fbpx
3 ทฤษฎีบทแห่ง Game of Thrones *คำเตือน มีสปอยล์ตั้งแต่ชื่อต้นเรื่อง

3 ทฤษฎีบทแห่ง Game of Thrones *คำเตือน มีสปอยล์ตั้งแต่ชื่อต้นเรื่อง

โตมร ศุขปรีชา เรื่อง

ภาพิมล หล่อตระกูล ภาพประกอบ

 

ทีเรียนขี่มังกร ยูรอนฆ่าเซอร์ซี่ และแดนี่เป็นแมดควีน

 

ไม่ได้จะสปอยล์นะครับ แต่เพราะ Game of Thrones ใกล้จะจบแล้ว จึงอยากชวนคุณมาดู 3 ทฤษฎีบทว่าด้วย 3 ตัวละครสำคัญในซีรีส์ปรากฏการณ์เรื่องนี้ ว่ามีใครเคยวางสมมติฐานอะไรไว้บ้าง ตอนนี้ สมมติฐานเกี่ยวกับตัวละครทั้ง 3 ยังไม่ถึงช่วงเวลาคลี่คลาย แต่รับรองได้ว่าจะต้องคลี่คลาย (ว่าเป็นสมมติฐานที่ถูกหรือผิด) ภายในอีกสองตอนนี้แน่นอน เนื่องจาก Game of Thrones ใกล้จะจบแล้ว

ดังนั้น เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้จึงไม่ใช่การสปอยล์โดยนิยามของคำว่าสปอยล์ เพราะนิยามของการสปอยล์คือการรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว แล้วจึงนำมาเล่า เช่น บอกว่าบรูซ วิลลิส เป็นผี ก่อนที่ใครจะได้ดูหนังเรื่อง The Sixth Sense อันจะทำให้เสียอรรถรส แต่สมมติฐานต่อไปนี้ คือการคาดการณ์ คือการ ‘เดา’ จากกลุ่มคนที่ติดตาม Game of Thrones อย่างละเอียด และได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้

ซึ่งอาจช่วยให้ดูได้สนุกขึ้นด้วยซ้ำ

 

ทีเรียนขี่มังกร

 

ทีเรียนไหน?

ก็ทีเรียน แลนนิสเตอร์ (Tyrion Lannister) หรือ The Imp ลูกคนสุดท้องของพ่อผู้ทรงอำนาจอย่าง ไทวิน แลนนิสเตอร์ (Tywin Lannister) ผู้เป็นน้องของเซอร์ซี (Cersei) และเจมี่ (Jamie) นั่นเอง

แล้วทำไมทีเรียนถึงจะขี่มังกรได้?

เรื่องนี้เป็นการคาดเดาของแฟนซีรีส์ GoT มานานแล้ว โดยเฉพาะในซีซันที่ 4 เมื่อทีเรียนได้เข้าไปเผชิญหน้ากับมังกรสองตัว คือเรกาล (Rhaegal) กับวิสเซอเรียน (Viserion) ที่เมืองมีรีน (Meereen) โดยมังกรทั้งสองตัวถูกล่ามเอาไว้ในคุกใต้ดินเพราะแดเนอริส ทาร์แกเรียน (Daenerys Targaryen) ขังเอาไว้

ตอนนั้น ทีเรียนบอกกับวาริส (Varys) ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งของแดเนอริสว่ามังกรเป็นสัตว์ที่ฉลาด มันรู้ว่าใครคือเพื่อน ใครคือศัตรู ดังนั้นมันจะไม่ทำร้ายทีเรียน เพราะมังกรรู้ว่าทีเรียนคือเพื่อน

เผื่อใครไม่รู้ ต้องบอกไว้ตรงนี้เสียก่อนว่า คนที่จะขี่มังกรหรือสัมผัสกับมังกรได้นั้น จะต้องเป็นคนที่อยู่ในตระกูลทาร์แกเรียนเท่านั้น แต่กระนั้นก็ไม่ได้แปลว่า สายเลือดทาร์แกเรียนทุกคนจะสามารถบังคับมังกรได้เสมอไป

ถ้าไปดูในหนังสือ (ในซีรีส์ไม่มี) จะมีตัวละครอีกตัวหนึ่งชื่อ เควนติน มาร์เทล (Quentyn Martell) ซึ่งแม้จะอยู่ในตระกูลมาร์เทล แต่ก็มีสายเลือดทาร์แกเรียนด้วย เขาพยายามเข้าไปหาวิสเซอเรียน แต่ปรากฏว่าถูกเรกาลพ่นไฟใส่จนตาย เหตุการณ์นี้เกิดที่มีรีน ซึ่งก็คือที่เดียวกับที่ทีเรียนเข้าไปเผชิญหน้ากับมังกรนั่นเอง

คำถามก็คือ ขนาดคนมีสายเลือดทาร์แกเรียน (ถึงจะน้อยนิด) กับคนที่เชื่อว่าไม่มีความเป็นทาร์แกเรียนเลยอย่างทีเรียนนั้น ทำไมคนหนึ่งถึงถูกมังกรพ่นไฟตาย แต่อีกคนถึงไม่โดน แถมในซีซันที่ 6 ตอนที่ 2 ทีเรียนก็ยังปล่อยโซ่ล่ามทั้งเรกาลและวิสเซอเรียนได้สำเร็จอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นคนที่ได้พบปะกับมังกรอย่างใกล้ชิด — แต่ไม่ตาย

ที่จริงแล้ว ใน Game of Thrones มีคำพยากรณ์ (Prophecy) เอาไว้ว่า จะมีบุคคล 3 คนที่เรียกว่า Three Heads of the Dragon ซึ่งหลายคนเชื่อว่าคือผู้ที่สามารถ ‘ขี่มังกร’ ได้นั่นเอง แล้วพอบอกว่าเป็น Three Heads ก็แปลว่าต้องมี 3 คน โดยคนที่เราเห็นว่าขี่มังกรได้แน่ๆ ย่อมคือ ‘แม่มังกร’ อย่าง แดเนอริส ทาร์แกเรียน หรือแดนี่ คนที่สองที่เราเห็นว่าขี่มังกรไปแล้วก็คือ จอน สโนว์ (Jon Snow)

คำถามก็คือ แล้วใครคือคนที่ 3 ?

แม้ตอนนี้มังกรจะเหลือตัวเดียว คือตัวที่แดนี่ขี่ ชื่อโดรโกน (Drogon) ส่วนเรกาลที่จอน สโนว์ ขี่ ถูกยิงตกน้ำ และวิสเซอเรียนถูกเหล่าไวท์วอล์คเกอร์สังหารไปแล้วจนกลายเป็นมังกรซอมบี้ (และสุดท้ายก็น่าจะสลายร่างไปพร้อมกับไนท์คิง) แต่คำถามเดิมก็ยังคงอยู่ ว่าแล้วใครเป็นผู้ขี่มังกรคนที่ 3 กันแน่

มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ทีเรียนนี่แหละ ที่แสดงความกระหายอยากขี่มังกรให้เห็นหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้หรือเปล่า ที่เขาจะเป็นผู้ขี่มังกรคนที่ 3 แต่จะเป็นแบบนั้นได้ แปลว่าเขาจะต้องมีเลือดของทาร์แกเรียนอยู่ในตัว (แบบเดียวกับแดนี่และจอน) ซึ่งอาจแปลว่าพ่อของเขาอาจไม่ใช่ไทวิน แลนนิสเตอร์ก็ได้ เป็นไปได้ไหมว่า แม่ของเขา (คือ โจแอนนา แลนนิสเตอร์) อาจมีสัมพันธ์กับแอริส ทาร์แกเรียน (Aerys Targaryen) ผู้ได้ฉายาว่าเป็น The Mad King (และถูกเจมี่ แลนนิสเตอร์ สังหาร) ซึ่งทำให้เขาเองก็มีสายเลือดนี้อยู่ในตัว

ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็แปลว่าจะมี ‘3 คน’ (Threee Heads) ที่สามารถขี่มังกรหนึ่งตัว (The Dragon ที่ไม่มี s) ได้

 

ยูรอนฆ่าเซอร์ซี

 

ใครคือยูรอน?

ยูรอน เกรย์จอย (Euron Greyjoy) คือน้องของบาลอน เกรย์จอย จากตระกูลเกรย์จอย ซึ่งเริ่มมามีบทบาทมากๆ ในตอนหลังของซีรีส์ โดยเฉพาะเมื่อเขามีสัมพันธ์กับเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เป็นผู้บังคับบัญชากองเรือให้เธอ ทั้งยังเป็นผู้ใช้เครื่องยิงสังหารมังกรเรกาลของแดนี่จนตกน้ำด้วย

คำถามก็คือ — แล้วถ้ายูรอนมีเซอร์ซีเป็นควีน เขาจะฆ่าเซอร์ซีทำไมกัน

นี่เป็นอีกเรื่องที่มีสมมติฐานจากคำพยากรณ์ โดยคำพยากรณ์บอกว่า เซอร์์ซีจะตายด้วยน้ำมือของ valonqar ซึ่งคำนี้แปลว่า younger brother ฟังเผินๆ อาจนึกถึงเจมี่หรือไม่ก็ทีเรียน

แต่กระนั้นก็มีคนตั้งคำถามว่า คำว่า younger brother นั้น หมายถึงอะไรได้บ้าง เพราะคำว่า valonqar ไม่ได้มีความหมายว่า your younger brother คือเป็นน้องชาย ‘ของ’ เซอร์ซี แต่มันหมายถึง the valonqar ซึ่งแปลว่าเป็นน้องชายของใครก็ได้ ความหมายก็คือต้องไม่ใช่พี่คนโตเท่านั้นเอง (แล้วก็อย่างที่รู้ ยูรอนเป็นน้องของบาลอน)

อีกบางความเห็นแย้งว่า คำว่า valonqar น่าจะเป็นคำที่มีเพศเป็นกลาง คือไม่ได้หมายถึงชายหรือหญิง ดังนั้นคนฆ่าเซอร์ซีอาจจะเป็น อาร์ยา สตาร์ค (Arya Stark) ตามคำทำนายของแม่มดแดงก็ได้ (อาร์ยาก็ไม่ใช่ลูกคนโตเช่นกัน) ถ้าเป็นอย่างนั้น คำนี้จึงน่าจะแปลว่า sibling มากกว่า brother แต่ก็มีคนแย้งอีกว่า ในหนังสือเขียนไว้ถึงคำทำนายว่า “the valonqar will wrap HIS hands around your pale white throat” คือใช้คำว่า his ดังนั้น valonqar จึงต้องเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ เซอร์ซีบอกกับยูรอนว่าเธอตั้งครรภ์ลูกของเขา ดังนั้นเขาจึงคาดหวังว่า เมื่อเสร็จศึกรับใช้เซอร์ซีจนได้ชัยชนะแล้วจะกลับมาแต่งงานกับเธอ จะได้ครองบัลลังก์ร่วมกัน แต่คำถามก็คือ เด็กคนนั้นเป็นลูกของยูรอนจริงหรือเปล่า เป็นไปได้ไหมที่จะเป็นลูกอีกคนหนึ่งของเจมี่ เพราะทั้งคู่มีอะไรกันในซีซันก่อนหน้าในคราวที่เจมี่กลับมาคิงส์แลนดิ้ง แต่เซอร์ซีเลือก ‘ใช้’ กลยุทธ์หลอกบอกยูรอนเช่นนั้น เพื่อให้เขา ‘รับใช้’ เธอ อันเป็นวิธีการแบบแลนนิสเตอร์แท้ๆ จึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าหากยูรอนค้นพบความจริง คนโหดร้ายอย่างเขาไม่น่าจะไว้ชีวิตเซอร์ซี

เอาเป็นว่า สมมติฐานว่าใครฆ่าเซอร์ซีนี้มีผู้ท้าชิงหลายคน ตั้งแต่ อาร์ยา, เจมี่, ทีเรียน รวมถึงยูรอน ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าซีรีส์จะให้เซอร์ซีตายอย่างไร

หรือ — เธออาจจะไม่ตายก็ได้!

 

แดนี่เป็นแมดควีน

 

ตระกูลทาร์แกเรียนเคยมีแมดคิง (Mad King) มาแล้ว คือ แอริส ทาร์แกเรียน คำถามจึงคือ เป็นไปได้ไหมที่ ‘ความบ้า’ จะซ่อนตัวอยู่ในสายเลือด และรอเวลาแสดงตัวออกมาเมื่อถูกกดดันมากๆ

เราจะเห็นได้ว่า ในระยะหลัง หลังต่อสู้และเดินทางมายาวนาน แดนี่มักพูดถึง ‘ฉัน’ ‘ตัวฉัน’ ‘บัลลังก์ของฉัน’ ‘มังกรของฉัน’ บ่อยครั้งมาก รวมทั้งดูบ้ายศบ้าตำแหน่ง มีชื่อที่มีสร้อยยาวเฟื้อย คำถามก็คือ เป็นไปได้ไหมที่แม้เธอจะดูเป็น ‘คนดี’ ในตอนแรกๆ แต่เมื่อได้รับความกดดันจากการต่อสู้มากเข้า ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่เธออาจ ‘สติแตก’

แดนี่ต้องเสีย ‘ลูก’ คือมังกรไปถึงสองตัวในเวลาใกล้เคียงกัน เธอต้องเผชิญหน้ากับกองทัพไวท์วอล์คเกอร์ โดยกองทัพดอธราคี (Dothraki) ของเธอเป็นเหมือนทัพหน้าที่ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก แถมยังค้นพบว่าด้วยว่า คนที่เธอรัก คือ จอน สโนว์ กลายมาเป็น ‘หลาน’ ของตัวเอง ยังไม่พอ คนที่ภักดีที่สุดของเธอ คือจอราห์ มอร์มอนต์ (Jorah Mormont) ก็ต้องมาตายในศึกครั้งนี้ด้วย ทั้งหมดนี้จึงเป็นแรงกดดันมหาศาล

ที่จริงแล้ว ตระกูลทาร์แกเรียนเป็นตระกูลที่มีการแต่งงานใกล้ชิดมากที่สุดตระกูลหนึ่ง นิยายบอกใบ้ไว้ว่า พันธุกรรมชิดทำให้ตระกูลนี้มักมีความพร่องทางจิตบางอย่างแทรกซ่อนอยู่ เซอร์ซีเคยบอกเอาไว้ว่า ทุกครั้งที่มีคนตระกูลทาร์แกเรียนเกิด เทพเจ้าจะพลิกเหรียญกลับด้านเสมอ อย่างแอริสนั้น พ่อแม่ของเขาก็เป็นพี่น้องกัน แล้วเมื่อได้ครองบัลลังก์ แอริสก็พาอาณาจักรดำดิ่งลงสู่ความบ้า พ่อแม่ของแดนี่ก็เป็นพี่น้องกันเช่นเดียวกับพ่อแม่ของแอริส แต่เธอดู ‘ปกติ’ ที่สุดเท่าที่มนุษย์ที่มีอำนาจขนาดนั้นจะปกติได้มาตลอด จนกระทั่งในระยะหลัง

เรื่องสำคัญที่อาจเป็นจุดพลิกผันความเป็น ‘คนดี’ ของแดนี่ ก็คือการเดินทางมาแดนเหนือ เธอต้องเผชิญหน้ากับ ‘พี่น้อง’ ของจอน (โดยเฉพาะซานซ่า) ที่ไม่ชอบหน้าเธอเอาเสียเลย นั่นอาจเป็นอุปสรรครักของเธออย่างหนึ่งก็ได้ แต่อุปสรรครักที่สำคัญที่สุดก็คือการที่เธอค้นพบว่า จอน สโนว์ มีสายเลือดทาร์แกเรียนเหมือนกัน ดังนั้นนอกจากภาวะญาติชิดที่ไม่ควรแต่งงานกันแล้ว เรื่องนี้ยังทำให้เขามีสิทธิในบัลลังก์ไม่น้อยไปกว่าเธอ (หรืออาจมีมากกว่าด้วยซ้ำไป)

เป็นไปได้ไหม ที่ความกดดันเหล่านี้จะทำให้ทั้งแดนี่และจอนต้องต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กัน เพราะแม้หลายคนเห็นว่าจอน สโนว์ สมควรเป็นกษัตริย์มากกว่า แต่แดนี่ก็มีมังกรอยู่ในมือ เธออาจใช้มันเพื่อทำอะไรบางอย่างที่ช็อกคนดูมากๆ ก็เป็นได้ และหากเป็นเช่นนั้น คนอื่นๆ ย่อมมองว่าเธอเป็นบ้า — เป็นแมดควีน

ในซีซัน 7 วาริสกับทีเรียนเคยคุยกันถึงแมดคิงและสิ่งร้ายกาจที่กษัตริย์บ้าเคยทำ ทั้งคู่คุยกันมาจนถึงเรื่องแดนี่ และวาริสก็เตือนทีเรียนว่า ทีเรียนควรต้องให้คำปรึกษากับแดนี่อย่างเข้มข้นกว่านี้ เพราะเป็นไปได้เหมือนกันว่าเธออาจจะสติเสียได้ มาในซีซัน 8 วาริสก้าวไกลไปถึงขั้นบอกทีเรียนว่า จอน สโนว์ อาจเป็นผู้นำที่ดีกว่าแดนี่ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น ก็เป็นไปได้ที่แดนี่จะต้องจัดการอะไรบางอย่างกับ จอน สโนว์ (และญาติพี่น้องของเขา) จนบางคนสันนิษฐานว่า เป็นไปได้ไหมที่สุดท้ายแล้วแดนี่จะกำจัด จอน สโนว์ จนเหลือการต่อสู้ขั้นสุดท้ายระหว่าง Mad Queen เพียงสองคน คือแดนี่กับเซอร์ซี

อีกข้อสังเกตหนึ่งก็คือ แดนี่ดูมีแนวโน้มจะอยากบุกคิงส์แลนดิ้งอย่างรุนแรง ในขณะที่ จอน สโนว์ กลับไม่อยากทำอย่างนั้น รวมทั้งหากย้อนกลับไปในซีซัน 2 เราจะพบว่าแดนี่เคยมีภาพประจักษ์ว่าเธอเดินอยู่ในสถานที่ที่คล้ายกับคิงส์แลนดิ้ง โดยมีสิ่งที่คล้ายกับหิมะตกอยู่รอบตัว แต่ปรากฏว่าสิ่งนั้นไม่ใช่หิมะ มันคือเถ้าที่เกิดจากการเผา ดังนั้นจึงมีบางคนสันนิษฐานว่า แดนี่อาจใช้มังกรที่เหลืออยู่บุกคิงส์แลนดิ้งแล้วทำลายเมือง (รวมทั้งชาวเมืองทั้งหลาย) ให้สิ้นซาก กระทั่งเถ้าถ่านลอยคว้างและร่วงหล่นรอบตัวเธอก็เป็นไปได้

 

Game of Thrones เป็นซีรีส์ปรากฏการณ์ คือได้รับความนิยมอย่างมาก และมีลักษณะพิเศษคือซีรีส์สร้างนำนิยายไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องบอกคุณว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้บนบัลลังก์เหล็กแห่งนี้อย่างคาดเดาไม่ได้ เพราะไม่มีหนังสือมาเป็นไกด์นำทาง

หน้าที่ของคนดูผู้ไร้อำนาจจะกำหนดกฎเกณฑ์อะไรให้ตัวเองได้ จึงทำได้เพียงเฝ้าดูความเป็นไปของบัลลังก์เหล็กแห่งนี้เท่านั้น ว่าจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร และจะจบสิ้นลงอย่างไร

อีกไม่นาน – เราก็จะรู้

MOST READ

Life & Culture

14 Jul 2022

“ความตายคือการเดินทางของทั้งคนตายและคนที่ยังอยู่” นิติ ภวัครพันธุ์

คุยกับนิติ ภวัครพันธุ์ ว่าด้วยเรื่องพิธีกรรมการส่งคนตายในมุมนักมานุษยวิทยา พิธีกรรมของความตายมีความหมายแค่ไหน คุณค่าของการตายและการมีชีวิตอยู่ต่างกันอย่างไร

ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย

14 Jul 2022

Life & Culture

27 Jul 2023

วิตเทเกอร์ ครอบครัวที่ ‘เลือดชิด’ ที่สุดในอเมริกา

เสียงเห่าขรม เพิงเล็กๆ ริมถนนคดเคี้ยว และคนในครอบครัวที่ถูกเรียกว่า ‘เลือดชิด’ ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เรื่องราวของบ้านวิตเทเกอร์ถูกเผยแพร่ครั้งแรกทางยูทูบเมื่อปี 2020 โดยช่างภาพที่ไปพบพวกเขาโดยบังเอิญระหว่างเดินทาง ซึ่งด้านหนึ่งนำสายตาจากคนทั้งเมืองมาสู่ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้

พิมพ์ชนก พุกสุข

27 Jul 2023

Life & Culture

4 Aug 2020

การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”

กษิดิศ อนันทนาธร เขียนถึงเรื่องราวการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์ราชสกุล “มหิดล” ซึ่งมีบทบาทในฐานะผู้สืบราชสันตติวงศ์ หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎร 2475

กษิดิศ อนันทนาธร

4 Aug 2020

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save