เสียงท่อดังทรมานทรกรรมรูหูคนฟัง กลิ่นเหม็นแสบของยางไหม้ และความเร็วถือเป็นศาสนาประจำหัวใจ
ชีวิตที่อยู่กับความเร็ว 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สบตากับป้ายหาเสียงที่เรียงรายอยู่สองข้างทางทุกค่ำ ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งเช่นนี้ หนึ่งในคำถามที่หลายคนอาจสงสัยอยู่เรื่อยมาคือ ‘เด็กแว้น’ อยากลงคะแนนเสียงให้ใคร มีนโยบายไหนที่พวกเขารู้สึกว่าควรค่าแก่การออกเสียงให้
ที่สำคัญคือ จริงเท็จแค่ไหนกันที่ว่าเด็กแว้นนั้นไม่สนใจการเมือง
กับบางคน ทั้งชีวิตไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองถูกนับรวมเข้าเป็นหน่วยเล็กๆ ในสังคม ไม่มีนโยบายใดที่ทำให้พวกเขาเห็นความเป็นไปได้อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ของชีวิต เกิดมา-ดำรงอยู่-แล้วจากไป เสพความเร็ว สบตากับความระทึกทุกค่ำคื่นให้ได้พอรู้สึกตื่นเต้น หลีกหนีความทึมเทาของความจริง ได้เสียงด่าทอหรือสาปแช่งจากผู้คนบ้างก็ถือเป็นราคาที่ต้องจ่าย พ้นวัยของการแว้นไปก็ถือเป็นเรื่องที่ค่อยคิดเมื่อถึงเวลา -อนาคตเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ คาดการณ์ไกลไปไม่ได้อะไรขึ้นมา
แต่กับยุคสมัยที่พลวัตทางการเมืองเปลี่ยนแปลง พลิกผันกันเดือดดาลยิ่งกว่ายุคสมัยใดในอดีตเช่นนี้ เหล่าเด็กแว้นมองความเปลี่ยนผ่านนี้อย่างไร ยังไม่ต้องพูดถึงการตื่นตัวทางการเมืองในรอบ 2-3 ปีก่อน ที่อาจหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังไว้ให้พวกเขาได้เพาะในหัวใจ หรือไม่ -มันก็อาจไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเหตุการณ์สามัญที่บังเกิดขึ้นในช่วงใดช่วงหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ที่เหล่าเด็กแว้นไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ
แล้วอันที่จริง ชาวเด็กแว้นเขาอยากซิ่งเข้าคูหาไปกาให้พรรคไหนบ้าง!