“ในวันที่สังคมเงียบสงัด จงเปลื้องผ้า ปลดปล่อยสัตว์ป่าในตัว และเคลื่อนไหวอย่างอิสระไปด้วยกัน”
การระบาดของโควิด-19 ได้ทำลายทั้ง ‘ชีวิต’ และ ‘ชีวา’ ของคนในสังคมไทยจำนวนมาก หลายชีวิตต้องสูญเสีย กิจการพากันทยอยปิดตัว งานสังสรรค์รื่นเริงกลายเป็นสิ่งต้องห้าม และการเคลื่อนไหวถูกทำให้หยุดชะงัก บางมุมของความเงียบสงัดนี้คล้ายคลึงกับสถานการณ์ในเดือนตุลาคมตลอดจนช่วงปลายปีเมื่อพ.ศ. 2559
Art เจอนี่ ในตอนที่ 3 ขอพาคุณเปิดประตูไปดูนิทรรศการ “The Things That Take Us Apart (2017)” งานศิลปะที่พาเราไปปลดเปลื้องจิตใจ เพื่อค้นหาและปลดปล่อย ‘เสียง’ ที่แท้จริงของตัวเอง ผ่านการเคลื่อนไหวไปพร้อมกับคนรอบตัว ในวันที่การแสดงออกไม่เป็นที่รับเชิญของสังคม
“ในขณะที่สถานที่อื่นๆ ไม่สามารถเปิดได้ แต่ทำไมคลับลีลาศที่นี่ถึงยังเปิดสังสรรค์ได้อยู่ มันทำให้เราตั้งคำถามและนำไปสู่การสำรวจสถานบันเทิงที่อื่นๆ ในเชียงใหม่ต่อ ซึ่งทำให้เราได้เจออะไรที่แปลกมาก เช่น มีคาราโอเกะในโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่งที่ปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งก่อนหน้านั้นที่นี่มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่สังสรรค์ของนักการเมืองท้องถิ่น แต่พอประเทศมีการเปลี่ยนขั้วอำนาจ ที่นี่ก็ถูกรัฐบาลสั่งปิดไป”
“เราอยากทดลองเชิงความสัมพันธ์ระหว่างเวลา สถานที่และผู้คนรอบๆ ตัว เลยหาคนแปลกหน้า 8 คนมาแสดงออกและมีปฏิสัมพันธ์กันในพื้นที่แห่งนี้ ในช่วงที่บ้านเมืองมีสภาวะแปลกไปจากเดิม โดยเรามีคำสามคำให้เขาคือ หนึ่ง ตามหาสัตว์ป่าในตัวเอง สวมวิญญาณสัตว์นั้น แล้วแสดงออกมา สอง ตามหาคนที่เป็นกระจกสะท้อนซึ่งกันและกัน แล้วเคลื่อนไหวไปด้วยกัน สาม จงเป็นอิสระ ซึ่งเรามองว่านี่คือการสร้างพื้นที่การแสดงออก ให้คนได้ปลดปล่อยและสร้างการเคลื่อนไหวไปด้วยกัน ซึ่งถ้ามองในด้านการเมือง เราขาดพื้นที่แบบนี้”
ดำเนินรายการโดย ปาล์ม – ธาดา เฮงทรัพย์กูล และ ฟ้าใหม่ พงศกรเสถียร