ผู้ปกครองอำนาจนิยมอาจจะนึกว่าตัวเองคือเอตทัคคะ เก่งกล้าสามารถ เป็นเลิศไปเสียทุกเรื่อง ไม่ชอบการแสดงความคิดเห็นอื่นใดที่แตกต่างไปจากตัวเอง ทนรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ หงุดหงิดรำคาญ และคับข้องใจว่าเหตุใดทำไมไม่ว่าตัวเองจะทำอะไรลงไปจึงแลดูผิดไปหมดในสายตาผู้คน
แต่สำหรับประชาชนซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจรัฐเผด็จการ ทุกข์ยากเดือดร้อนจากความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลแล้วกลับรู้สึกว่า ท่านผู้นำอาการหนักหนาสาหัส ยากเกินจะเยียวยาได้ทุกที คนอะไรมีปัญหาการสื่อสารกับชาวบ้านราษฎรผู้อยู่ภายใต้การปกครอง พูดคุยกับคนรุ่นหลัง-ลูกหลานไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่กลับเจื้อยแจ้วจ๊ะจ๋าจำนรรจากับเดียรัจฉาน ปู ปลา กา ไก่ ได้เป็นวรรคเป็นเวร เสมือนประหนึ่งว่ามาจากสปีชีส์เดียวกัน
ไปไหนมาไหนก็เที่ยวแนะโน่นแนะนี่ สอนผู้คนเขาไปทั่ว รอบรู้ไปหมดยกเว้นบริหารราชการแผ่นดินอย่างไรให้ดี ประชาชีมีความสุข
แถมยังชมตัวเองได้โดยไม่ละอายปากกระดากลิ้น
ยิ่งนานวันก็ยิ่งสร้างความงุนงงสงสัยให้ประชาชนทั้งประเทศว่า บ้านเมืองนี้เขาเอาคนบ้าหรือตัวตลกมาปกครองบ้านเมืองกันแล้วหรืออย่างไร
หันไปทางไหนก็ยังแลไม่เห็นทางออก ที่พอฝากผีฝากไข้หวังพึ่งพาได้มีเพียงหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้หลุดพ้นไปจากระบอบปกครองทรราช+ธิปไตยอันมีผู้นำทางทหารเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก
ลำพังผู้ปกครองระดมสรรพกำลังบูรณาการใช้อำนาจรัฐกำราบปราบปรามหนุ่มสาวเยาวชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เคลื่อนไหวผลักดันให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมประชาธิปไตย ทั้งข่มขู่ คุกคาม จับกุมคุมขัง ตั้งเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวขึ้นมาปิดปาก ทำทุกวิถีทางเพื่อบ่อนทำลายสลายพลังคนรุ่นใหม่ นำความอ่อนล้า สร้างความยากลำบากในการต่อสู้มากพอดูอยู่แล้ว
ลูกหลานซึ่งมีกุศลจิตยังต้องประสบพบกับปัญหาความไม่เป็นเอกภาพในหมู่ประชาชนด้วยกันมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง ชนชั้นนำซึ่งสมประโยชน์กับระบอบปกครองอำนาจนิยม ด้วยสามารถผูกขาดความมั่งคั่ง พยายามปลุกระดมให้เกิดการเผชิญหน้า ผู้คนซึ่งได้รับการปลูกฝังแนวความคิดอนุรักษ์สุดโต่งออกมาต่อต้าน
ขณะที่หลายคนนิ่งเฉยด้วยความเคยชิน
ไหนจะมีความไม่จริงใจและไม่จริงจังของนักการเมืองที่แลเห็นการต่อสู้ของลูกหลานเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจให้กับตัวเองมาบั่นทอน
คนรุ่นลูกรุ่นหลานถูกจับกุมคุมขังเข้าคุกเข้าตารางกันโครมๆ จนต้องออกมาเรียกร้องต้องการให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่นายโทนีกลับทำตัวเป็นโทนาฟ ครีมรักษาโรคกลากเกลื้อน คันในที่ร่มให้กับฝ่ายซึ่งเห็นอุดมการณ์ประชาธิปไตยอยู่ตรงกันข้าม
แสดงความคิดอ่าน อ้างว่าตัวบทกฎหมายไม่ได้มีปัญหา แถมยังโชว์เหนือ ขอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดดรามาหันมาทำตามคำแนะนำของตัวเอง
ครั้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การปราศรัย-ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จู่ๆ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กไม่มีปี่มีขลุ่ย ปฏิเสธว่า ตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อยู่เบื้องหลังเป็นท่อน้ำเลี้ยง โอนเงินหรือสนับสนุนขบวนการล้มเจ้า
ทั้งๆ ที่ไม่มีใครไหนเลยแลเห็นคนอย่างนายโทนีเป็นอื่นไปได้ นอกจากรอยัลลิสต์ตัวปู่ตัวทวดกับตำนานการจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 ครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อย่างยิ่งใหญ่ อภิมหาอลังการ
เป็นผลงานซึ่งเจ้าตัวหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างด้วยความภาคภูมิใจอยู่บ่อยครั้ง
ไหนจะยกฐานะหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. 2556
ขนาดอยู่ระหว่างหลบหนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีโทษรวม 10 ปีจาก 3 คดี ระเห็จไปพำนักห่างไกลถึงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ห้องทำงานยังมีภาพเดี่ยวพระบรมฉายาลักษณ์ประดับไว้ข้างฝา
ไม่จงรักภักดีคงไม่หาทำ
พูดถึงนายโทนีแล้ว อดหวนคิดไปถึงการเข้าสู่การเมืองของนายทักษิณไม่ได้
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 อันมีชนวนเหตุมาจากการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร รวบรวมสรรพสัตว์ เสือ สิงห์ กระทิง แรด นักการเมืองน้ำเน่า หน้าเก่าคนเดิม ไปสนับสนุน พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการทหารบกเป็นนายกรัฐมนตรี นำมาซึ่งวิกฤตศรัทธาที่มีต่อนักการเมือง ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองแบบก่อนๆ ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง นำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญ
ท่ามกลางความรู้สึกโหยหานักการเมืองน้ำดี ตัวแทนหน้าใหม่ๆ ปรารถนาจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น ปี พ.ศ. 2537 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็เรียกเสียงฮือฮาจากสังคมไทยด้วยการเฟ้นหาคนดี เด่น ดัง ชักพานายทักษิณ อภิมหาเศรษฐี นักธุรกิจเจ้าของสัมปทานการสื่อสารโทรคมนาคม ครั้งยังมียศพันตำรวจโทนำหน้าชื่อ เข้าสู่แวดวงการเมือง รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในโควตาพรรคพลังธรรม และรองนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะผละออกมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2541 ด้วยการกวาดต้อนรวบรวมนักการเมืองหน้าเก่าคนเดิมที่สังคมเคยร้องยี้ เพิ่มเติมหน้าใหม่ในบัญชีรายชื่อ ส่งผลทำให้ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอย่างท่วมท้นถึง 257 ที่นั่งจากจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 500 คน นำพาตัวเองก้าวไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับความเคลือบแคลงสงสัยถึงอุดมการณ์ประชาธิปไตยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในการเมือง
ทุกวันนี้ นอกจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งรับเอาความคิดของ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ไปดำเนินการแล้ว มีอะไรบ้างที่นายโทนีฝากไว้เป็นมรดกให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม
ประทานโทษ ลืมไปว่ายังมีการเทิดทูนสถาบันกษัตริย์เป็นอีกผลงานสำคัญ
ในทางตรงกันข้าม กลับทิ้งภาระมากมายไว้ให้ลูกหลาน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย, การละเมิดสิทธิมนุษยชน, ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้, การฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุจริตเชิงนโยบาย เพดานชักหัวคิวกินเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นจาก 10-20% เป็น 30-40% ฯลฯ
ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเป็นผลพวงรวมศูนย์มาจากปัญหาประชาธิปไตยเป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
สำนึกทางการเมืองอ่อนแอ การสร้างความเข้มแข็งให้กับอุดมการณ์ซึ่งเคารพความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ยึดมั่นหลักการที่ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เป็นปฏิปักษ์โดยตรงต่อระบอบปกครองอำนาจนิยม ผลประโยชน์ของผู้ปกครองและชนชั้นบน จึงนำมาซึ่งประชาธิปไตยแบบไทยๆ วิปริตผิดเพี้ยน วิบัติจนปัจจุบันทุกวันนี้
โหยหาแต่คนดี โดยไม่รู้เลยว่า ชั่ว-ดี มีนิยามความหมายอย่างไรแน่
เพราะเหลวแหลก เลวร้าย ไม่มีศีล ไม่มีธรรมก็เห็นกราบไหว้กันประหลกๆ ใครแข็งขืนจับเข้าคุกเข้าตะรางเสียด้วยซ้ำ
ผู้นำเผด็จการได้อำนาจจากการทำรัฐประหาร ใช้อาวุธปล้นแย่งเขามายังเป็นที่ยอมรับเคารพนับถือกัน ทั้งๆ ที่คนพรรค์นี้ไม่มีทางลอยหน้าลอยตาชูคอได้ในสังคมศิวิไลซ์เป็นอันขาด
ต้องการเปลี่ยนแปลง อยากเห็นความแปลกใหม่ แต่ไม่เคยแยแสสนใจที่จะตั้งคำถามเลยว่า ระบอบซึ่งเป็นอยู่เอื้ออำนวยให้เกิดพัฒนาการทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมหรือไม่
บ้านเมืองก็เลยเวียนวนเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง ไปไม่ถึงไหนสักที
ล่าสุดที่สร้างความฮือฮาให้สังคมได้ไม่น้อย คือการเปิดตัวของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กับนโยบาย ‘เปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้’
ไม่เป็นที่สงสัยอะไรเลยถึงดีกรีความรู้ โพรไฟล์ยาวเหยียด สตอรีมากมายกับการทำงานในฐานะนักวิชาการ
แต่สำหรับบทบาทนักการเมืองแล้วยังเป็นที่สงสัย เพราะไม่ทันไรก็โป๊ะแตกเสียแล้ว แม้จะเป็นประเด็นเล็กๆ ก็ตามที
เปรียบเป็นสินค้าดูไฮเทคทันสมัยดีอยู่หรอก แม้บรรจุภัณฑ์จะโบราณ คร่ำครึ
จริงหรือปลอม ก็อปหรือแท้ คุณภาพเป็นอย่างไร ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในทางการเมือง แต่ที่แน่ๆ โม้คำโตโฆษณาเกินจริง อวดโอ่สรรพคุณ อ้างตัวเองเป็นทายาทสายตรงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ คนเดียวในแผ่นดินไทย
สัญญาว่าจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ประชาธิปัตย์บริหาร กทม. ติดต่อกันมาไม่รู้กี่สมัย มีผลงานอะไรให้เป็นที่จดจำ ทำสิ่งใดเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง
อาสาตนเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับประชาชน แต่กลับไพล่ไปสังกัดพรรคการเมืองซึ่งสยบยอมระบอบเก่า เป็นนั่งร้านให้ผู้ปกครองสืบทอดอำนาจมาจากการทำรัฐประหาร จุดยืนทางการเมืองชัดเจนอนุรักษ์สุดโต่ง
สำนึกทางการเมือง อุดมการณ์เป็นอย่างไร รู้เช่นเห็นชาติกันก็คราวนี้
มิน่าเล่า ประชาธิปไตยไทยถึงได้อ่อนแอ
