fbpx
'ความล้มเหลว' วิชาภาคบังคับยุค 4.0

‘ความล้มเหลว’ วิชาภาคบังคับยุค 4.0

สันติธาร เสถียรไทย เรื่อง

ภาพิมล หล่อตระกูล ภาพประกอบ

 

ท่ามกลางกระแสสังคมที่คนล้วนอวดความสำเร็จซ่อนความล้มเหลว มีนักจิตวิทยาท่านหนึ่งในสวีเดนชื่อ ดร.ซามูเอล เวสต์ ได้สวนทางโดยสิ้นเชิงด้วยการสร้าง ‘พิพิธภัณฑ์แห่งความล้มเหลว’ (Museum of failed innovation) ที่รวบรวมความล้มเหลวของบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกกว่า 70 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น ลาซานญ่าแช่แข็งจาก Colgate ซอสมะเขือเทศสีเขียวจาก Heinz เกมมหาเศรษฐีเวอร์ชั่นนาย Donald Trump แผ่น DVD ของ Blockbuster อุปกรณ์ลูกครึ่งระหว่างเครื่องเล่นเกมกับโทรศัพท์มือถือของ Nokia

ทำไมเขาถึงได้เอา ‘ตราบาป’ ที่คนอยากลืมเหล่านี้มาวางโชว์?

เพราะเขามองว่าการเฟล (Fail) ไม่ใช่ตราบาป แต่เป็นหลักฐานของความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การที่กล้าจะทดลองสิ่งใหม่ๆ นอกกรอบ เป็นสิ่งเตือนใจถึงความเสี่ยงในการทำธุรกิจ และมีบทเรียนต่างๆ ว่าทำไมสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นถึงได้ล้มเหลว ดร.ซามูเอลบอกว่า พิพิธภัณฑ์นี้ถูกสร้างขึ้นมาจากความเหนื่อยหน่ายที่อ่านเจอแต่เรื่องความสำเร็จของคน ทำให้ตั้งคำถามขึ้นมาว่าคนเราสามารถเรียนรู้อะไรต่างๆ จากความล้มเหลวได้มากมายกว่าความสำเร็จเสียอีก แต่ทำไมกลับไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจเรื่องพวกนี้

แนวคิดของ ดร.ซามูเอล ที่พยายามลบตราบาปจากความล้มเหลว และลดการยึดติดกับ ‘ภาพความสำเร็จ’ นั้นน่าสนใจมากสำหรับยุค 4.0 ที่อนาคตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และคาดเดาได้ยาก ทั้งยุทธศาสตร์องค์กร โมเดลธุรกิจ นโยบายชาติ การแก้ปัญหาในทุกระดับยุคนี้มักไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ต้องผ่านการ ‘ทดลอง’ สิ่งใหม่ เก็บข้อมูล ประเมินผล เรียนรู้และพัฒนา เพื่อก้าวไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ทันโลก

หากแต่การทดลองย่อมมีทั้งสำเร็จและล้มเหลว มีสิ่งที่ทำถูกและผิดพลาด การมีทัศนคติที่สามารถลดความกลัวต่อความล้มเหลวได้จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาคน องค์กร และประเทศ

 

การ ‘เสพติดภาพความสำเร็จ’

 

แต่สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้กลับตรงกันข้าม เราอยู่ในยุคที่คนมีภาพประสบความสำเร็จมักมี ‘แสงสว่างในตัวเอง’ พูดอะไรคนก็ฟัง มีเวที มีไมโครโฟนติดตัวตลอด มีไอเดียอะไรก็เด่นเพียงเพราะคนพูดเป็นใคร ในทางกลับกัน ความล้มเหลวถูกมองเป็นสิ่งน่าอับอาย ต้องซุกซ่อน ธุรกิจล่มก็อย่าให้คนรู้ เข้ามหาวิทยาลัยและบริษัทที่ต้องการไม่ได้ก็ต้องเงียบไว้ เพราะหากไม่ระวังอาจเป็นตราบาปติดตัว ทำให้เสียความน่าเชื่อถือในสังคม ทำให้เริ่มต้นใหม่ทำกิจการอะไรยากขึ้น

เราจึงอยู่ในสังคมที่ ‘เสพติดภาพความสำเร็จ’ ที่ต้องฉายภาพความสำเร็จตลอดเวลา ไม่ว่าจะในใบประวัติทำงาน ในสื่อและโซเชี่ยล พร้อมกับซ่อนความล้มเหลวไว้ในที่มืดที่คนไม่เห็น

 

อุปสรรคต่อการพัฒนา

 

สิ่งที่น่ากังวลคือ ทัศนคติเช่นนี้ในสังคมอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาองค์กรหรือแม้แต่ประเทศได้

ข้อแรก การกลัวต่อความล้มเหลวอาจทำให้คนไม่กล้าทดลองไอเดียใหม่ๆ และไม่กล้าเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง โดยคนยิ่งมีการศึกษาสูง ยิ่งมีประสบการณ์ อาจกลับยิ่งมีโอกาสติดกับดักนี้ เพราะยิ่งยึดติดกับภาพความสำเร็จของตนที่สะสมมา โดยไม่กล้าออกนอกกรอบที่ตนเองคุ้นเคย (comfort zone)

นี่คือเหตุผลหนึ่งที่สิงคโปร์พยายามอย่างมากที่จะลดความสำคัญของการสอบและเกรด ในการตัดสินความสำเร็จของนักเรียนภายใต้นโยบาย ‘Thinking Schools, Learning Nation’ เช่น ยกเลิกการสอบกลางภาค ของประถม 1-5 และ มัธยม 1-3 ยกเลิกการจัดอันดับผลการสอบในใบแจ้งคะแนน เป็นต้น โดยรัฐบาลสิงคโปร์ยอมรับว่า ความกดดันที่ต้องทำเกรดสูงๆ ที่เยาวชนสิงคโปร์ต้องเผชิญตลอดมา อาจทำให้เกิดความกลัวต่อการทำผิดพลาดที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรมและเรียนรู้

ข้อสอง การที่คนและองค์กรซ่อนความล้มเหลว ยังทำให้เราเสียโอกาสการเรียนรู้ที่สำคัญ เพราะหลายครั้งความล้มเหลวเกิดขึ้นจากการตัดสินใจและกระทำของคน เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ในโลกที่ ‘สูตรสำเร็จ’ อาจเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่ตายตัว การเรียนรู้ ‘สูตรล้มเหลว’ ที่ควรหลีกเลี่ยงอาจมีความสำคัญไม่แพ้กัน ดั่งคำสอนไทยแต่เดิมว่า ‘ผิดเป็นครู’

 

ปกปิดความล้มเหลว

 

ข้อสาม คนอาจปกปิดความล้มเหลวของตนเองเพื่อเก็บภาพความสำเร็จต่อไป ดูตัวอย่างกรณีสะเทือนโลกเกิดขึ้นในวงการสตาร์ทอัพท ในกรณีของ อลิซาเบธ โฮล์มส์ (Elizabeth Holmes) ผู้ก่อตั้งบริษัท ‘Theranos’

สิบกว่าปีที่แล้ว น้อยคนจะไม่รู้จักอลิซาเบธในฐานะเจ้าแม่สตาร์ตอัพชื่อก้องโลก ที่ประกาศว่าสามารถสร้างเทคโนโลยีที่ตรวจเลือดได้ ไม่ต้องใช้เข็มเจาะแบบปกติ ไม่ต้องไปโรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายถูกลง

เธอถูกขนานนามให้เป็น ‘สตีฟ จ็อบส์’ แห่งวงการแพทย์ ที่ Time ยกให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลทรงอิทธิพลที่สุดของโลก ประจำปี 2015 และ Forbes ยกตำแหน่งมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในอเมริกาให้ขณะอายุ 31 ปี โดยมีสินทรัพย์กว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ในวันนี้เธอยัง ‘ดัง’ อยู่ แต่ดังในฐานะ ‘ผู้หลอกลวงโลก’ ระดับประวัติศาสตร์ ที่กำลังถูกดำเนินคดีในสหรัฐ Wall Street Journal เอามาเขียนเป็นหนังสือ ‘Bad Blood’ และฮอลลีวู้ดกำลังเอามาทำเป็นหนัง

เหตุเพราะมีการค้นพบว่าอลิซาเบธและสามี ได้มีการปลอมแปลงผลการตรวจเลือด หลอกลวงนักลงทุนและแม้แต่รัฐบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อตนรู้ว่าเทคโนโลยีการเจาะเลือดที Theranos สร้างขึ้นนั้นไม่สามารถตรวจเลือดได้อย่างแม่นยำตามที่สัญญากับโลกไว้

ที่น่าเศร้ามากคือหนังสือ Bad Blood ได้เล่าว่า ช่วงหลังเธอได้แต่ใช้เงินทุนมหาศาลและเวลาไปกับการปกปิด ‘ความล้มเหลว’ และสร้างภาพให้ตัวเองเป็นฮีโร่ แทนที่จะลงทุนวิจัยหาทางแก้ปัญหาเทคโนโลยีของตน ซึ่งแม้ไม่สามารถทำเท่าที่อ้างได้ ก็อาจช่วยสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมได้

แน่นอนว่าการปกปิดความล้มเหลว ไม่ได้เกิดแค่ในวงการใดวงการหนึ่ง แต่เกิดขึ้นได้ทุกที่ รวมทั้งในโลกของนโยบายภาครัฐที่วัดผลลัพธ์ได้ยาก ทำให้บ่อยครั้งเราอาจไม่รู้เลยว่าแต่ละนโยบายและโครงการมีประสิทธิผลแค่ไหน คุ้มค่าต่อต้นทุนไหม

 

วิชาภาคบังคับแห่งอนาคต

 

หลายคนอาจได้ยินข้อคิดจากคนที่ประสบความสำเร็จว่า “จงอย่ากลัวความล้มเหลว” แต่เราเข้าใจวิทยาศาสตร์ของความกลัวต่อความล้มเหลวของคนสักแค่ไหน?

ความกลัวต่อความล้มเหลวเป็นแค่มุมมองของคนที่ปรับได้ทันทีเมื่อเข้าใจ เป็นเหมือน ‘ทักษะ’ อย่างหนึ่งที่ต้องฝึก ต้องสะสมภายใต้สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ถูกต้อง

กรอบความคิดของพ่อแม่ที่กำหนดให้นิยามความสำเร็จและล้มเหลวกับลูกแบบแคบๆ ระบบการศึกษาที่เน้นแต่สอบและวัดผล ไม่ให้คุณค่าการทดลองเรียนรู้ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ที่ทำงานที่เน้นแต่ผลงานระยะสั้นมากกว่าการสร้างคนด้วยการให้โอกาสและความไว้วางใจ ล้วนอาจมีผลต่อทัศนคติของคนต่อความล้มเหลวทั้งสิ้น

เมื่อโลก 4.0 ที่เต็มไปด้วย disruption มาถึง ได้เวลาหรือยังที่เราจะ ‘บรรจุ’ การเรียนรู้จากความล้มเหลว เป็นวิชาบังคับที่ทุกคนต้องเรียน ก่อนที่ความกลัวความล้มเหลวจะทำให้เราหาความสำเร็จไม่เจอตลอดกาล

MOST READ

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Social Issues

21 Nov 2018

เมื่อโรคซึมเศร้าทำให้อยากจากไป

เรื่องราวการรับมือกับความคิด ‘อยากตาย’ ผ่านประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คนเคียงข้าง และบทความจากจิตแพทย์

ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์

21 Nov 2018

Social Issues

22 Oct 2018

มิตรภาพยืนยาว แค้นคิดสั้น

จากชาวแก๊งค์สู่คู่อาฆาต ก่อนความแค้นมลายหายกลายเป็นมิตรภาพ คนหนุ่มเลือดร้อนผ่านอดีตระทมมาแบบไหน ‘บ้านกาญจนาฯ’ เปลี่ยนประตูที่เข้าใกล้ความตายให้เป็นประตูสู่ชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างไร

ธิติ มีแต้ม

22 Oct 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save