ก่อนหน้านี้เพียงปีเดียว กรุงเทพฯ ต้องปิดเมืองเงียบเชียบเพราะป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเมื่อผู้คนเก็บตัวอยู่บ้าน เมืองร้างไร้สีสัน รถเมล์จึงวิ่งฝ่าฝุ่นเปล่าดายไปทั่วเมือง ไม่มีรายรับมีแต่รายจ่าย
มิหนำซ้ำ เมื่อกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง ก็ดูเหมือนว่าคนจะขึ้นรถเมล์กันน้อยลง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรม หรือการไม่อยากอดทนกับสภาพรถเก่า ตารางวิ่งที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ เองก็ตามที รายได้ของผู้ประกอบการวิ่งรถเมล์จึงอยู่ระหว่างทรงกับทรุดเรื่อยมา
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมา กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้เอกชนที่ชนะการประมูลเส้นทาง วิ่งบริการรถเมล์แทน ขสมก. และตั้งเป้าว่าผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตนั้นต้องทยอยบรรจุเส้นทางครบทุกสายภายในเดือนธันวาคมนี้ หลายคนมองว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ที่อาจดึงดูดให้ผู้คนกลับมาใช้รถเมล์กันอีกครั้ง
แต่กล่าวกันอย่างรวบรัด กว่าสองเดือนที่ผ่านมานี้ แผนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังคงขลุกขลักอยู่ไม่น้อย นำมาสู่คำถามสำคัญคือ ปลายทางของการเปลี่ยนผ่านระบบขนส่งมวลชนจะเป็นอย่างไร อีกนานแค่ไหนกว่าที่จะลงตัว เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่ดี
ผลงานชิ้นนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสภาองค์กรของผู้บริโภค และ The101.world