“สังคมต้องเห็นความเป็นมนุษย์ด้วยกัน จึงจะสลายความมืดมิดและเยือกเย็นโดยรัฐได้”
ผ้าเคลือบสีดำชนิดพิเศษจำนวน 49 ผืนวางเรียงรายในห้องกว้างสีขาว เมื่อนำผืนผ้าขึ้นมากอดแนบชิดกับอก ไออุ่นจากร่างกายทำปฏิกิริยากับชิ้นงานและเผยให้เห็นภาพใบหน้าคน พวกเขาเหล่านี้คือผู้ที่ถูกกระทำโดยรัฐ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง บุคคลที่โดนมาตรา 112 หรือทหารที่เสียชีวิตขณะฝึกซ้อม ด้านล่างของภาพมีหมายเลขกำกับ ที่พาเรากวาดสายตาไปเจอกับข้อมูลบนผนัง บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของพวกเขาที่ ‘สุข’ ถูกทำให้ ‘สลาย’
Art เจอนี่ ในตอนที่ 2 ขอพาคุณเปิดประตูไปดูนิทรรศการ ‘สุขสลาย’ งานศิลปะที่พาเราไปโอบกอดความเจ็บปวดของผู้ที่ถูกกระทำโดยรัฐ เพื่อตั้งคำถามกับความมืดมิดและเงียบงันที่ซุกซ่อนความอยุติธรรมในสังคมไทย
“คิดดูว่าในปี 2557 เราไม่สามารถพูดถึงเรื่อง 6 ตุลาได้ ทหารสั่งยกเลิกกิจกรรมงานรำลึก ‘6 ตุลา วันฟ้าเปลี่ยนสี’ ที่จัดโดยกลุ่มเกลียวแห่งธรรม หลังจากนั้นก็สั่งห้ามฉาย The Hunger Game รอบที่กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตยชวนคนไปดู และยังรวบตัวทีมผู้จัดไปตักเตือนด้วย อีกกรณีที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือเมื่อปี 2558 ตำรวจกับทหารบุกไปวัดเพื่อสั่งห้ามจัดงานทำบุญเพื่อระลึกถึงวีรชนที่เสียชีวิตเมื่อ10 เม.ย. ปี 2553”
“ปี 2560 เป็นช่วงที่ประเทศถูกทำให้เงียบที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา และมันเป็นความเงียบที่ผิดปกติ สังคมว่าเงียบแล้ว วงการศิลปะยิ่งเงียบเข้าไปอีก เรารู้สึกไม่ไหวแล้ว เราต้องพูด ต้องทำอะไรสักอย่างเดี๋ยวนั้น เลยใช้เวลาสิบวันเร่งทำนิทรรศการนี้ขึ้นมา”
“มีคนที่เจ็บปวดโดยรัฐเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่ห้องแกลเลอรี่นี้จะบรรจุได้ ทำให้เราเลือกเสนอได้เพียงแค่ 49 คน อย่าง น้องเฌอ เด็กอายุ 17 ที่เสียชีวิตจากการถูกยิงที่หัวในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่ทางโฆษกรัฐบาลประกาศว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริง อีกกรณีคือลุงนวมทองที่ขับแทกซี่ชนรถถังในปี 2549 เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร เขาตัดสินใจแขวนคอตัวเองหลังโฆษกคปก.ออกมาพูดว่า ‘ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้’ หรืออย่างบิลลี่จากหมู่บ้านบางกลอย และน้องเมยที่เสียชีวิตจากการฝึกซ้อมทหาร ที่ตอนนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า”
ดำเนินรายการโดย ปาล์ม – ธาดา เฮงทรัพย์กูล และ ฟ้าใหม่ พงศกรเสถียร