เมื่อประชาชนหมดความอดทน #ม็อบ18กรกฎา
ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันแตะหลักหมื่น และมีผู้เสียชีวิตจำนวนร้อยกว่าคนต่อวัน สะท้อนถึงความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เกิดความไม่พอใจจากประชาชนและทำให้เกิดการจัดการชุมนุมครั้งใหญ่อีกครั้ง
18 กรกฎาคม 2564 กลุ่มเยาวชนปลดแอกนัดรวมตัวชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นวันครบรอบหนึ่งปีการชุมนุมครั้งแรกของเยาวชนปลดแอก การชุมนุมครั้งนี้มีการเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีข้อเรียกร้องคือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไข ปรับลดงบสถาบันพระมหากษัตริย์และกองทัพ และให้รัฐบาลเปลี่ยนวัคซีน COVID-19 จาก Sinovac เป็นวัคซีนแบบ mRNA
เวลา 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคล้องแขนเริ่มเดินเท้าร่วมกับ Car Mob ออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีหัวขบวนอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทอดยาวไปถึงบริเวณสะพานปิ่นเกล้า ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้ตั้งแนวสกัดบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศมุ่งหน้าถนนราชดำเนินนอก ซึ่งผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะเดินผ่านถนนเส้นนี้ ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมพยายามรื้อแนวลวดหนาม และเจ้าหน้าได้ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ยังมีการใช้กระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม
ต่อมาเวลา 16.14 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนเส้นทางเคลื่อนขบวนไปทางแยกนางเลิ้ง และมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่โดยมีการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา และกระสุนยางยิงใส่ผู้ชุมนุม
เวลา 18.06 น. ผู้ชุมนุมได้เผาหุ่นรูปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริเวณแยกนางเลิ้ง และได้ประกาศยุติการชุมนุม
ในเวลา 18.30 น.