ่มอาคารเอนกประสงค์ทรงแปลกตาที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นบนถนนบีชโร้ด (Beach Road) ไม่ไกลมากนักจากใจกลางเมืองสิงคโปร์ หลังจากที่อาคารถูกปิดดีลขายต่อให้เจ้าของรายใหม่ ก่อนส่งมอบอย่างสมบูรณ์ในเดือนพฤษภาคม 2023

การขายต่อโกลเด้นไมล์ไม่เพียงกระทบกลุ่มธุรกิจร้านนวดเท่านั้น แต่แน่นอนว่าสะเทือนทุกกิจการที่เคยปักหลักทำมาหารายได้ในอาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของกิจการและลูกจ้างที่เป็น ‘ชาวไทย’ เพราะสถานที่แห่งนี้คือแหล่งรวมธุรกิจห้างร้านไทยๆ ไม่ว่าจะร้านอาหารไทย หรือร้านขายสินค้าไทย จนเป็นที่เรียกติดปากว่า ‘ลิตเติลไทยแลนด์’  ‘ลิตเติลบางกอก’  หรือ ‘ไทยทาวน์’ 

เช่นเดียวกับร้านนวด ทุกกิจการห้างร้านจำใจทยอยหอบข้าวของออกจากอาคารแห่งนี้กระจัดกระจายไปตามทางของตน ทำให้ลิตเติลไทยแลนด์ที่เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของคนไทยในสิงคโปร์มายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ เป็นอันต้องปิดฉากลง[1] 

Golden Mile Complex
อาคารโกลเด้นไมล์คอมเพล็กซ์ในเวลากลางคืน

“ตัวพี่เองยังไม่กระทบเท่าคนอื่นนะ เพราะพี่รับงานหลายร้าน สมมติร้านหนึ่งไม่มีงานให้พี่ พี่ก็กระโดดไปร้านอื่น แล้วก็รับทางออนไลน์ด้วย และอีกอย่างลูกค้าพี่ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติอยู่แล้ว สำหรับพี่เลยถือว่าพี่ออก [จากโกลเด้นไมล์] ไปก่อนเพื่อนแล้วนะ” เดือนเล่าถึงอนาคตบนเส้นทางอาชีพพนักงานนวดบนเกาะสิงคโปร์ของเธอที่แสงสว่างยังไม่อาจดับลงไปพร้อมกับแสงไฟในโกลเด้นไมล์ แต่ไม่ใช่สำหรับเพื่อนร่วมอาชีพของเดือนอีกหลายคนที่มีโกลเด้นไมล์เป็นแหล่งรายได้เดียว 

“หลายคนยังไม่รู้อนาคตตัวเองเท่าไหร่ว่าจะย้ายไปไหน หลายคนก็ถึงขั้นคิดอยากจะกลับบ้าน [ประเทศไทย]” เดือนเล่าให้ฟัง

“แล้วเขาก็แก่กันแล้ว ไม่รู้จะไปทำงานตรงไหน ถ้าจะให้เข้าไปทำในเมือง ก็มีแต่เด็กๆ อายุ 20 กว่าๆ นะ เป็นแบบนี้เขาก็ไปสู้ไม่ได้” 

ฝีไม้ลายมือในการนวดย่อมไม่ใช่ปัญหาสำหรับบรรดาพนักงานนวดบนโกลเด้นไมล์ที่เดือนบอกว่าส่วนมากมีอายุอยู่ในช่วง 40-60 ปี และสั่งสมประสบการณ์นวดมายาวนาน หากแต่สิ่งที่พนักงานเหล่านี้ยากที่จะสู้กับพนักงานนวดสาวๆ ได้ คือเรือนร่างและความสะสวย 

รู้ว่าเสี่ยง แต่ต้องทำ – ชีวิตของหญิงค้าบริการในเสื้อคลุมพนักงานนวด

“เราก็ไปทำงานที่ร้านนวดทุกวัน ไปเช้า เย็นก็กลับบ้าน ทำเป็นงานประจำ แต่ว่าร้านนวดที่ทำงานอยู่ก็จะแอบมีบริการพิเศษ” เดือนเริ่มเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดงานที่ตัวเองทำ และไม่เพียงแต่เฉพาะร้านนวดที่เดือนทำงานเท่านั้น เดือนเล่าด้วยว่าร้านนวดในสิงคโปร์อีกไม่น้อยมีการลักลอบแอบแฝงการให้บริการเสริมต่อลูกค้า

แม้หลายคนอาจเคยได้ยินว่าการค้าบริการทางเพศ ‘ถูกกฎหมาย’ ในสิงคโปร์ แต่ความจริงก็ไม่ใช่ว่าจะเปิดกว้างอย่างเต็มที่ สถานบริการทางเพศที่สามารถดำเนินกิจการในสิงคโปร์ได้ต้องขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบกิจการจากทางการ และสามารถดำเนินกิจการได้ในเขตพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งคือย่านเกลัง (Geylang) เท่านั้น การดำเนินกิจการลักษณะดังกล่าวในพื้นที่นอกเหนือจากนั้นดังเช่นอาคารโกลเด้นไมล์ จึงถือว่าอยู่นอกกรอบกฎหมาย

ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพค้าบริการทางเพศที่จะสามารถทำงานได้ก็ต้องได้รับใบอนุญาตในรูป ‘บัตรเหลือง’ (Yellow Card) ซึ่งต้องทำก่อนบินเข้าประเทศสิงคโปร์ โดยมีข้อบังคับ เช่น ต้องมีอายุระหว่าง 21-35 ปี ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกเดือน ต้องไม่เป็นคนเชื้อชาติมาเลย์หรือเป็นมุสลิม ต้องไม่ถูกระบุบนบัตรประชาชนว่าเป็นเพศชาย และต้องเป็นประชากรจากประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และจีนเท่านั้น รวมทั้งต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ควบคุมวิถีทางทำงานและวิถีชีวิตประจำวันในสิงคโปร์อีกหลายข้อ

“แต่ละปีจะมีช่วงที่ตำรวจมาตรวจจับกวาดล้างอยู่ 2-3 ครั้ง จริงๆ เขาจะเช็กเมื่อไหร่ก็ได้แหละ แต่มันก็จะมีช่วงของเขาอยู่ ถ้าเป็นช่วงนั้นเขาจับเกือบทุกที่เลย เราเลยจะไม่ค่อยทำงานกันและไม่ค่อยออกไปข้างนอกกันในช่วงนั้น คือเราต้องระวัง เพราะถ้าเราถูกจับมันจะกระทบกับบัตรพีอาร์ (PR: Permanent Resident – บัตรแสดงสถานะผู้อาศัยถาวร) ที่เราถืออยู่ แล้วมันก็ต้องไปเสียค่าปรับที่ศาลซึ่งแพงมากเลย คิดเป็นเงินบ้านเราก็ประมาณ 800,000-1,000,000 บาทเลยนะตอนนี้” เดือนเล่า

“พี่มีเพื่อนที่เคยโดนจับนะ โดนปรับเป็นล้าน [บาท] เลย เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วนี่เอง แต่ยังดีที่ไม่โดนถอนพีอาร์ เพราะไปเสียค่าปรับแทน แต่ถ้าเกิดต้องติดคุก นั่นอาจจะโดนถอน” เดือนเล่าต่อ 

Golden Mile Complex
ร้านนวดในอาคารโกลเด้นไมล์คอมเพล็กซ์

แม้เดิมพันของการทำงานนี้จะมีราคาแพง แต่เดือนก็ยอมเสี่ยงทำมาต่อเนื่องถึงสิบกว่าปีกระทั่งทุกวันนี้ ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ และถึงแม้จะมีช่องทางให้ทำงานค้าบริการได้อย่างถูกกฎหมายในสิงคโปร์ แต่ด้วยเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่เล่าข้างต้น ทำให้หญิงค้าบริการจากต่างแดนจำนวนมาก รวมถึงเดือน เลือกลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้ค้าบริการในสิงคโปร์มีจำนวนราวหนึ่งหมื่นคน โดยมีเพียงประมาณหนึ่งในสิบ หรือราว 800-1,000 คนเท่านั้นที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง

“ถ้าคิดเป็นเงินบ้านเรา มันก็ได้แสนกว่าๆ ต่อเดือน ยิ่งเมื่อก่อนที่บูมมากๆ ก็ได้เยอะมาก ประมาณ 150,000-200,000 บาทต่อเดือนเลย แต่หลังๆ พอมันเริ่มกวาดล้างเยอะขึ้น เราก็ได้น้อยลง แต่เฉลี่ยๆ แล้วก็ยังเป็นแสนต่อเดือนอยู่” เดือนเปิดเผยถึงรายได้ที่เธอได้รับ

“เราส่งเงินกลับบ้านทุกเดือน ส่วนมากก็เดือนละ 10,000-20,000 บาท ให้ทางบ้านไว้เป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปแต่ละเดือน แต่ถ้ามีอะไรนอกเหนือจากนั้น เราก็จ่ายให้เพิ่ม ถ้าถามว่าพี่มาอยู่ที่นี่แล้วทางบ้านพี่มีชีวิตดีขึ้นไหม ก็ดีขึ้นเยอะเลยนะ บ้านพี่ก็มีคุณพ่อ คุณแม่ มีหลานๆ ของพี่ 7-8 คน บางคนเรียนอยู่ เราก็เหมือนได้ช่วยส่งเขาเรียนด้วย ได้ช่วยดูแลญาติพี่น้องด้วย คือถ้าเราไม่มาอยู่ที่นี่ ไม่มาอยู่ในจุดนี้ เราคงไม่มีเงินเยอะแยะที่จะไปเลี้ยงเขาได้ขนาดนั้นหรอก มันจะเป็นไปไม่ได้เลย” เดือนเล่า 

ย้อนไป 18 ปีที่แล้ว เดือนตัดสินใจจากบ้านเกิดของเธอที่จังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย บินลัดฟ้าสู่สิงคโปร์ตามคำชักชวนของเพื่อนเพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากไทยมากนัก เดือนจึงเลือกสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทาง โดยเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยงานค้าบริการทางเพศที่ย่านเกลัง 

แม้กิจกรรมการค้าบริการทางเพศจะได้รับอนุญาตในพื้นที่เกลัง แต่ก็ใช่ว่าหญิงสาวผู้ให้บริการทุกคนตรงนั้นจะถูกกฎหมาย หากพวกเธอไม่ได้ทำงานในสถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต หรือหากตัวพวกเธอเองไม่มีบัตรเหลือง นั่นก็ย่อมถือว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเดือนเองในตอนนั้นก็จัดว่าอยู่ในประเภทนี้

“พี่ไม่ได้มาแบบถูกกฎหมายนะ ผิดเต็มๆ เลย ตอนนั้นมาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว มาเจอมาม่าซังที่นี่ แล้วตอนทำงานตอนนั้นก็คือยืนหาลูกค้ากันอยู่ตามถนนเลย แล้วลูกค้ามีเยอะมากนะตอนนั้น แต่พอมีตำรวจมาทีก็วิ่งหนีกัน ถ้าตำรวจเจอ เขาจับได้ทันทีเลย แต่ตอนนั้นพี่ไม่เคยโดน” เดือนย้อนความหลัง

เดือนทำงานในย่านเกลังอยู่ได้เพียง 2-3 เดือน ชีวิตก็เปลี่ยนผ่านเข้าสู่บทใหม่เมื่อได้แต่งงานกับชายชาวสิงคโปร์และมีลูกด้วยกัน แต่เพียงชั่วระยะหนึ่ง เดือนกับสามีก็ตัดสินใจหย่าร้างกัน ก่อนที่เดือนจะตัดสินใจเข้าสู่แวดวงอาชีพพนักงานนวดในสิงคโปร์จนถึงทุกวันนี้ โดยมีใบประกอบวิชาชีพการนวดอย่างถูกต้อง 

“หลายคนก็เป็นแบบนี้นะ เมื่อก่อนผู้หญิงไทยเข้ามาทำงานสิงคโปร์เยอะ แล้วก็มาแต่งงานกับคนสิงคโปร์เยอะ คือใครที่ไม่อยากกลับไทยก็จะหาผู้ชายแต่งงานมีครอบครัวที่นี่ แล้วผู้หญิงหลายคนก็จะชอบทำงานร้านนวด เพราะบางทีเงินเดือนสามีอย่างเดียวไม่พอใช้ หรือต่อให้พอใช้ บางทีเขาก็ไม่ได้ให้เราเยอะ แล้ว พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ลูกเต้าที่อยู่ที่ไทยก็คอยโทรขอเงินกันตลอด พอเขาไม่รู้จะหาเงินอย่างไร ทางหนึ่งที่ง่ายที่สุดก็คือทำงานนวดนี่แหละ” เดือนเล่า 

จากโกลเด้นไมล์ สู่ออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส: เมื่อตึกโคมแดงไม่ได้ปิดตัวลงเพียงแห่งเดียว

ธุรกิจร้านนวดไทยจัดว่าเป็นที่นิยมค่อนข้างสูงในสิงคโปร์ โดยมีแหล่งรวมใหญ่แห่งหนึ่งอยู่บนอาคารโกลเด้นไมล์ ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนสิงคโปร์ท้องถิ่นแวะเวียนไปใช้บริการต่อเนื่อง และอย่างที่กล่าวไปแล้ว ในบางร้าน บริการที่ว่าไม่ใช่เพียงแต่บริการคลายความปวดตึงของกล้ามเนื้อ

อย่างไรก็ตาม ร้านนวดไม่ใช่แหล่งแสวงหาความสำราญรูปแบบเดียวใต้ร่มอาคารโกลเด้นไมล์ เมื่อแสงไฟร้านค้าและร้านอาหารที่ให้บริการในช่วงกลางวันถึงพลบค่ำเริ่มทยอยดับลง แสงไฟหลากสีสันและเสียงเพลงเร้าอารมณ์จากสถานบันเทิงอย่างร้านคาราโอเกะ (เคทีวี; KTV) จากซอกมุมต่างๆ ของอาคารก็ตื่นขึ้นมาแทนที่ พร้อมกับบรรดาหญิงสาวทั้งชาวไทยและต่างชาติ บ้างนั่งดื่มเป็นเพื่อนลูกค้า บ้างร้องเพลง บ้างยืนเรียกแขกหน้าร้าน

นอกจากจะเป็นที่รู้จักในฐานะลิตเติลไทยแลนด์ อาคารโกลเด้นไมล์ยังเป็นที่รับรู้ว่าเป็นมุมมืดแหล่งหนึ่งของเกาะสิงคโปร์ ภายใต้สมญานามที่หลากหลายทั้ง ‘สลัมแนวตั้ง’ (Vertical Slum), ‘ความอัปยศของชาติ’ (National Disgrace) และ ‘ด้านมืดของถนนบีชโร้ด’ (Beach Road’s Darker Side) ด้วยปัญหาความทรุดโทรม ความย่ำแย่ของสุขอนามัย อาชญากรรม การทะเลาะวิวาท และที่สำคัญคือแหล่งสถานบันเทิงยามค่ำคืนอันขื้นชื่อ โดยเป็นที่ฉาวโฉ่หนักครั้งหนึ่งเมื่อเคทีวีในอาคารถูกจับได้ว่าแอบฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ เปิดให้บริการอย่างลับๆ จนกลายเป็นหนึ่งในจุดกำเนิดของการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 

สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เปิดให้บริการในอาคารโกลเด้นไมล์คอมเพล็กซ์

หากจะว่าไป มุมมืดที่หลบซ่อนในตึกสูงบนเกาะสิงคโปร์ไม่ได้มีแค่ในอาคารโกลเด้นไมล์แห่งเดียวที่ขึ้นชื่อ ห่างออกไปในย่านที่ได้ชื่อว่าสวรรค์แห่งการช็อปปิงอย่างถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road) ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าและโรงแรมหรูที่เรียงรายเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวตลอดเส้นถนน อาคารหลังหนึ่งกลับมีบรรยากาศแปลกแยกราวกับอยู่คนละโลก โดยเฉพาะในยามค่ำคืน หากจะบอกว่าที่นี่เป็นเสมือนหนึ่งซอยคาวบอยในแนวตั้งก็คงไม่ผิดนัก ด้วยภาพหญิงสาวจากหลากเชื้อชาติ รวมถึงหญิงไทย ยืนกระจัดกระจายทั้งนอกและในอาคาร และไนต์คลับที่เปิดรับลูกค้าชายหนุ่มกันอย่างคึกคักตลอดสี่ชั้นล่างของตึก อาคารแห่งนี้ใช้ชื่อง่ายๆ ตามชื่อถนนที่ตั้งว่า ‘ออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส’ (Orchard Towers) และมีชื่อเล่นที่คนสิงคโปร์เรียกขานกันว่า ‘สี่ชั้นแห่งโสเภณี’ (Four Floors of Whores)   

แต่ก็เฉกเช่นโกลเด้นไมล์ อาคารที่สร้างขึ้นไล่เลี่ยกันในยุค 70s อย่างออร์ชาร์ดทาวเวอร์สนี้ สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ทางการ และสร้างความหวาดระแวงต่อประชาชนสิงคโปร์ไม่น้อย ด้วยความเป็นแหล่งอโคจร อันมีเหตุทะเลาะวิวาทและฆาตกรรมอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2022 สำนักงานตำรวจแห่งชาติสิงคโปร์ประกาศไม่ต่อใบอนุญาตสถานบันเทิงแก่ทุกกิจการบนอาคาร โดยให้เหตุผลว่าสถานการณ์การละเมิดกฎหมายและความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของอาคารแห่งนี้ยังคงน่ากังวลและไม่มีการพัฒนาที่ดีขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกกิจการบนอาคารต้องปิดตัวลงภายในเดือนพฤษภาคม 2023 ก่อนเพิ่งมีการขยายระยะเวลาไปเป็นกรกฎาคม 2023

เท่ากับว่าในปีนี้ สองตึกสูงอันเป็นแหล่งอโคจรใหญ่ของสิงคโปร์เป็นอันต้องร่ำลาไปพร้อมๆ กัน

Orchard Towers
อาคารออร์ชาร์ดทาวเวอร์

“ฉันคงจะเก็บตัว ไม่ออกไปไหนเลยสักหนึ่งเดือน แล้วไปนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เพราะฉันผูกพันมากกับทั้งสองที่นี้” เชอร์รี เชอร์เกชา (Sherry Sherqueshaa) อดีตหญิงผู้ค้าบริการ แสดงความโศกเศร้าเมื่อเราถามถึงการปิดตัวของทั้งสองอาคาร โดยปัจจุบัน เชอร์รีผันตัวมาทำงานให้กับโปรเจ็กต์เอ็กซ์ (Project X) หน่วยงานเอ็นจีโอที่ทำงานขับเคลื่อนสวัสดิภาพของผู้ค้าบริการทางเพศในสิงคโปร์ ทำให้เชอร์รี่ได้ทำงานและใช้ชีวิตคลุกคลีกับสองตึกนี้มาหลายปี

“ทุกคนในตึกรู้จักฉัน พวกเธอดีใจตอนที่เจอฉัน เพราะฉันช่วยเหลือพวกเธอมาตลอด ทั้งเอาถุงยางอนามัยไปแจก ทั้งช่วยเรื่องการตรวจสุขภาพ และช่วยเหลือในเรื่องทางกฎหมายผ่านทนายความอาสา ฉันใช้เวลาสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเธอมาตลอด จนตอนนี้มันก็น่าใจหายที่ฉันจะไม่ได้เจอพวกเธอที่สองตึกนี้อีก” เชอร์รีบรรยายความรู้สึก

ทางด้านโกลเด้นไมล์ การสิ้นสุดลงของอาคารนี้เป็นเหตุผลในเรื่องธุรกิจ แต่สำหรับการปิดตัวของออร์ชาร์ดทาวเวอร์สนั้น แม้ด้านหนึ่ง เชอร์รีเข้าใจได้ว่าเป็นไปเพื่อความสบายใจของทั้งประชาชนทั่วไปและทางการเอง แต่ส่วนตัวเธอไม่ได้เห็นด้วยนัก

“ฉันว่าเราไม่ควรไปโทษตัวสถานที่ว่าตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดความรุนแรง แต่ควรจะโทษที่ตัวลูกค้าที่เมามายคุมสติไม่ได้แล้วไปก่อเรื่องมากกว่า มันเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องรับผิดชอบในพฤติกรรมของตัวเอง ไม่ใช่มาลงโทษที่ไนต์คลับหรือโทษผู้ค้าบริการว่าเป็นต้นเหตุ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด” เชอร์รี่ให้ความเห็น

“ต้องอย่าลืมว่าพวกเธอก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่ดิ้นรนหาเงินจุนเจือครอบครัวของตัวเอง บางคนอาจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องส่งเสียลูกเพียงลำพัง บางคนอาจยังเป็นนักเรียนนักศึกษาที่จำเป็นต้องหารายได้เสริมเพื่อดำรงชีวิตตัวเองให้อยู่รอด การที่สถานบริการแห่งหนึ่งต้องปิดตัวลงก็หมายถึงการที่พวกเธอต้องไปเริ่มต้นใหม่หมด แล้วบางคนอาจจะปรับตัวไม่ได้ กลายเป็นความดิ้นรนครั้งใหม่ในชีวิตของพวกเธอ” เชอร์รีกล่าว 

อย่างไรก็ตาม เชอร์รีมองว่าสำหรับหญิงค้าบริการหลายๆ คน เส้นทางอนาคตจะยังคงไปต่อได้ 

“จากที่ฉันได้คุยมา หลายๆ คนก็เริ่มมีแผนอนาคตว่าจะย้ายไปทำงานที่ไหน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี มันแสดงให้เห็นว่าพวกเธอก็แข็งแกร่งอยู่เหมือนกัน สิ่งที่พวกเธอต้องเจอในวันนี้อาจจะเป็นแค่อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ครั้งหนึ่งของพวกเธอเท่านั้น แล้วฉันเชื่อว่าในที่สุดหลายคนจะเอาชนะมันได้” เชอร์รีกล่าว

Orchard Towers
อาคารออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส

กระจัดกระจาย-มุ่งสู่ออนไลน์ : ภาพทัศน์อนาคตของตลาดค้าบริการทางเพศสิงคโปร์ 

“ตัวฉันเองเริ่มทำงานค้าบริการทางเพศมาตั้งแต่อายุ 20 ปี เริ่มตั้งแต่ทำงานในพื้นที่เล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก กระทั่งเข้าไปทำงานในย่านเกลัง ระหว่างนั้นฉันได้พบปะกับผู้ค้าบริการทางเพศร่วมอาชีพเยอะมาก ได้ยินเรื่องราวจากพวกเธอมากมาย และสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้คือตลาดค้าบริการทางเพศมีวิวัฒนาการอยู่ตลอด มันเปลี่ยนโฉมไปตลอดเวลาไม่ว่าจะเปลี่ยนในทางดีหรือไม่ก็ตาม” เชอร์รีเล่าถึงธรรมชาติของงอุตสาหกรรมค้าบริการทางเพศในสิงคโปร์จากมุมมองของเธอเอง

ในวันนี้ เธอกำลังเฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งของตลาดค้าบริการทางเพศสิงคโปร์ที่เธอคุ้นเคย หลังอาคารโกลเด้นไมล์และออร์ชาร์ดทาวเวอร์สกำลังกลายเป็นเพียงอดีต แม้ภาพอนาคตอาจยากที่จะบอกได้แม่นยำว่าอุตสาหกรรมนี้จะผันเปลี่ยนไปทิศทางใด แต่เธอก็พอจินตนาการได้อย่างคร่าวๆ จากมุมมองของเธอ

“ต่อไปนี้ พนักงานบริการหญิงในสองอาคารที่กำลังปิดตัวลงไปนี้จะกระจัดกระจายแยกย้ายกันไปตามสถานที่ต่างๆ แล้วลองนึกภาพดูนะ จากที่เมื่อก่อนสถานบันเทิงหลากหลายรูปแบบกระจุกตัวกันอยู่ในตึกพวกนี้ แต่หลังจากนี้มันอาจจะกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง” เชอร์รีให้ความเห็น

“อนาคตจากนี้จะเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก จากที่เมื่อก่อนในสถานที่แห่งเดียวมีสถานบริการให้เลือกหลายรูปแบบ มีผู้หญิงหลายเชื้อชาติและหลายช่วงวัยให้เลือก แต่ต่อไปนี้จะกระจายเป็นเสี่ยงๆ เช่นถ้ามองหาหญิงค้าบริการเชื้อชาติหนึ่งหรือช่วงอายุหนึ่งก็จะต้องไปสถานบริการหนึ่ง แต่ถ้ามองหาผู้หญิงกลุ่มอื่น ก็ต้องไปสถานบริการอื่นที่อาจจะอยู่คนละพื้นที่” เชอร์รีอธิบายต่อ

“การปิดตัวของอาคารเหล่านี้ไม่ได้จะทำให้ผู้ค้าบริการทางเพศมีน้อยลงไป พวกเธอยังคงหาทางดิ้นรนทำงานต่อ เพียงแต่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น และฉันบอกเลยว่ามันจะทำให้ทางการสิงคโปร์เองควบคุมดูแลยากขึ้นอีก และโปรเจ็กต์เอ็กซ์เองก็เหมือนกันที่ต่อไปนี้เราอาจจะต้องทำงานแบบโลดโผนกันมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อดูแลช่วยเหลือพวกเธอที่ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหนกันบ้าง” เชอร์รีพูดต่อ

Orchard Towers
สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เปิดให้บริการในอาคารออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส

พื้นที่ที่บรรดาผู้ค้าบริการทางเพศจะกระจัดกระจายกันออกไปไม่ใช่เพียงแต่พื้นที่ทางกายภาพอย่างตามสถานบันเทิง ร้านนวด หรือตามริมตรอกซอกซอยเท่านั้น แต่พื้นที่ออนไลน์ก็กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหมู่ผู้ค้าบริการทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่สถานค้าบริการทางเพศ รวมถึงบรรดาไนต์คลับและร้านนวด ถูกสั่งห้ามดำเนินกิจการเป็นเวลาร่วม 2-3 ปี 

พนักงานนวดก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่เริ่มผันตัวเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น เดือนเล่าว่า “จริงๆ ไปนวดตามบ้านก็ผิด [กฎหมาย] นะ แล้วยิ่งช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด เขาก็ยิ่งห้าม แต่ก็ต้องหาทางทำกัน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินใช้กัน”

ตลาดค้าบริการทางเพศที่กระจัดกระจายทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน ทำให้ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมดังกล่าวของสิงคโปร์ในวันนี้กำลังทวีความซับซ้อนยิ่งกว่าช่วงเวลาใดๆ ที่ผ่านมา และอีกด้าน มันยังสะท้อนว่าตลาดค้าบริการทางเพศมีความยืดหยุ่น ลื่นไหล หรือกล่าวได้ว่ามีความสามารถในการปรับตัวตามบริบทสถานการณ์แวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อย่างสูง ตามที่เชอร์รีพูดถึง

“ตลาดค้าบริการทางเพศได้รับผลกระทบหนักมากในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ผู้ค้าบริการที่ได้รับความเดือดร้อนมากคือพวกที่ยืนหาลูกค้าตามริมถนน และตามสถานบริการทั้งที่ถูกและผิดกฎหมาย แต่มันก็แสดงให้เห็นเหมือนกันว่าผู้ค้าบริการทางเพศเก่งขนาดไหน คือต่อให้จะเจอล็อกดาวน์ แต่หลายคนก็ยังทำมาหากิน มีลูกค้าประจำได้” เชอร์รีเล่า

Golden Mile Complex
สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เปิดให้บริการในอาคารโกลเด้นไมล์คอมเพล็กซ์

ชีวิตที่ (ยังคง) ไม่ง่ายของหญิงค้าบริการในสิงคโปร์

“แต่ถ้าว่าตามจริง การเริ่มต้นใหม่ของหลายคนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นนะ” เชอร์รีเล่าตามโลกความจริงที่เธอพบเจอ

แม้หญิงค้าบริการจำนวนหนึ่ง รวมถึงเดือน สามารถหาทางรอดท่ามกลางหลากหลายความท้าทายในช่วงเวลานี้ได้ แต่อาชีพผู้ค้าบริการทางเพศก็ไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถปรับตัวรับต่อดิสรัปชันได้เหมือนกันหมด ผู้ค้าบริการทางเพศในสิงคโปร์จำนวนไม่น้อยจึงเผชิญความยากลำบากขัดสน กระทั่งหลายคนจำต้องเก็บข้าวของบินกลับบ้านเกิดหรือไปหาโอกาสใหม่ในประเทศอื่น ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด สืบเนื่องมาจนปัจจุบันที่ตลาดค้าบริการทางเพศกำลังถูกตัดทอนช่องทางลง หลังสองแหล่งใหญ่อย่างอาคารโกลเด้นไมล์และออร์ชาร์ดทาวเวอร์สปิดตัว

ในวันนี้หลังจากที่การระบาดของโควิด-19 ผ่านพ้น กิจการสถานค้าบริการทั้งที่ถูกและผิดกฎหมายกลับมาเปิดไฟให้บริการได้อีกครั้ง พร้อมกับลูกค้าที่หลั่งไหลมาท่องเที่ยวล้างแค้น (revenge tourism) กันอย่างคึกคักหลังอัดอั้นมานาน และเช่นเดียวกัน เมื่อพรมแดนประเทศเปิดอีกครั้ง หญิงสาวจากหลากสารทิศเริ่มบินเข้ามาแสวงหาโอกาสในตลาดค้าบริการทางเพศของสิงคโปร์กันอีกครั้ง จนการแข่งขันในวันนี้เข้มข้นขึ้นอย่างชัดเจน และกลายเป็นความท้าทายใหม่ของบรรดาผู้ค้าบริการทางเพศหน้าเดิมในสิงคโปร์

“จริงๆ หลังโควิดก็ดีขึ้นนะ แต่ตอนนี้มีคนใหม่ๆ เข้ามาทำงานแบบนี้กันเยอะมากเลยนะ คนที่อยู่ที่นี่เดิมก็กระทบเยอะอยู่เหมือนกัน เพราะคนที่มาใหม่ก็มีแต่เด็กๆ แต่คนที่อยู่เดิมส่วนมากก็เริ่มมีอายุแล้ว ไม่ค่อยได้ลูกค้าเยอะเหมือนเด็กๆ แล้ว ตอนนี้พวกเราที่มีบัตรพีอาร์ก็เลยขาลงแล้ว” เดือนเล่าสถานการณ์ให้ฟัง 

สาเหตุที่ทำให้ผู้คนไหลทะลักเข้ามาลักลอบทำงานค้าบริการทางเพศในสิงคโปร์กันหนาแน่นในตอนนี้ยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัดนัก แต่อาจพอคาดเดาได้ว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความขัดสนทางเศรษฐกิจในประเทศบ้านเกิดที่รุนแรงขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องดิ้นรนแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจต่างแดนกันมากขึ้น 

Orchard Towers
อาคารออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส

“ไม่ใช่แค่ประเทศเรานะ ประเทศอื่นก็เข้ามาผิดกฎหมายกันเยอะแยะเลยตอนนี้ คือถ้าเป็นเมื่อก่อนจะไม่ค่อยมี เขาส่งกลับหมด อย่างนั้นมันเลยดีสำหรับเราและคนที่อยู่ที่นี่ที่ไม่เสียลูกค้า แล้วตอนนั้นผู้หญิงที่ทำงานนี้ก็ยังไม่เยอะ แต่ตอนนี้แห่กันมาเต็มหมดแล้ว ไทยบ้าง เวียดนามบ้าง อินโดนีเซียบ้าง จริงๆ ถ้าทางการเจอว่าไม่มีใบอนุญาต ก็โดนจับส่งกลับประเทศกันตลอดนะ แต่ตอนนี้มันอาจจะเยอะเกินจนเขาจับไม่หมด แล้วก็ทำให้เราที่อยู่ที่นี่อยู่แล้วดรอปลง” เดือนเล่า  

นอกจากจะต้องแข่งกับผู้ค้าบริการทางเพศรุ่นใหม่ๆ เดือนบอกว่าตอนนี้ยังต้องแข่งกับผู้ค้าบริการจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม ที่เดือนมองว่ากำลังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับผู้ค้าบริการทางเพศชาวไทย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ทำงานใกล้ชิดกับแวดวงผู้ค้าบริการทางเพศหลายคนที่บอกว่าหญิงค้าบริการเวียดนามกำลังเป็นที่นิยมมาแรงแซงโค้งหลายชาติในขณะนี้

“เวียดนามปังมากเลยนะ เพราะคนเวียดนามสวย เขาตัวเล็กๆ ขาวๆ ถูกใจคนหลายประเทศ คนจีนก็ชอบเขา ฝรั่งก็ชอบ แล้วคนเวียดนามที่ทำงานคล้ายๆ พี่ก็ได้เงินกันค่อนข้างเยอะเลย เดือนหนึ่งน่าจะไม่ต่ำกว่า 200,000 (บาท) หลายคนถึงขั้นซื้อบ้านที่นี่ได้เลย” เดือนเล่า

Orchard Towers
อาคารออร์ชาร์ดทาวเวอร์ส

เช่นเดียวกับตลาดอาชีพอื่นๆ อุตสาหกรรมค้าบริการทางเพศในสิงคโปร์เผชิญความเปลี่ยนแปลงมาตลอดหลายศตวรรษนับแต่ก่อนจะก่อตั้งประเทศ กระทั่งในห้วงเวลานี้ ภูมิทัศน์ตลาดก็เดินทางมาถึงจุดตัดสำคัญอีกครั้ง และหากถามว่าฉากอนาคตหลังจุดเปลี่ยนผ่านนี้จะเดินไปทางใด คำตอบตอนนี้ยังมีแต่เพียงการคาดการณ์เท่านั้น 

แต่ไม่ว่าตลาดค้าบริการทางเพศบนเกาะสิงคโปร์จะผ่านจุดเปลี่ยนผันมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ความท้าทายที่ผู้ค้าบริการเผชิญตลอดมา โดยเฉพาะผู้ค้าบริการผิดกฎหมาย คือการขาดซึ่งหลักประกันและความคุ้มครองจากความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ ทั้งการถูกใช้ความรุนแรงหรือข่มขู่คุกคามจากลูกค้า และการไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการ รวมทั้งตาข่ายรองรับทางสังคมในยามที่ต้องเผชิญความไม่แน่นอน ยิ่งในอนาคตจากนี้ที่ภูมิทัศน์ตลาดค้าบริการทางเพศสิงคโปร์คาดว่าจะซับซ้อนและกระจัดกระจายขึ้น ปัญหาที่เหล่าผู้ค้าบริการเผชิญก็อาจซับซ้อนและยากยิ่งขึ้นที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างทั่วถึง 

References
1 ฟังเรื่องราวการปิดตัวของอาคารโกลเด้นไมล์ได้ที่ ASEAN บ่มีไกด์ Ep.19: ปิดตำนาน ‘ลิตเติลไทยแลนด์’ ในสิงคโปร์ กับ สุเจน กรรพฤทธิ์

MOST READ

World

1 Oct 2018

แหวกม่านวัฒนธรรม ส่องสถานภาพสตรีในสังคมอินเดีย

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก สำรวจที่มาที่ไปของ ‘สังคมชายเป็นใหญ่’ ในอินเดีย ที่ได้รับอิทธิพลสำคัญมาจากมหากาพย์อันเลื่องชื่อ พร้อมฉายภาพปัจจุบันที่ภาวะดังกล่าวเริ่มสั่นคลอน โดยมีหมุดหมายสำคัญจากการที่ อินทิรา คานธี ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์

ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก

1 Oct 2018

World

16 Oct 2023

ฉากทัศน์ต่อไปของอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งที่สั่นสะเทือนระเบียบโลกใหม่: ศราวุฒิ อารีย์

7 ตุลาคม กลุ่มฮามาสเปิดฉากขีปนาวุธกว่า 5,000 ลูกใส่อิสราเอล จุดชนวนความขัดแย้งซึ่งเดิมทีก็ไม่เคยดับหายไปอยู่แล้วให้ปะทุกว่าที่เคย จนอาจนับได้ว่านี่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ

จนถึงนาทีนี้ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังดำเนินต่อไปโดยปราศจากทีท่าของความสงบหรือยุติลง 101 สนทนากับ ดร.ศราวุฒิ อารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงเงื่อนไขและตัวแปรของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น, ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและรัฐอาหรับ, อนาคตของปาเลสไตน์ ตลอดจนระเบียบโลกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นมาหลังยุคสงครามเย็น

พิมพ์ชนก พุกสุข

16 Oct 2023

World

9 Sep 2022

46 ปีแห่งการจากไปของเหมาเจ๋อตง: ทำไมเหมาเจ๋อตง(โหด)ร้ายแค่ไหน คนจีนก็ยังรัก

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์ เขียนถึงการสร้าง ‘เหมาเจ๋อตง’ ให้เป็นวีรบุรุษของจีนมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะอยู่เบื้องหลังการทำร้ายผู้คนจำนวนมหาศาลในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

9 Sep 2022

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save