fbpx
โหร หมอดู กับคำพยากรณ์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19

โหร หมอดู กับคำพยากรณ์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19

พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ และ ขวัญเรือน พันธ์พีระพิชย์ เรื่อง

กฤตพร โทจันทร์ ภาพประกอบ

 

ถ้าจะพูดถึงคำทำนายหรือคำพยากรณ์ของเหล่าบรรดาโหรและหมอดู[1]ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการบริหารประเทศ รวมถึงความเป็นไปของประเทศไทยในอนาคต ก็ละเลยไม่ได้ที่จะเข้าใจช่วงเวลาที่โหรและหมอดูออกมาทำนายหรือพยากรณ์ โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่วิกฤตใหญ่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด คำทำนายและคำพยากรณ์จะยิ่งถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง ทั้งในแง่ของความแม่นยำ และนัยทางการเมืองของคำพยากรณ์ที่มีต่อการรับรู้ของสาธารณะ

ในบทความชิ้นนี้จะนำเสนอและศึกษาช่วงเวลาที่โหรและหมอดูออกมาทำนายหรือพยากรณ์ถึงความเป็นไปของประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาใหญ่ๆ ในส่วนแรก เป็นการทำนายหรือการพยากรณ์ในช่วงสถานการณ์ปกติ ซึ่งเป็นการทำนายหรือการพยากรณ์อย่างกว้างๆ เช่น เรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ทั้งของประชาชนและการบริหารประเทศของรัฐบาล

และส่วนที่สอง เป็นการทำนายหรือการพยากรณ์ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น โดยในการนำเสนอและศึกษาครั้งนี้ เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย

โดยทั้ง 2 ช่วงเวลาดังกล่าว จะนำเสนอและศึกษาผ่านคำทำนายหรือคำพยากรณ์ของโหรและหมอดูทั้ง 7 คนที่มีชื่อเสียงและผู้คนในสังคมรู้จัก

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 มีจุดเริ่มต้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 ที่ประเทศจีน โดยทางการจีนยืนยันเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น[2] ก่อนที่จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก สำหรับประเทศไทยในวันที่ 4 มกราคม 2563 ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินหรือศูนย์อีโอซี (EOC) ขึ้น และในวันที่ 13 มกราคม พบผู้ป่วยรายแรกในประเทศ เป็นชาวต่างชาติ ต่อมาในวันที่ 15 เดือนเดียวกันนั้น พบผู้ป่วยยืนยันที่เป็นคนไทยรายแรก ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศจีน จนกระทั่งในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ของประเทศไทย หลังจากนั้นในวันที่ 24 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้แถลงหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีว่าจะมีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมเป็นต้นไป โดยมีระยะเวลา 1 เดือน

 

 การทำนายหรือการพยากรณ์ของโหรและหมอดูในช่วงสถานการณ์ปกติ

 

ในส่วนนี้ จะนำเสนอคำทำนายหรือคำพยากรณ์ของโหรและหมอดูในปี 2563 ซึ่งเป็นการทำนายหรือการพยากรณ์ของโหรและหมอดูที่ปรากฏเป็นปกติทุกปี โดยจะถูกเผยแพร่บนสื่อสาธารณะตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงช่วงต้นปี 2563 เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ โดยภาพรวมของคำทำนายหรือคำพยากรณ์นั้น มีทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ภัยพิบัติ และดวงชะตาของนายกรัฐมนตรี

สำหรับคำทำนายหรือคำพยากรณ์ในปี 2563 ค่อนข้างหลากหลาย มีตั้งแต่เรื่องการยุบสภา การปฏิวัติซ้อน รัฐประหาร ม็อบ แต่แนวโน้มส่วนใหญ่ของคำทำนายหรือคำพยากรณ์ของโหรและหมอดูที่เห็นพ้องกัน คือเรื่องเศรษฐกิจ โดยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศค่อนข้างน่าเป็นห่วง เช่น คำพยากรณ์ของโสรัจจะ นวลอยู่ ผู้ที่ได้รับฉายาว่านอสตราดามุสเมืองไทย คำพยากรณ์ที่ถูกเผยแพร่ในแต่ละครั้งทั้งดุเดือดและน่ากลัว ในครั้งนี้เขาพยากรณ์ว่า “เป็นปีมหาวิปโยค ผู้คนตกงานมากมาย โรงงานปิดตัว ทุนใหญ่ล้ม เป็นปีเผาจริง ส่งผลการเมืองเปลี่ยนแปลงพลิกโฉม อาจยุบสภา หรือเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”[3] หรือคำพยากรณ์ของบุศรินทร์ ปัทมาคม โหรใหญ่ที่มีผลงานทั้งเขียนตำราและเป็นนักคอลัมนิสต์ทางโหราศาสตร์ ได้พยากรณ์ว่า “เศรษฐกิจจะทรงตัวเกือบตลอดทั้งปีและจะตกหนักขึ้น ในช่วงปลายปี 2563 จนถึงขั้นถังแตก ซึ่งรัฐบาลคงต้องเหน็ดเหนื่อยและยุ่งยากในเรื่องเศรษฐกิจรุนแรงยิ่งขึ้น ใครเป็นรัฐบาลก็จะต้องพบศึกหนักเรื่องเงินไม่พอใช้จ่าย” [4]

แต่ถึงกระนั้นก็มีโหรและหมอดูส่วนน้อยที่มีคำทำนายหรือคำพยากรณ์ที่ต่างออกไป อย่างภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล หรือซินแสภาณุวัฒน์ ที่มีบทบาทหน้าที่ใหม่ คือการเป็นข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พยากรณ์ว่า “สภาพเศรษฐกิจเรื่องการเงินจะเริ่มเดินหน้า จวบจวนปี 2564 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ปี 2563 แม้ขลุกขลักบ้างแต่รัฐบาลจะนำพาประเทศชาติผ่านพ้นไปได้”[5]

นอกจากเรื่องเศรษฐกิจแล้ว แนวโน้มและทิศทางการทำนายหรือการพยากรณ์ที่เป็นไปในทางเดียวกัน คือ เรื่องดวงชะตาของนายกรัฐมนตรีตก ดังที่ภิญโญ พงศ์เจริญ โหรรุ่นใหญ่ที่ผ่านการพยากรณ์เหตุการณ์ทางการเมืองมานับไม่ถ้วนได้พยากรณ์ว่า “ในปี 2563 ดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์อยู่ตรงราศีธนู จะเป็นภพวินาศของนายกฯ ต้องระมัดระวังอย่างมากและอยู่ให้เป็น หากผู้นำไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมให้ปรับปรุงเกรงว่าจะเกิดวิกฤตตามวงรอบของดาวเสาร์ 30 ปี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565”[6] หรือคำทำนายของวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ที่ได้รับฉายาว่าเป็นโหรคมช. (คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ) เป็นผู้ที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเมืองให้ความนับถือและขอเป็นลูกศิษย์ ได้ทำนายว่า “ดวงของพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีหน้าที่ต้องทำต่อไปและอยู่ครบเทอม เพียงแต่ต้นปี 1-2 เดือนอาจมีเรื่องยุ่งอยู่บ้างทั้งกับตัวนายกฯ และคณะรัฐบาล ทั้งการทำงานหรือปัญหาสุขภาพ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากเป็นตามวัย”[7]

ส่วนคำพยากรณ์ที่แตกต่างจากโหรและหมอดูคนอื่นอย่างชัดเจน คือ คำทำนายของชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือที่รู้จักกันในนามซินแสเข่ง ได้พยากรณ์ในทำนองว่าอาจมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี “ดวงนายกรัฐมนตรีเจอปีชงเพราะดาวจรมาแรง ซึ่งพรรคที่ผิดหวังการเมืองจ้องที่จะทำลายโค่นล้มรัฐบาล จึงต้องรอดาวเสริมจาก 2 อ.ที่ดวงหนึ่งมาแรงจังหวะให้ แต่ตกดวงขัดแย้งศัตรูและอุปสรรค ซึ่งสามารถเสริมรัฐบาลได้แต่กำลังอ่อน ส่วนอีกดวงหนึ่งมาแรงเต็มไปด้วยอำนาจต้องรอเปลี่ยนตัวในปี 2563”[8]

ภาพรวมของคำทำนายหรือคำพยากรณ์ในช่วงเวลาส่วนแรก มีลักษณะเป็นไปอย่างกว้างๆ แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นสำหรับคำทำนายหรือคำพยากรณ์ของโหรและหมอดูในส่วนของสถานการณ์ปกตินี้คือ ‘การเตือนให้ระมัดระวัง’ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจที่ไม่ราบรื่นของปี 2563 และเรื่องดวงชะตาของนายกรัฐมนตรีตก มีเพียงชนม์ทรรศน์ หรือซินแสเข่ง ที่มีคำทำนายที่มีลักษณะส่งผลลบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่คำทำนายที่เผยแพร่นั้นไม่ได้โจมตีที่ตัวนายกรัฐมนตรีในลักษณะที่ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ ซึ่งโดยปกติแล้วการทำนายหรือการพยากรณ์เรื่องดวงชะตาตกนั้น จะก่อให้เกิดผลกระทบแก่ผู้มีอำนาจในการปกครองแต่ในส่วนข้างต้นนั้น และคำทำนายหรือคำพยากรณ์ที่พูดถึงอาการดวงชะตาของนายกรัฐมนตรีตกกลับไม่ได้ลดความชอบธรรมในการบริหารปกครองประเทศของตัวของผู้นำ แต่มีลักษณะเตือนให้ระมัดระวัง

 

การทำนายหรือการพยากรณ์ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ในส่วนที่สองนี้ เป็นการทำนายหรือการพยากรณ์ในเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ไม่ปกติ กล่าวคือ เป็นสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โหรและหมอดูไทยต่างไม่ละเลยที่จะออกคำทำนายหรือคำพยากรณ์ เพื่ออธิบายความเป็นไปที่กำลังเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว พร้อมทั้งมีการทำนายหรือการพยากรณ์ดวงชะตาของนายกรัฐมนตรีด้วย

คำทำนายหรือคำพยากรณ์ที่เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโรคครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่มีแนวโน้มและทิศทางไปในทางที่ดี ดังในคำพยากรณ์ของบุศรินทร์ ที่พยากรณ์ว่า “หลังจากวันเกิดของดวงเมืองไปแล้วความเจ็บไข้ได้ป่วยมีแนวโน้มที่จะดีขึ้น เหตุการณ์ความป่วยไข้จะลดลง รวมไปถึงบรรยากาศความกลัวไวรัสโควิดจะเบาบางลง[9]” ซึ่งสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของฟองสนาน จามรจันทร์ นักข่าวที่ผันตัวเองมาเป็นนักพยากรณ์ทางโหราศาสตร์ โดยเรียกตัวเองว่าแม่หมอสมัครเล่น ได้พยากรณ์ว่า “ประมาณวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย. 63 เป็นต้นไปสถานการณ์โควิด-19 คงจะเริ่มค่อยๆ ใกล้สู่สภาวะเป็นโรคปกติ และระหว่าง 17 ก.ค. – 10 ก.ย. 63 แม้ดาวคู่โรคระบาดจะกลับมาเล็งกันอีกรอบ แต่สำหรับดวงเมืองไทยแล้วคาดว่าบุคลากร ระบบทางการแพทย์ที่เข้มแข็งคงได้ทบทวนวิธีการรักษา รับมือและประกาศศักดาถึงผลงานไปทั่ว”[10]

มีเพียงโสรัจจะที่พยากรณ์ว่าโรคระบาดจะมีอยู่จนถึงปี 2564 และมีการแพร่ระบาดของเชื้อเป็นช่วงๆ “อาจมีผู้เสียชีวิตเยอะมากเพราะเป็นโรคที่ต่อเนื่องยาวนานไปถึงปลายปี 2564 ช่วงมี.ค.และเม.ย. 2563 เป็นเดือนที่น่ากังวล พอเข้าเดือนพ.ค.อาจเงียบลง แล้วปลายพฤศจิกายนจะกลับมาใหม่ โรคระบาดอาจกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ เหมือนมัจจุราช ยาที่มีอยู่อาจรักษาไม่ทัน เพราะโรคพัฒนาไปเร็ว จะเป็นไปถึงต้นปี 2564 อาจนิ่งๆ ไปอีกพัก แล้วกลับมาอีกครั้งช่วงมี.ค.และเม.ย. 2564 ซึ่งใหญ่มาก ยาวไปถึงก.ค.และช่วงปลายปี 2564 จะเบาลง ถึงตอนนั้นอาจจะเริ่มค้นพบตัวยา” [11]

ในขณะที่ท่าทีการทำนายและการพยากรณ์ในส่วนของดวงชะตานายกรัฐมนตรีกลับสวนทางกับการทำนายหรือการพยากรณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ดังคำพยากรณ์ของบุศรินทร์ “ดวงนายกรัฐมนตรี อยู่ในอาการค่อนข้างจะลำบากและน่าเป็นห่วง ท่านเจอมรสุมอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้ราบเรียบอย่างที่ท่านอยากจะเป็น”[12] ส่วนโสรัจจะ ได้พยากรณ์ว่า “ดวงผู้นำรัฐบาลได้เริ่มตกลง คนห้อมล้อมสร้างปัญหา ทำให้ตัดสินใจทำบางอย่างผิดพลาด ทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ นำไปสู่สาเหตุทำให้เกิดการเคลื่อนไหว เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คนรอบตัวไม่จริงใจ ต้องระวังการหักหลัง”[13]

ส่วนคำพยากรณ์ของชนม์ทรรศน์ มีท่าทีการพยากรณ์ที่เบาลงถ้าเทียบกับคำพยากรณ์ดวงชะตานายกรัฐมนตรีในส่วนที่หนึ่ง แต่ยังคงพยากรณ์ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวนายก “ฝ่ายค้านโจมตีเพื่อล้มรัฐบาลและฝ่ายนอกสภาต้องการปลุกม็อบนักศึกษา บวกกับโรคร้ายโควิดร่วมประสานประดังจนนายกฯประยุทธเกือบเสียศูนย์ หากประคองตัวไม่ดีมีโอกาสที่จะให้รัฐบาลล่ม เพราะไม่ใช่นายกฯคนเดียวมีรัฐมนตรีหลายคนที่อาจจะทำให้รัฐบาลล่มได้เหมือนกันจับตาเดือนมิถุนายนนี้ว่าจะอยู่หรือจะไป”[14]

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีคำพยากรณ์ของซินแสภานุวัฒน์ ซึ่งเป็นเพียงผู้เดียวใน 7 คนที่ไม่ได้พยากรณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่พยากรณ์ดวงชะตาของนายกรัฐมนตรี “วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดท่าน พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากดวงกำลังจะพ้นเคราะห์เดือน กค.63 ช่วงก่อนวันเกิด 100 วัน จะเป็นช่วงที่เจอวิกฤตหนักมาก และเหนื่อยมาก ซึ่งเดือน ก.ค.แม้อายุจะพ้นเคราะห์ แต่ยังอยู่ในปีชงอยู่ ยังต้องเจอเรื่องปวดหัวต่อไปจนถึงต้นปี 64 ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน”[15]

จากส่วนที่สองเราจะเห็นถึงความไม่สอดคล้องหรือการสวนทางกัน โดยคำทำนายหรือคำพยากรณ์ที่เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เป็นไปในทิศทางที่ดี อธิบายภาพอนาคต และปลอบประโลมสังคมท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันคำทำนายหรือคำพยากรณ์ที่มีต่อดวงชะตานายกรัฐมนตรีนั้นมีทิศทางหรือแนวโน้มไม่ค่อยดีหรืออาจพบปัญหา แต่ก็เต็มไปด้วยการเตือนให้ระวัง และไม่โจมตีตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งคำทำนายหรือคำพยากรณ์ทั้งสองส่วนท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตมีลักษณะไปด้วยกัน

โดยภาพรวมของทั้ง 2 ช่วงเวลาข้างต้น เราอาจจะเห็นว่า การทำนายหรือการพยากรณ์ในช่วงสถานการณ์ปกติภายใต้การบริหารของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น มีลักษณะเป็นการแจ้งเตือนให้ระมัดระวังมากกว่า ส่วนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสคำทำนายหรือคำพยากรณ์เป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งเป็นส่วนที่ให้ความหวังและเติมเต็มข้อมูลที่ทางการไม่สามารถอธิบายกับประชาชนได้ว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต จึงนับได้ว่าเป็นส่วนของการปลอบประโลมสังคมท่ามกลางความวิตกกังวล และในขณะที่คำทำนายหรือคำพยากรณ์บางส่วนที่มีทิศทางที่ไม่ดีหรือเป็นผลลบแก่รัฐบาลหรือตัวพล.อ.ประยุทธ์ แต่กลับไม่มีลักษณะโจมตีที่นายกรัฐมนตรีโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นอาการดวงตกที่เกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรี ที่ให้ระวังคนรอบข้างมากกว่าที่จะพุ่งเป้าไปที่การบริหารที่ผิดพลาดของตัวนายกรัฐมนตรีเอง ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่ทำให้ความชอบธรรมในการบริหารประเทศของตัวนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลลดลง

จากการเตือนให้ระมัดระวังในช่วงเวลาสถานการณ์ปกติ การทำนายหรือการพยากรณ์ในห้วงเวลาวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีทิศทางที่ดีและเป็นการปลอบประโลมสังคม และการทำนายหรือการพยากรณ์ที่มีลักษณะเป็นผลลบแก่รัฐบาล มองแบบผิวเผินมีลักษณะที่ไม่สอดคล้องหรือสวนทาง แต่โดยเนื้อแท้แล้วกลับไปด้วยกันได้อย่างกลมกลืน

ในสังคมที่โหร หมอดู และคำนายฝังลึกเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอย่างสังคมไทย คำทำนายจะถูกผิด แม่นยำมากน้อยเพียงใดนั้นพิสูจน์และถกเถียงกันได้ แต่นอกเหนือไปจากความถูกผิดและแม่นยำ ลักษณะของคำทำนาย จังหวะเวลา และตำแหน่งแห่งที่ของผู้ทำนาย ย่อมสะท้อนความเป็นไปของการเมืองได้อย่างน่าสนใจ

 

 


อ้างอิง

[1] ในที่นี้ แยกพิจารณาคำว่าโหรและหมอดูด้วยคำจำกัดความว่า โหร หมายถึง ผู้ที่ทำนายหรือพยากรณ์โดยอาศัยการโคจรของดวงดาวบนท้องฟ้าเป็นหลัก ส่วนหมอดู หมายถึง ผู้ที่ใช้ศาสตร์การทำนายหรือการพยากรณ์อื่นๆ (ดู ขวัญเรือน วิทยานิพนธ์เรื่อง บทบาท หน้าที่ของปัญญาชนทางโหราศาสตร์ (โหรและหมอดู) กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทย ในช่วงพ.ศ.2549 – 2557 และ ขวัญเรือนและพิชญ์ ในวารสารมจร พุทธปัญญาปริทรรศน์ ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2562)

[2] BBC News ไทย, “ไวรัสโคโรนา: ที่มา อาการ การรักษา และการป้องกันโรคโควิด-19,” 8 พฤษภาคม 2563, สืบค้นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2563

[3] เว็บไซต์เดลินิวส์, “‘โสรัจจะ’ เตือน63มหาวิปโยค ศก.พัง-ยุบสภา-ปฏิวัติใหญ่,” 12 พฤศจิกายน 2562, สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563

[4] หนังสือพิมพ์มติชน, “ผ่า’ดวงเมือง’ 63 จับตา’เศรษฐกิจ-การเมือง,” ฉบับวันที่ 2 มกราคม 2563, สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2563.

[5] หนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา, “ผ่าดวงเมือง 2563 วุ่นวายอลหม่าน ขั้วการเมืองห้ำหั่น ระวังม็อบกลางเมือง ราหูล้วงทรัพย์ เศรษฐกิจขาล,” ฉบับวันที่ 28 ธันวาคม 2562 – 3 มกราคม 2563, สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563.

[6] หนังสือพิมพ์ข่าวสด, “ดวงเมืองปี 63 ปฏิวัติซ้อน-ศก.วิกฤตกว่าปี40,” ฉบับวันที่ 1 มกราคม 2563,  สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563.

[7] เว็บไซต์ไทยโพสต์, “โหรวารินทร์ทำนายมี2563 มีนักการเมืองต้องหนีไปต่างประเทศ!,” 31 ธันวาคม 2562, สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2563

[8] มติชนออนไลน์, “ซินแสเข่ง เตือนระวังดวงเมืองเปลี่ยน นักการเมืองชิงอำนาจทำบ้านเมืองแตกแยก ชี้เปลี่ยนนายกฯปี 63,” 15 พฤศจิกายน 2563, สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2563

[9] มติชนออนไลน์, “ผ่าดวงเมืองหลังสงกรานต์! โหรดังชี้ โควิด-19 เบาลง ห่วงเศรษฐกิจพัง การเมืองแย่ เตือนบิ๊กตู่,” 8 เมษายน 2563, สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2563

[10] มติชนออนไลน์, “มาแล้ว! โหรฟองสนานฟันธงโควิดจะอยู่ไปจนถึงวันที่ 1 พ.ค.63 แต่เตือนให้ระวังความรุนแรงเรื่องอื่น,” 22 มีนาคม 2563, สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2563

[11] หนังสือพิมพ์ข่าวสด, “รายงานพิเศษ: ทำนาย’มี.ค.-เม.ย.’ดวงเมืองแรง,” ฉบับวันที่ 5 มีนาคม 2563, สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563.

[12] มติชนออนไลน์, “ผ่าดวงเมืองหลังสงกรานต์! โหรดังชี้ โควิด-19 เบาลง ห่วงเศรษฐกิจพัง การเมืองแย่ เตือนบิ๊กตู่,” 8 เมษายน 2563, สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2563

[13] หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, “ดวงเมืองขย่มซ้ำทุกข์ท่วมแผ่นดิน,” ฉบับวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563, สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563.

[14] มติชนออนไลน์, “ซินแสเข่ง ผ่าดวงเดือนเมษา ปะทะโรคระวังตายเพิ่ม จับตาอีก 2 เดือน รัฐบาลอยู่หรือไป,” 4 เมษายน 2563, สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน 2563

[15] เว็บไซต์สยามรัฐ, “’ซินแสภานุวัฒน์’ ฟันธง ‘บิ๊กตู่’ หลังวันเกิดเจอวิกฤติหนักและเหนื่อย มีเรื่องปวดหัวไปถึงต้นปีหน้า,” 21 มีนาคม 2563, สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2563

 

MOST READ

Thai Politics

3 May 2023

แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ชมพู: ว่าด้วยสีในงานออกแบบของพรรคการเมืองไทย  

คอลัมน์ ‘สารกันเบื่อ’ เดือนนี้ เอกศาสตร์ สรรพช่าง เขียนถึง การหยิบ ‘สี’ เข้ามาใช้สื่อสาร (หรืออาจจะไม่สื่อสาร?) ของพรรคการเมืองต่างๆ ในสนามการเมือง

เอกศาสตร์ สรรพช่าง

3 May 2023

Politics

23 Feb 2023

จากสู้บนถนน สู่คนในสภา: 4 ปีชีวิตนักการเมืองของอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล

101 ชวนอมรัตน์สนทนาว่าด้วยข้อเรียกร้องจากนอกสภาฯ ถึงการถกเถียงในสภาฯ โจทย์การเมืองของก้าวไกลในการเลือกตั้ง บทเรียนในการทำงานการเมืองกว่า 4 ปี คอขวดของการพัฒนาสังคมไทย และบทบาทในอนาคตของเธอในการเมืองไทย

ภัคจิรา มาตาพิทักษ์

23 Feb 2023

Thai Politics

20 Jan 2023

“ฉันนี่แหละรอยัลลิสต์ตัวจริง” ความหวังดีจาก ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ถึงสถาบันกษัตริย์ไทย ในยุคสมัยการเมืองไร้เพดาน

101 คุยกับ ‘ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์’ ถึงภูมิทัศน์การเมืองไทย การเลือกตั้งหลังผ่านปรากฏการณ์ ‘ทะลุเพดาน’ และอนาคตของสถาบันกษัตริย์ไทยในสายตา ‘รอยัลลิสต์ตัวจริง’

ภาวรรณ ธนาเลิศสมบูรณ์

20 Jan 2023

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save