ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์ สัมภาษณ์บัณฑิตในกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ถึงความคิดเห็นและเรื่องเล่าของบัณฑิตใหม่ ว่าด้วยข้อบังคับการแต่งกายและการยื่นคำร้องแต่งกายตามเพศวิถี
'เปลือยให้รัฐสะเทือน' #ม็อบ9ตุลา
ภาวิณี คงฤทธิ์ เรื่อง
เมธิชัย เตียวนะ ภาพ
9 ตุลาคม 2564 กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกจัดกิจกรรมคาร์ม็อบขบวนกี V.4 ภายใต้ธีม ‘เปลือย’ โดยขบวนเริ่มต้นจากสีลมซอย 2 เคลื่อนผ่านแยกราชประสงค์ และมีจุดหมายปลายทางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีการตั้งเวทีปราศรัย ณ บริเวณดังกล่าว

กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกเล่าถึงที่มาของธีม ‘ทำไมต้องเปลือย’ ว่า “การเปลือยเป็นเสมือนการปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างจากพันธะ จากการปกปิด จากแอกที่ครอบงำ ดังนั้นเราจึงอนุมานได้ว่าเราต้องเปลือยจากการกดขี่ของสังคม เปลือยจากประเทศนี้ เปลือยจากเผด็จการทหาร และนั่นก็เป็นที่มาของ 5 ข้อเรียกร้องม็อบเปลือย”




ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกมีดังนี้
-
เปลือยอคติทางเพศเพื่อสวัสดิการผ้าอนามัย
-
เปลือยจารีตเพื่อสนับสนุนสมรสเท่าเทียม
-
เปลือยกฎหมายปิดปากเพื่อยกเลิกกฎหมาย 112
-
เปลือยเรื่องต้องห้ามเพื่อรณรงค์ปฎิรูปสถาบันกษัตริย์
-
เปลือยรัฐธรรมนูญปิตาธิปไตยให้เห็นรัฐธรรมนูญสีรุ้ง

บรรยากาศภายในคาร์ม็อบขบวนกีเต็มไปด้วยความคึกคัก ธง Pride สีรุ้งขนาดน้อยใหญ่โบกสะบัดไปทั่วทั้งขบวน ด้านผู้ร่วมชุมนุมแต่งกายด้วยชุดหลากสีสัน บ้างก็มาในธีมการแต่งกายแบบ Drag Queen นอกจากนี้ ไอลอว์รายงานว่าในขณะที่ขบวนคาร์ม็อบเคลื่อนผ่านแยกราชประสงค์ พบป้ายผ้าแขวนอยู่บนสะพานลอยหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมข้อความเขียนว่า ‘เปลือยจารีตเพื่อสนับสนุนสมรสเท่าเทียม’
ก่อนที่ในเวลา 15.30 น. หัวขบวนคาร์ม็อบเดินทางมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีตัวแทนผู้จัดกิจกรรมนำธงสีรุ้งขนาดใหญ่ขึ้นไปคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และผูกป้ายผ้าสีขาวกับปีกของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยพร้อมระบุข้อความว่า ‘ปิตาธิปไตยจงชิบหาย ความเป็นธรรมหลากหลายจงเจริญ’
ส่วนกิจกรรมช่วงเย็นเป็นการปราศรัยหลากประเด็นจากประชาชนและนักเคลื่อนไหว เช่น ชาร์ล็อต กับประเด็นตัวตนของ non-binary, ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ จากไอลอว์ กับประเด็นกฎหมายสมรสเท่าเทียม, ฟ้า-พรหมศร ธรรมวีระจารี กับประเด็นปัญหาในเรือนจำ เป็นต้น



หนึ่งในไฮไลต์บนเวทีปราศรัยคือการปราศรัยจาก พลอยและมีมี่ กลุ่มไพร่ปากแจ๋ว ที่เล่าถึงปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเยาวชนไทย มีมี่ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้สังคมมีการกดขี่เกิดขึ้นมากมาย เช่นกรณีของเยาวชนกลุ่มทะลุแก๊สที่ต้องเข้าสถานพินิจ สังคมไทยไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและพร้อมจะใช้อำนาจกดทับเด็กตลอดเวลา ผ่านทางรัฐบาล กระทรวง และโรงเรียน หลังจากนั้นมีมี่ได้ประกาศว่าจะขอโกนหัวจนกว่าประเทศจะเป็นประชาธิปไตยกลางเวทีปราศรัย

“ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เยาวชนอายุ 17 อย่างหนูจะขอโกนหัวจนกว่าประยุทธ์จะลาออก และหนูก็อาจจะโกนต่อไป ถ้านายกที่ขึ้นมาใหม่เป็นเผด็จการ หากหนูจะต้องโกนหัวและไม่มีผมไปตลอดชีวิต ก็ขอให้มันเป็นสัญลักษณ์ว่า ประเทศเราไม่เคยเป็นประชาธิปไตยเลย ”


เวลา 19.00 น. มีเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นจากระยะไกล ขณะที่ฟ้า-พรหมศร กำลังปราศรัย พร้อมทั้งมีการส่งต่อข่าวว่ามี คฝ. ตั้งแถวอยู่บริเวณแยกผ่านฟ้า พิธีกรจึงประกาศยุติการชุมนุม

Related Posts
- Gender Identity หนึ่งเรื่องไม่น่ายินดีในวันรับปริญญา
- ได้เวลายาคุมผู้ชาย!
สาวไทยเพิ่งโดนเชียร์ให้กินยาแก้มแดงเพิ่มประชากร แต่สากลโลกกำลังหาวิธีคุมประชากรโลกที่มากเกินพอดีด้วยความพยายามคิดค้นยาคุมกำเนิดเพื่อหนุ่มๆ โดยเฉพาะ
- อิสระทางเพศคืออิสระแห่งการสร้างสรรค์
เมื่อนิ้วกลม ชวน ดวงฤทธิ์ บุนนาค มาเขียนเรื่องการออกแบบที่มี 'เซ็กซ์' และ 'การเมือง' อยู่ด้วยกัน และนี่คือผลงานชิ้นแรก ซึ่งดวงฤทธิ์ให้ชื่อคอลัมน์ว่า "ดูไม่ดี" เชิญทัศนาพลัน! 101 ภูมิใจนำเสนอ
- ให้ใบหน้าเล่าเรื่องเพศ
หากจะดูว่าคนที่เข้ามานั้นอยาก ‘จริงใจ’ หรือแค่ ‘ซัมธิง’ คุณอ่านเขาได้จากอะไรบ้าง วิธีการพูด? สีหน้า? ความคิด? แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ หากเอามาวิเคราะห์รวมๆ กัน มันก็สามารถบอกได้ แหม! แต่กว่าจะอ่าน ‘คนคนนั้นของคุณ’…
- เมื่อเควียร์ละหมาด พระเจ้าไม่ยอมรับ
ภาพถ่ายของ 'สมัคร์ กอเซ็ม' เล่าถึงความหลากหลายทางเพศในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเปิดเผยให้เห็นถึงความย้อนแย้งของความเคร่งครัดทางศาสนาที่ถูกปกปิดอยู่
- Dreams of a Life ความโดดเดี่ยวที่ผู้รักสันโดษหวาดกลัว
คอลัมน์หนังนอกรอบ วจนา วรรลยางกูร เขียนถึงสารคดี Dreams of a Life ที่ติดตามเรื่องเล่าชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตไป 3 ปีอย่างโดดเดี่ยวโดยไม่มีใครรับรู้