fbpx
ฟุตบอลสอนให้เคารพความเป็นมนุษย์ 'เครก ฟอสเตอร์' กับภารกิจ #SaveHakeem

ฟุตบอลสอนให้เคารพความเป็นมนุษย์ ‘เครก ฟอสเตอร์’ กับภารกิจ #SaveHakeem

วจนา วรรลยางกูร เรื่อง

ธิติ มีแต้ม ภาพ

“โปรดบอกรัฐบาลออสเตรเลียว่าอย่าส่งผมกลับไปบาห์เรนโดยที่จะไม่ได้พบกับคุณอีก”

ข้อความที่ ฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรนที่ถูกจองจำในประเทศไทยฝากถึงภรรยา ผ่านการพูดคุยกับ เครก ฟอสเตอร์ อดีตกัปตันทีมชาติออสเตรเลีย

ฮาคีมถูกทางการไทยควบคุมตัวตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 ขณะเดินทางจากออสเตรเลียมาฮันนีมูนกับภรรยา โดยประเทศบาห์เรนได้ประสานทางการไทยให้กักตัวไว้ เพื่อตรวจสอบคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนและเอกสารจากบาห์เรน

เขาเคยเป็นนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนที่ถูกจับกุมและนำตัวไปทรมานในปี 2012 เกี่ยวเนื่องมาจากการร่วมกิจกรรมทางการเมืองของน้องชายเขาช่วงอาหรับสปริง ฮาคีมถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการทำลายสถานีตำรวจในการประท้วงต่อต้านรัฐบาล แม้เขาจะปฏิเสธว่าตอนที่เกิดเหตุนั้น กำลังลงแข่งฟุตบอลนัดที่มีการถ่ายทอดสด แต่ถูกพิพากษาให้จำคุก 10 ปี เนื่องจากไม่ไปรายงานตัวต่อศาล

ฮาคีมได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากออสเตรเลีย และเซ็นสัญญาเป็นนักเตะสโมสรพาสโค เวล เอฟซี ที่เมลเบิร์นในปี 2017 ก่อนจะถูกจับกุมที่ไทย

สถาบันเพื่อสิทธิและประชาธิปไตยบาห์เรน เชื่อว่าฮาคีมตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลบาห์เรน เพราะเปิดเผยเรื่องการซ้อมทรมานและวิพากษ์วิจารณ์ ชีค ซัลมาน บิน อิบรอฮีม อัล คอลีฟะห์ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และรองประธานฟีฟ่า ซึ่งเป็นสมาชิกราชวงศ์บาห์เรน

การส่งกลับผู้ลี้ภัยให้ไปเผชิญอันตรายที่อาจถูกคุกคามต่อชีวิตและเสรีภาพนั้น เป็นการละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน แต่ที่ผ่านมารัฐบาล คสช. ได้พิสูจน์ให้เห็นระดับความเคารพในสิทธิมนุษยชนด้วยการส่งกลับผู้ลี้ภัยจำนวนมาก เช่นในกรณีชาวอุยกูร์ หรือล่าสุดที่มีการส่งตัวนักกิจกรรมผู้ผลิตสารคดีเรื่องค้าประเวณีกลับไปยังกัมพูชา

ชะตากรรมของฮาคีมสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการฟุตบอลทั่วโลก โดยเฉพาะในออสเตรเลียที่มีการประท้วงหน้าสถานกงสุลไทยเมืองเมลเบิร์นให้ปล่อยตัวเขา

‘เครก ฟอสเตอร์’ อดีตนักเตะที่ปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลผ่านช่อง SBS ของออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมารณรงค์ช่วยเหลือฮาคีม โดยเขาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเยี่ยมฮาคีมและเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย

เครกถือว่าการช่วยชีวิตนักฟุตบอลหนุ่มรายนี้ เป็นหน้าที่โดยตรงของเขาทั้งในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ และในฐานะอดีตประธานสมาคมนักฟุตบอลอาชีพออสเตรเลีย

เหตุการณ์ครั้งนี้นอกจากเป็นบททดสอบด้านสิทธิมนุษยชนอีกครั้งหนึ่งของประเทศไทยแล้ว ยังเป็นบททดสอบต่อวงการฟุตบอลนานาชาติด้วยว่าให้ความสำคัญในการปกป้องคุ้มครองความเป็นมนุษย์ของนักกีฬาเพียงใด

ฮาคีม อัล อาไรบี
ฮาคีม อัล อาไรบี ขณะถูกกักตัวในประเทศไทย ภาพจาก Bahrain Institute for Rights and Democracy

ทราบว่าคุณไปพบฮาคีมมา เขาเป็นอย่างไรบ้าง

ฮาคีมรู้สึกแย่มาก เขาหมดหวังเพราะไม่ได้เจอภรรยามานาน ฮาคีมรักครอบครัวมาก เขาบอกว่ารู้สึกเหมือนหัวใจสลายเพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอภรรยาอีก สิ่งที่เขากังวลที่สุดคือบาห์เรนต้องการให้ส่งตัวเขากลับไป ซึ่งกลัวว่าจะถูกนำตัวกลับไปทรมานอีกครั้ง เพราะเขาเคยถูกทรมานมาแล้วครั้งหนึ่ง

ฮาคีมบอกว่า “พวกเขาทำลายสองสิ่งในชีวิตที่ผมรักมากที่สุดคือภรรยาและฟุตบอล เขาทำลายอาชีพผมและทำให้ผมหัวใจสลาย”

เขายังมีความหวังว่าจะได้กลับออสเตรเลียไหม

เขาหมดกำลังใจ ฮาคีมเหลือความหวังค่อนข้างน้อยมาก เพราะเขาเคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบาห์เรนเรื่องเสรีภาพการแสดงออกและประชาธิปไตยอันเป็นเหตุให้เขาถูกลงโทษ และตอนนี้เมื่อเขามาถูกจองจำที่ไทยร่วม 60 วัน ทำให้ความหวังของเขาลดน้อยลงไปเรื่อยๆ

ตอนอยู่ออสเตรเลียคุณรู้จักฮาคีมเป็นการส่วนตัวไหม

ผมไม่เคยเจอเขามาก่อน แต่ผมเคยเป็นกัปตันทีมชาติออสเตรเลีย ผมมีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือคนหนุ่มที่เดินเข้าสู่อาชีพนักบอล ผมเป็นคนออสเตรเลียและไม่ใช่ผู้ลี้ภัย ผมมีชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี ฮาคีมเป็นคนหนุ่มที่กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยและต้องการความช่วยเหลือ ผมจึงรู้สึกว่าการออกมาเรียกร้องนี้เป็นหน้าที่

คุณรู้สึกว่าเป็น หน้าที่ โดยตรงของตัวเองหรือเปล่าที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ใช่ เป็นหน้าที่ในฐานะที่เป็นนักฟุตบอลนานาชาติมาก่อน และผมยังเป็นอดีตประธานสมาคมนักฟุตบอลซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการปกป้องนักฟุตบอลทุกคนในออสเตรเลีย ในฐานะที่เคยมีตำแหน่งนี้มาก่อน ผมมีหน้าที่จะต้องช่วยเหลือฮาคีม และถ้าผมไม่ทำตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเขา

ปกติทำงานรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้วหรือเปล่า

ในออสเตรเลียผมทำงานอาสาสมัครเป็นทูตผู้ลี้ภัยและสิทธิมนุษยชน แต่ปกติทำงานกับเด็กๆ ที่ชอบฟุตบอล เด็กบางคนทั้งครอบครัวถูกฆ่าจากสงครามในแอฟริกาหรือที่อื่นๆ เมื่อเขามาอยู่ออสเตรเลียเราช่วยเด็กผู้ลี้ภัยพวกนี้ด้วยฟุตบอล เราให้ใจกับพวกเขา ให้โอกาสและการศึกษากับพวกเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำงานต่างไปจากที่เคยเมื่อได้มาช่วยชีวิตคนหนุ่ม

เครก ฟอสเตอร์

ที่ผ่านมาฟีฟ่าไม่ได้แสดงออกเรื่องสิทธิมนุษยชนนัก แต่กรณีฮาคีมมีแถลงการณ์ออกมา ถือว่าเพียงพอหรือยัง

แค่ออกแถลงการณ์ยังไม่เพียงพอ ในแถลงการณ์นั้นเรียกร้องให้ทุกคนแสดงออก แต่ในความเป็นจริงฟีฟ่าต้องเป็นคนออกโรงเอง ฟีฟ่าไม่อยากออกหน้าเพราะเป็นเรื่องการเมืองในวงการฟุตบอล แต่เราพยายามเรียกร้องให้ฟีฟ่าออกมาปกป้องฮาคีมทันที ฟีฟ่าต้องหยุดบาห์เรนในการพยายามที่จะพาตัวฮาคีมกลับไป ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

ผมเข้าใจว่าไม่กี่วันนี้ฟีฟ่าส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีไทยเพื่อขอเข้าพบและพูดคุยโดยตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ หมายความว่านี่เป็นครั้งแรกจากระยะเวลาสองเดือนที่ฟีฟ่าเพิ่งออกโรงทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ สิ่งที่ฟีฟ่าต้องทำคือพูดคุยกับทางการไทยว่าเราเป็นสมาชิกครอบครัวฟุตบอลนานาชาติ และประเทศไทยละเมิดสิทธิของนักฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

เราอยากขอร้องให้แฟนบอลไทย ทั้งแฟนลิเวอร์พูล แฟนแมนยู แฟนบอลทุกสโมสร ต้องออกมาเรียกร้องให้ฮาคีม เพราะเขาเป็นนักฟุตบอล เขากำลังถูกลิดรอนสิทธิมนุษยชน เขาเป็นผู้ลี้ภัย เขาต้องกลับไปออสเตรเลียทันที ผมอยากให้แฟนบอลไทยทุกคนออกมาสนับสนุนฮาคีม ถ้าคุณชอบฟุตบอล คุณต้องสนับสนุนเขาด้วย

กรณีนี้ประธานเอเอฟซีเข้ามาเกี่ยวข้องในลักษณะคู่ขัดแย้งกับฮาคีม คิดว่าจะทำให้สถานการณ์ยุ่งยากขึ้นไหม

ใช่ ประธานเอเอฟซีไม่ออกมาพูดอะไรเลย หมายความว่าเขาจะไม่ทำอะไรในฐานะประธานเอเอฟซี เขาควรลงจากตำแหน่ง เพราะหน้าที่ของเขาคือการปกป้องฮาคีม ฮาคีมเคยพูดว่า ชีค ซัลมาน ประธานเอเอฟซี มีส่วนเกี่ยวข้องในการเอาตัวเขาไปทรมานในปี 2012 แม้ว่าประธานเอเอฟซีจะปฏิเสธเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าประธานเอเอฟซีสร้างปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

คิดว่าท่าทีของฟีฟ่าได้รับอิทธิพลจากประธานเอเอฟซีด้วยไหม

ใช่ ปัญหาก็คือในปี 2019 นี้ จะมีการเลือกตั้งประธานเอเอฟซีใหม่ในเดือนเมษายน แล้วจะมีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่าในเดือนมิถุนายน เช่นเดียวกับการเลือกตั้งไทย เมื่อการเลือกตั้งมาถึงก็ไม่มีใครอยากจะพูดอะไรมากหรือแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะจะทำให้เสียกำลังสนับสนุน

อาจมองได้ไหมว่า ประธานเอเอฟซีเอาเรื่องภายในประเทศมาเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลระดับนานาชาติ

ใช่ กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับกฎหมายหรือการส่งผู้ร้ายข้ามแดน กรณีนี้เป็นเรื่องการแก้แค้นฮาคีมซึ่งเป็นนักฟุตบอลหนุ่มที่โดดเด่น แล้วออกมาพูดเรื่องเสรีภาพการแสดงออกและประชาธิปไตย ทำให้บาห์เรนต้องการลงโทษเขา ผมอยากเรียกร้องให้รัฐบาลไทยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการลงโทษเพื่อแก้แค้นครั้งนี้ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว แค่ปล่อยเขากลับบ้านก็พอ

เครก ฟอสเตอร์

ที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไม่ได้ใส่ใจประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน คิดว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ เหมือนเป็นการตะโกนไปในความว่างเปล่าไหม

สมัยก่อนฟุตบอลไม่ได้สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน สนใจแต่เรื่องเงินและการเมือง แต่มีนักฟุตบอลหลายคนอย่างผมที่สนใจประเด็นสิทธิมนุษยชน สนใจเรื่องการปกป้องนักเตะและแฟนคลับ เหตุการณ์ของฮาคีมจะเป็นบททดสอบเรื่องสิทธิมนุษยชนในวงการฟุตบอลว่าเป็นความว่างเปล่าจริงหรือไม่ ถ้าคุณไม่ลุกขึ้นมาปกป้องฮาคีมตอนนี้ ก็ถือว่าสิทธิมนุษยชนในวงการฟุตบอลตายไปแล้ว

รัฐบาลไทยต้องเข้าใจว่าออสเตรเลียเคารพคนไทย เรามีความสัมพันธ์ที่ดีในทางฟุตบอล แต่คนในวงการฟุตบอลระดับโลก เช่น ร็อบบี ฟาวเลอร์, แกรี ลินิเกอร์ และนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน เสียใจมากที่มีนักฟุตบอลมาถูกขังคุกในประเทศไทย

ล่าสุดไทยสร้างผลงานที่ดีในการเตะเอเชียนคัพที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วงการฟุตบอลยินดีที่เห็นพัฒนาการของฟุตบอลไทยดีขึ้นเรื่อยๆ เรายินดีกับสมาคมนักฟุตบอลไทยและแฟนบอลไทยสำหรับความสำเร็จต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ถ้าคุณไม่สามารถเคารพสิทธิมนุษยชนของนักฟุตบอลคนหนึ่งได้ ความสำเร็จที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่มีความหมาย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนี้วงการฟุตบอลไทยต้องออกมาสนับสนุนฮาคีมและเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขา

ส่วนตัวคิดว่าการเรียกร้องครั้งนี้จะสำเร็จไหม

แน่นอน เพราะผมเชื่อว่าประเทศไทยจะตระหนักถึงการที่วงการกีฬานานาชาติ ออกมาประณามการยืนยันที่จะคุมขังฮาคีมต่อไป คนออสเตรเลียเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก บางส่วนเริ่มออกมารณรงค์ว่าจะไม่มาเที่ยวประเทศไทย บางส่วนก็พูดว่าภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาตินั้นเสียไปมากด้วย ขณะที่วงการฟุตบอลระดับนานาชาติและนักเตะชื่อดังมองมาที่ประเทศไทยแล้ว ก็คิดว่านี่เป็นเรื่องผิดที่จับนักฟุตบอลที่บริสุทธิ์ขังคุก ทำให้ภาพลักษณ์วงการฟุตบอลไทยแย่ไปด้วย

กังวลสถานการณ์ในไทยไหม ที่ตอนนี้เป็นรัฐบาลทหารและมีประวัติในการส่งกลับผู้ลี้ภัยไปเจออันตรายจำนวนมาก

เราได้กำลังใจและรู้สึกดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ‘ราฮาฟ อัล-คานูน’ ที่สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เรารู้สึกดีที่มีการเคารพกฎหมายและปกป้องผู้ลี้ภัย รวมไปถึงการหยุดกักตัวเด็กข้ามชาติและผู้ลี้ภัย จึงอยากเห็นกระบวนการนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราตระหนักถึงความเห็นจากคุณสุรเชษฐ์ (พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล) ที่บอกว่าจะเคารพกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก นั่นหมายถึงสิทธิของผู้ลี้ภัยอย่างฮาคีมควรได้รับความสนใจด้วย

เครก ฟอสเตอร์

มองความสำเร็จในกรณีราฮาฟว่าต่างจากฮาคีมอย่างไร

ความแตกต่างในเคสฮาคีมคือเรื่องการเมือง เพราะบาห์เรนเป็นคนที่กระทำความผิด ประเทศไทยแค่ต้องปล่อยให้ฮาคีมกลับไป แต่บาห์เรนก็ต้องหยุดพยายามนำตัวฮาคีมกลับไปทรมานอีก

เราดีใจมากที่ราฮาฟได้รับสถานะผู้ลี้ภัย สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกำลังใจให้เราว่าคุณสุรเชษฐ์และรัฐบาลไทย ทำให้ประเทศไทยยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยมากขึ้น และเราควรรักษาแนวทางที่น่าชื่นชมนี้ด้วยการเคารพสิทธิของฮาคีมเช่นกัน

คนไทยชอบฟุตบอลมาก และมักบอกว่าอย่าเอาฟุตบอลไปโยงกับการเมือง คุณคิดว่าฟุตบอลกับการเมืองควรแยกออกจากกันไหม

แน่นอน ควรแยกออกจากกัน และเราควรบอกว่านี่คือนักฟุตบอลที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ฮาคีมไม่ใช่ผู้แสวงหาที่ลี้ภัยในออสเตรเลีย แต่ฮาคีมเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับการคุ้มครองจากออสเตรเลียแล้ว ดังนั้นเรื่องมันง่ายมาก ประเทศไทยควรปล่อยตัวฮาคีมกลับบ้านให้ไปอยู่ในความคุ้มครองของออสเตรเลีย แฟนบอลไทยไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบาห์เรน แต่ควรลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิมนุษยชนในเหตุการณ์นี้

คนไทยจำนวนมากมีอคติกับผู้ลี้ภัย คุณจะสื่อสารอย่างไรกับคนที่คิดว่าผู้ลี้ภัยมาสร้างปัญหา

ในออสเตรเลียบางครั้งผู้ลี้ภัยก็ไม่ได้รับการปฏิบัติดูแลอย่างดีนัก แต่ข้อความที่ผมอยากบอกกับคนไทยก็คือ เราทุกคนเป็นคนเหมือนกันและเราเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ลี้ภัยที่มีปัญหาจนต้องหนีจากประเทศตัวเอง เป็นคนสัญชาติออสเตรเลียอย่างผม หรือเป็นคนไทยอย่างคุณ เราทุกคนเป็นคนเหมือนกันและเราควรช่วยเหลือคนที่กำลังประสบปัญหา

ในความเป็นมนุษย์ ถ้าเราไม่พยายามขยายโอกาสในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สิทธิมนุษยชนก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ และฮาคีมไม่ใช่แค่ผู้ลี้ภัย แต่เขาคือนักฟุตบอลด้วย ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับผู้ลี้ภัย ถ้าคุณชอบฟุตบอล คุณควรช่วยฮาคีม

เครก ฟอสเตอร์

ถ้าคุณเป็นคนไทย จะเจอคำถามว่าไปช่วยคนต่างชาติทำไม ในออสเตรเลียเกิดสถานการณ์อย่างนี้ด้วยไหม

มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกที่ทั่วโลก ตอนนี้โลกกำลังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างมาก แต่เหตุผลที่ผมพยายามช่วยฮาคีมเพราะเราเชื่อว่าทุกคนไม่มีความแตกต่างกันในโลกของฟุตบอล เราจับมือกันก่อนเกมและหลังจบเกม เราพูดกันว่าต้องเคารพกันในสนาม แต่เราต้องเคารพความเป็นมนุษย์ของทุกคนเมื่ออยู่นอกสนามด้วย ถ้าคุณชอบฟุตบอลแต่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชนของนักฟุตบอล วงการฟุตบอลคงประสบปัญหามากกว่านี้

ออสเตรเลียมีผู้ลี้ภัยจำนวนมาก คนในประเทศคุณคิดยังไงกับปัญหานี้

การปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยของออสเตรเลียในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราหลายคนคาดหวัง แนวทางการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยของทุกประเทศในโลกขึ้นอยู่กับรัฐบาลแต่ละชุด แต่ที่ผมจะเน้นย้ำคือสาเหตุที่ฮาคีมถูกขังคุกอยู่ตอนนี้ เพราะเขาเป็นนักฟุตบอล เขาถูกทรมานเพราะเขาเล่นฟุตบอลในบาห์เรน การเป็นที่รู้จักในวงกว้างทำให้รัฐบาลต้องการลงโทษเขาให้คนอื่นเห็น ดังนั้นฮาคีมถูกจองจำในคุกและตกอยู่ในอันตรายเพราะเขาเล่นฟุตบอล นั่นเป็นเหตุผลว่าเขาต้องการขอความช่วยเหลือจากแวดวงฟุตบอล

กระแสชาตินิยมที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจนเกิดการต่อต้านผู้ลี้ภัย เกิดขึ้นในออสเตรเลียด้วยไหม

มันเริ่มเกิดขึ้นในหลายที่ทั่วโลก และเพิ่มขึ้นที่ออสเตรเลียช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเช่นกัน เราเป็นห่วงประเด็นนี้เป็นอย่างมาก เพราะคุณค่าของการเล่นกีฬาไม่ใช่เพราะว่าเราเก่งกว่าคุณ แต่คุณค่าของมันคือมนุษย์ทุกคนเท่ากัน นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมจึงไม่เห็นความแตกต่างระหว่างผมกับฮาคีม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ ศาสนา สัญชาติ เขาไม่มีอะไรแตกต่างกับผมเลย ผมคิดว่าในออสเตรเลียและโลกของเรา มีคนดีมากเพียงพอจะสู้กับแนวคิดชาตินิยมจนชนะได้

เครก ฟอสเตอร์

ในฐานะนักฟุตบอล คิดว่าการรักษาความหลากหลายทางความคิด เชื้อชาติ และศาสนาสำคัญอย่างไร

สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะวงการฟุตบอลมี 211 ประเทศที่เล่นร่วมกัน ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นตัวอย่างที่ดีในความเป็นพหุวัฒนธรรม มีความแตกต่างหลากหลายทั้งทางด้านความคิด อาหาร วัฒนธรรม ศาสนา และอื่นๆ เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลออสเตรเลีย เราไม่เห็นด้วยกับการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนด้วยสาเหตุจากเชื้อชาติศาสนาหรือสาเหตุอื่นๆ เพราะสิทธิมนุษยชนติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าคุณจะอยู่ไทยหรืออยู่ออสเตรเลีย เราก็มีสิทธิมนุษยชนเหมือนกัน ถ้าเราไม่เคารพกันหรือไม่ทำงานร่วมกัน โลกใบนี้ก็จะประสบปัญหา

ตอนเป็นนักฟุตบอลแล้วลงสนาม คุณเห็นปัญหาจากความแตกต่างทางความคิดหรือศาสนาไหม

ไม่ ตอนผมเป็นนักฟุตบอล เราสนุกไปกับการเตะกับบราซิล ได้คุยกับนักบอลบราซิลถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เราเตะกับซาอุดิอาระเบีย ชิลี เราได้เล่นฟุตบอลร่วมกับทุกคน สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางภาษา ศาสนา วัฒนธรรม แต่เราเป็นคนเหมือนกัน ความจริงที่พบเมื่อลงสนาม ก็คือฟุตบอลได้สอนเราว่าทุกคนเป็นคนเหมือนกันไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนก็ตาม

ถ้ามีโอกาสพูดกับรัฐบาลไทย อยากจะสื่อสารอะไร

ผมอยากบอกว่าได้โปรดเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เหตุการณ์นี้จะยังคงเดินหน้าต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองประเทศนั้นอบอุ่นมาก คนออสเตรเลียมองว่าคนไทยเป็นคนดี ออสเตรเลียยังได้ให้ความช่วยเหลือประเทศไทยหลายครั้ง เราเคยระดมทุนช่วยเหลือหลังเกิดสึนามิในเมืองไทย คนออสเตรเลียรู้สึกใกล้ชิดกับคนไทยมากจนสามารถควักเงินช่วยเหลือประเทศไทยได้ทันที เรายังเป็นหนึ่งในทีมที่มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าด้วย ประเด็นเหล่านี้ทำให้สองประเทศมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับฮาคีมกำลังจะทำให้เราแยกออกจากกัน และมันไม่จำเป็นเลย เพราะประเทศออสเตรเลียให้การคุ้มครองฮาคีมแล้ว ดังนั้นได้โปรดปล่อยเขากลับบ้านเถอะ

เครก ฟอสเตอร์

MOST READ

Social Issues

27 Aug 2018

เส้นทางที่เลือกไม่ได้ ของ ‘ผู้ชายขายตัว’

วรุตม์ พงศ์พิพัฒน์ พาไปสำรวจโลกของ ‘ผู้ชายขายบริการ’ ในย่านสีลมและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดปูมหลังชีวิตของพนักงานบริการในร้านนวด ร้านคาราโอเกะ ไปจนถึงบาร์อะโกโก้ พร้อมตีแผ่แง่มุมลับๆ ที่ยากจะเข้าถึง

กองบรรณาธิการ

27 Aug 2018

Interviews

3 Sep 2018

ปรากฏการณ์จีนบุกไทย – ไชน่าทาวน์ใหม่ในกรุงเทพฯ

คุยกับ ดร.ชาดา เตรียมวิทยา ว่าด้วยปรากฏการณ์ ‘จีนใหม่บุกไทย’ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องการท่องเที่ยว แต่คือการเข้ามาลงหลักปักฐานระยะยาว พร้อมหาลู่ทางในการลงทุนด้านต่างๆ จากทรัพยากรของไทย

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

3 Sep 2018

Social Issues

21 Nov 2018

เมื่อโรคซึมเศร้าทำให้อยากจากไป

เรื่องราวการรับมือกับความคิด ‘อยากตาย’ ผ่านประสบการณ์ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า คนเคียงข้าง และบทความจากจิตแพทย์

ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์

21 Nov 2018

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save